KEY
POINTS
ตลาดรถพรีเมี่ยม ผ่านไป 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย.68) ซบเซาตามภาวะเศรษฐกิจ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป (รวม มินิ) ทำยอดขายได้ 10,107 คัน ลดลง 4.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เมอร์เซเดส-เบนซ์ 6,767 คัน ลดลง 6.6% วอลโว่ 2,148 คัน ลดลง 28.5% รวมถึง อาวดี้ 584 คัน ติดลบ 21.6%
แม้ช่วงที่ผ่านมา ทุกค่ายต่างปรับพอร์ต และอัดโปรโมชันลดราคาอย่างหนัก และจากนี้ไปมีโอกาสเห็นโปรดักต์ใหม่ๆ ที่ราคาสมเหตุสมผล เช่น EV ของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ และ บีเอ็มดับเบิลยู ที่เตรียมขึ้นไลน์ประกอบในไทย
สำหรับเมอร์เซเดส-เบนซ์ เตรียมเปิดตัว CLA EV ปลายปี 2568 ก่อนจะเริ่มส่งมอบต้นปีหน้า คาดว่าราคาประมาณ 2.5 ล้านบาท ส่วน BWM i5 จากโรงงานจังหวัดระยอง พร้อมเปิดตัวปลายปีนี้เช่นกัน คาดว่าราคาเริ่มต้นประมาณ 3 ล้านบาท
ด้านวอลโว่ คาร์ ประเทศไทย เพิ่งเปิดตัว Volvo ES90 รถพลังงานไฟฟ้า 100% แบตเตอรี่แรงดัน 800โวลต์ ราคา 2.99 ล้านบาท เริ่มส่งมอบเดือนธันวาคมนี้
EV ตัวถังฟาสต์แบ็ครุ่นนี้ นำเข้าทั้งคันจากจีน พัฒนาบนแพลตฟอร์ม SPA2 มิติยาว 5,000 มม. กว้าง 1,942 มม. สูง 1,549 มม. ระยะฐานล้อ 3,102 มม. มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อหลัง กำลัง 333 แรงม้า แรงบิด 480 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 6.6 วินาที แบตเตอรี่ความจุ 88 kWh ชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้งวิ่งได้ระยะทาง 755 กม. (NEDC) รองรับการชาร์จ AC 11 kW และ DC 350 kW
นายคริส เวลส์ กรรมการผู้จัดการ วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย และมาเลเซีย เปิดเผยว่า ตลาดรถซีดานในพรีเมี่ยมเซกเมนต์ค่อนข้างใหญ่ และการมี ES90 จะเข้ามาเปิดโอกาสทางการขายให้วอลโว่ได้ ด้วยตัวรถออกแนวฟาสต์แบ็ค ต่างออกไปจากซีดานเดิมๆ ขณะที่ระยะต่ำสุดจากพื้นก็สูงขึ้นมาเล็กน้อย ประมาณเอสยูวี เชื่อว่ารถรุ่นนี้จะตอบโจทย์การใช้งานของคนไทย
ส่วนยอดขายหรือเป้าหมายการขาย บริษัทไม่สามารถบอกได้ แต่ตอนนี้ตลาดรถยนต์ยังเผชิญกับการควบคุมสินเชื่อจากสถาบันการเงิน อัตราการปฏิเสธสินเชื่อเพิ่มขึ้นเท่าตัว และสถานการณ์คงไม่ดีขึ้นไปกว่านี้มากนัก
สำหรับประเทศไทย สัดส่วนการขาย EV ของวอลโว่อยู่ที่ 80% ที่เหลือเป็น PHEV ทั้งนี้เป้าหมายของบริษัทไม่ได้เปลี่ยนไป โดยยังมุ่งไปที่รถพลังงานไฟฟ้า 100% เพียงแต่ในความเป็นจริงต้องดูความต้องการของแต่ละตลาด ที่พฤติกรรมผู้บริโภคต่างกัน เช่น มาเลเซีย กับ ไทย ซึ่งคนไทยให้การตอบรับ EV มากกว่ามาเลเซีย ดังนั้นการทำตลาดยังต้องมีคู่กันทั้ง EV และ PHEV
เราพยายามตั้งราคาให้สามารถแข่งขันได้ อย่างปีหน้า EX90 จะเพิ่มรุ่นย่อยใหม่พร้อมทำราคาน่าสนใจมากขึ้น ส่วนโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่เริ่มใช้ 1 มกราคม 2569 มีผลกระทบกับเราแน่นอน แต่ตอนนี้ยังไม่ได้สรุปว่าจะปรับราคาขึ้นทันทีหรือไม่
“เรายังไม่ได้ข้อสรุปสุดท้ายว่า จะปรับราคารถหรือไม่ เพราะต้องพิจารณาหลายปัจจัย และมีหลายวิธีในการบริหารจัดการด้านราคา แต่จริงๆ รถปลั๊ก-อินไฮบริด(เครื่องยนต์ต่ำกว่า 3.0 ลิตร) โดนขึ้นภาษีเยอะพอสมควร ซึ่งขอให้รอช่วงต้นปี 2569 จะประกาศความชัดเจนอีกครั้ง” นายคริส เวลส์ กล่าวสรุป
ประเด็นราคารถยนต์จากโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ แม้วอลโว่ ยังสงวนท่าที แต่สำหรับอาวดี้ ประกาศชัดเจนถึงการขยับราคาขึ้น
รายงานจากบริษัท ไมซ์สเตอร์ เทคนิค จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์อาวดี้ อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ว่า ภาครัฐมีแผนปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ โดยเน้นเพิ่มอัตราภาษีรถยนต์บางกลุ่ม โดยเฉพาะรถที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) ซึ่งอาจส่งผลต่อราคาขายปลีกของรถยนต์ จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2569 เป็นต้นไป
โดยรุ่นที่จะปรับราคาตามโครงสร้างภาษีใหม่ เช่น Audi A5 จะมีการปรับราคาขึ้นประมาณ 10-12% ขณะที่รถกลุ่มขนาดเครื่องยนต์เกิน 3,000 ซีซี ตระกูล RS หรือ High Performance อาทิ Audi RS Q8, RS7, RS6 คาดว่าราคาปรับขึ้นกว่า 2.5 ล้านบาท