มิตซูบิชิ ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า EV โรงงานแหลมฉบัง หวังไฮบริดดันยอดรวมทะลุ 3 หมื่นคัน

22 พ.ค. 2568 | 02:00 น.
อัปเดตล่าสุด :22 พ.ค. 2568 | 02:18 น.

มิตซูบิชิ หวังยอดขายปี 2568 ทะลุ 3 หมื่นคัน คาดเป็นสัดส่วนรถยนต์นั่ง 70% มุ่งมั่นผลิตและทำตลาดรถไฮบริด ทั้ง Xforce และ Xpander ส่วน EV เริ่มประกอบ Mini Cab MiEV รถเพื่อการพาณิชย์ขนาดเล็กที่โรงงานแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ปีนี้

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยืนยันธุรกิจยังแข็งแกร่ง ทั้งฐานการผลิตที่แหลมฉบัง จ.ชลบุรี และเครือข่ายดีลเลอร์เกือบ 200 แห่งทั่วประเทศ ตั้งเป้ายอดขายปี 2568 ให้กลับมาเกิน 3 หมื่นคัน เพิ่มส่วนแบ่งการตลาดจาก 4.8% เป็น 6.6%

 

ส่วนแผนงานรถยนต์ไฟฟ้า มิตซูบิชิได้บัตรส่งเสริมการลงทุนรถยนต์ไฟฟ้า โดยกลุ่มไฮบริด ประกอบทั้ง Xpander HEV และบี-เอสยูวีรุ่นใหม่ Xforce HEV

มิตซูบิชิ ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า EV ในไทยที่โรงงานแหลมฉบัง จ.ชลบุรี มิตซูบิชิ ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า EV ในไทยที่โรงงานแหลมฉบัง จ.ชลบุรี

ขณะเดียวกัน ยังทำตามเงื่อนไขแพกเกจ BOI ด้วยการขึ้นไลน์ประกอบมิตซูบิชิ EV ที่โรงงานแหลมฉบัง กับ Mini Cab MiEV รถเพื่อการพาณิชย์ขนาดเล็กพลังงานไฟฟ้า 100% ในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 แต่จะเป็นการดำเนินธุรกิจในรูปแบบ B2B ส่งรถให้บริษัทและหน่วยงานภาครัฐ นำไปใช้งาน โดยยังไม่เปิดขายให้แก่บุคคลทั่วไป

 

สำหรับ Mitsubishi Mini Cab MiEV เป็นมินิแวนประตูสไลด์ 2 ฝั่ง สามารถบรรทุกสินค้าได้ 350 กิโลกรัม พร้อมผู้โดยสาร 2 คน ส่วนพื้นที่เก็บสัมภาระเมื่อพับเบาะผู้โดยสารลงมีความยาว 2,685 มิลลิเมตร

 

Mitsubishi Mini Cab MiEV ใช้มอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 41 แรงม้า แรงบิด 196 นิวตัน-เมตร  ขับเคลื่อนล้อหลัง แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนความจุ 16 กิโลวัตต์ชั่วโมง ชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้งวิ่งได้ระยะทาง 150 กม.

ทั้งนี้ ในปี 2565 มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย นำ Mini Cab MiEV มาให้ไปรษณีย์ไทย ใช้ขนส่งพัสดุจำนวน 2 คัน หวังศึกษาอีวีเชิงพาณิชย์ พร้อมเก็บข้อมูลการใช้งานเครื่องชาร์จไฟฟ้า พฤติกรรมการใช้งานในกลุ่มของรถขนส่งพัสดุ และความเป็นไปได้ที่จะขยายการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย

 

สำหรับโครงการนำร่องนี้ เริ่มดำเนินการที่ไปรษณีย์หลักสี่ กรุงเทพฯ และไปรษณีย์คลองหลวง จ.ปทุมธานี ทั้งยังได้ความร่วมมือจาก โออาร์ (ปตท.) ช่วยติดตั้งสถานีชาร์จไฟ EV Station PluZ ณ ที่ทำการไปรษณีย์ทั้งสองแห่ง

มิตซูบิชิ ผลิต EV ในไทย เริ่มประกอบ Mini Cab MiEV ที่โรงงานแหลมฉบัง จ.ชลบุรี

นายสาโรจน์ มะอาจเลิศ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่สายงานขาย และบริการหลังการขาย บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า เร็วๆ นี้ บริษัทจะมีโมเดลธุรกิจ EV เพื่อภาคการขนส่งในไทย

 

“ตลาดอีวีในไทย ที่มีผู้เล่นเข้ามาหลายแบรนด์ และใช้เงินจำนวนมากเพื่อส่งเสริมการขาย แต่ส่วนแบ่งการตลาดยังอยู่ประมาณ 13%  ในส่วนมิตซูบิชิ ยังโฟกัสไปที่รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด แม้อีวี ยังมีอยู่ในแผนธุรกิจ แต่จะไม่ใช่โวลุ่มหลัก”

 

ล่าสุดกับการเปิดตัว Mitsubishi Xforce HEV ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ปัจจุบันมียอดจองเกือบ 3,000 คัน และเริ่มทยอยส่งมอบรถให้แก่ลูกค้าภายในเดือนพฤษภาคมนี้ โดยรุ่นท็อป Ultimate X ได้รับความนิยมสูงสุดด้วยสัดส่วน 70%

Mitsubishi Xforce HEV จะมีส่วนผลักดันให้ยอดขายรวมของมิตซูบิชิ ปีนี้เกิน 3 หมื่นคัน เพิ่มส่วนแบ่งการตลาดจาก 4.8% เป็น 6.6% ขณะที่กลุ่มอีโคคาร์อย่าง มิราจ แอททราจ ยังสามารถสร้างยอดขายได้ต่อเนื่อง ซึ่งปีหน้า 2569 (เริ่มใช้โครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่) จะทำตลาดต่อไปแน่นอน

มิตซูบิชิ ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า EV โรงงานแหลมฉบัง หวังไฮบริดดันยอดรวมทะลุ 3 หมื่นคัน

“ในอดีต มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ขายปิกอัพมากกว่ารถยนต์นั่ง แต่ช่วงหลังกลุ่มรถยนต์นั่งมีสัดส่วนมากกว่าแล้ว โดยปีนี้คาดว่าจะอยู่ในระดับ 70% และเป็นปิกอัพ 30%” นายสาโรจน์ กล่าวสรุป

 

ด้านแผนงานของบริษัทแม่ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชัน ที่เพิ่งลงนามในบันทึกข้อตกลง (MOU) กับ  ฟ็อกตรอน (Foxtron) บริษัทในเครือหงไห่ พริซิชั่น อินดัสทรี หรือ ฟ็อกคอนน์ (Foxconn) ไต้หวัน ให้เป็นผู้พัฒนาและผลิตอีวี

 

โครงการนี้ จะใช้โรงงาน Yulon Motor ไต้หวัน ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า EV แบรนด์มิตซูบิชิ เพื่อส่งออกไปขายยังภูมิภาคโอเชียเนีย (ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์) ในช่วงครึ่งหลังของปี 2569 โดยไม่เกี่ยวกับตลาดในอาเซียนและประเทศไทย