"ณัฐกฤษณ์ จอมเกตุ" มิตรแท้ มอเตอร์ ดีลเลอร์ใหม่นิสสัน ซื้อใจลูกค้าชุมพร

ในยุคที่อุตสาหกรรมยานยนต์ กำลังเผชิญความท้าทาย จากเทคโนโลยีขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ข้อกำหนดด้านไอเสียที่เข้มงวด และนโยบายสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอน ซึ่งเป็นโจทย์ใหญ่และเป้าหมายทางธุรกิจ อันสะท้อนความรับผิดชอบต่อสังคมบนความรักโลกรักษ์สิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกัน บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ดั้งเดิมที่อยู่ในอุตสาหกรรม นี้มานานเกือบศตวรรษ ยังถูกผู้ประกอบการหน้าใหม่ ทั้ง Tesla และบรรดาแบรนด์จีน เข้ามาแย่งยอดขายภายใต้พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป สภาพแวดล้อมทางการตลาดที่เปลี่ยนแปลง

นิสสัน หนึ่งในบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของญี่ปุ่น ที่ลงหลักปักฐานธุรกิจในไทยมากว่า 70 ปี พยายามปรับตัวเพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์นี้ เช่นกัน

ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย มีการ Turnover ของเครือข่ายผู้จำหน่าย พร้อมแผนปรับโครงสร้างธุรกิจให้สอดคล้องกับยอดขาย และจำนวนรถยนต์ที่ทำตลาด ซึ่งในปัจจุบันเหลือ Core Model เพียง Almera Kicks Navara และ Terra

ทว่า บริษัท มิตรแท้ มอเตอร์ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจยานยนต์รายใหญ่ในเขตภาคใต้ตอนบน กลับมองว่านี่เป็นโอกาสในการขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ ด้วยการสมัครเป็นดีลเลอร์นิสสัน จ.ชุมพร

ดีลเลอร์น้องใหม่ของนิสสัน ลงทุนเปิดโชว์รูม-ศูนย์บริการ บนถนนหลวงสาย 41 ใกล้กับ บขส.ชุมพร ซึ่งกำลังเข้าสู่ปีที่สองของการดำเนินงาน แต่ยังมีคำถามว่า ในสถานการณ์ตลาดรถยนต์ที่กำลังผันผวนถูกป่วนด้วยค่ายรถยนต์จีน ทำไม “มิตรแท้ มอเตอร์” ถึงกล้า ลงทุนกับแบรนด์รถยนต์ญี่ปุ่นอย่างนิสสัน

“โปรเจ็กต์นี้ถือเป็นการขยายความแข็งแกร่งให้กลุ่ม มิตรแท้ มอเตอร์ ที่ทำธุรกิจรถยนต์มาแล้ว 26 ปี ดังนั้นการร่วมงานกับนิสสัน จะทำให้ลูกค้าใน จ.ชุมพร มีทางเลือกในการซื้อรถที่ง่ายขึ้น” นายณัฐกฤษณ์ จอมเกตุ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิตรแท้ มอเตอร์ จำกัด กล่าวและว่า

นิสสัน มิตรแท้ ชุมพร ใช้เงินลงทุน 20 ล้านบาท (ไม่รวมที่ดิน) เปิดดำเนินการตั้งแต่เดือนมกราคม 2566 ประกอบด้วยโชว์รูมทันสมัยภายใต้ CI ใหม่ ศูนย์บริการ 8 ช่องซ่อม พร้อมศูนย์ซ่อมสีตัวถัง แม้นิสสันจะมี 2 ดีลเลอร์ในชุมพร แต่เรามองว่ายังเป็นตลาดที่มีโอกาสเติบโตได้

ตลาดรถยนต์ชุมพร มียอดขายประมาณ 6,000-7,000 คันต่อปี ซึ่งรถกระบะจะเป็นตัวขายหลักในสัดส่วน 70% เนื่องจากเป็นจังหวัดที่ทำการเกษตร (ผลไม้, ยางพารา, ปาล์มนํ้ามัน) และพื้นที่เป็นทางฝุ่น ถนนลูกรังเยอะ

อย่างไรก็ตาม ในปีแรกของการดำเนินธุรกิจ ที่ต้องเจอกับสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งยอดขายรถกระบะควรจะมีมากกว่านี้ แต่ติดปัญหาเรื่อง การปล่อยสินเชื่อของสถาบัน การเงิน ทำให้ยอดขายรวมของ นิสสัน มิตรแท้ ชุมพร ในปี 2566 ทำได้ 40 คัน

“นอกจากรถกระบะแล้ว นิสสัน ยังมีความโดดเด่นจากรถยนต์นั่ง ไม่ว่าจะเป็น Nissan Almera รถซีดานที่มีความคุ้มค่า รวมถึง Nissan Kicks e-Power บี-เอสยูวี สมรรถนะดีและประหยัดนํ้ามัน โดยในปีนี้ เราจะพยายามพัฒนาการสื่อสารการตลาดผ่านแพลต ฟอร์มออนไลน์ต่างๆ รวมถึงออกแบบกิจกรรมใหม่ๆ เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าทั้งใน อ.เมืองชุมพร และชานเมืองให้มากขึ้น”

ดังนั้น ปี 2567 เราคาดว่าจะทำยอดขายได้เพิ่มขึ้น หรือมองเอาไว้ที่ 100 คัน โดยแบ่งสัดส่วนการขายเป็นรถยนต์นั่ง 70% และรถกระบะ 30% ต่างจากที่เคยประเมินไว้ในช่วงแรกๆ ของการทำธุรกิจว่า รถสอง ประเภทนี้จะมีสัดส่วนการขายใกล้เคียงกันที่ 50/50

นายณัฐกฤษณ์ ยังฝากข้อสังเกตถึง นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย ว่า นิสสัน เป็นแบรนด์ที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าชาวไทยมายาวนาน เพียงแต่ต้องเลือกแนะนำโปรดักต์ใหม่ ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ขณะเดียวกัน ยังอยากเห็นความรวดเร็วในการปรับตัวของบริษัทแม่ ทั้งกลยุทธ์ทางการตลาด ราคาขาย และโปรโมชัน เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน

“จริงๆ นิสสันเป็นรถที่ดีมากๆ ขายได้ด้วยฟังก์ชันที่เหมาะสมให้ความคุ้มค่า แต่วันนี้เราเห็นสภาพตลาดรถยนต์ที่เปลี่ยนไป เห็นการทำโปรโมชัน มีการลดราคาอย่างหนัก หรือบางค่าย (น้องใหม่) ยังไม่มีโชว์รูมก็ขายรถได้แล้ว”

ต่อคำถามถึงรถยนต์ไฟฟ้า EV ที่กำลังได้รับความนิยม นายณัฐกฤษณ์ ตอบ ประเด็นนี้ว่า จังหวัดชุมพรอาจจะยังไม่ใช่ตลาดของ EV แต่ถ้านิสสันมี EV ในราคาที่จับต้องได้ ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสในการขาย

“EV ในจ.ชุมพร ช่วงนี้ไม่ถึงกับเป็นกระแสมากนัก เพราะอย่างไรเสียรถกระบะยังเป็น สินค้าหลัก ส่วนนิสสัน คงต้องรอดูว่าจะมีรถยนต์รุ่นใหม่ๆ หรือ EV ในราคาสมเหตุสมผลทำตลาดหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ ใครที่เป็นลูกค้าของเราจะได้บริการแบบมิตรแท้ตลอดไป” นายณัฐกฤษณ์ กล่าวปิดท้าย

ทั้งนี้ มิตรแท้ มอเตอร์ มีธุรกิจดีลเลอร์รถยนต์ 5 แบรนด์ ครอบคลุมใน 3 จังหวัดภาคใต้ตอนบน คือ ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี สามารถทำยอดขายต่อปีรวมกันประมาณ 1,500 คัน