รีวิว BMW i5 eDrive40 อารมณ์ EV บุคลิก ICE

ก่อนการเปิดตัวโฉมใหม่ของ Mercedes-Benz E-Class W214 และ BMW 5 Series G60 ในไทย ผมมีโอกาสเป็นสักขีพยานในการลั่นระฆังชกยกแรกของมวยรุ่นมิดไซส์ ด้วยการบินไปทดสอบถึงประเทศออสเตรีย และ โปรตุเกส ในช่วงเวลาใกล้เคียง

หนึ่งในประเด็นที่น่าสนใจคือ ซีรีส์ 5 โมเดลเชนจ์ วางแผนขยับช่วงเวลาเปิดตัวเข้ามาใกล้กับ อี-คลาส โมเดลเชนจ์มากขึ้นเรื่อยๆ ครับ ใน 2-3 เจเนอเรชันหลัง จากที่เคยทิ้งระยะห่างกันเป็นปี กลายมาเป็นหัวปี-ท้ายปี (เมอร์เซเดส-เบนซ์ จะมาก่อน) จนล่าสุดกับการเปิดตัว W214 และ G60 ที่สองค่ายเยอรมันเริ่มสื่อสารถึงแผนแนะนำโปรดักต์ใหม่ ตามหลังกันเพียง 1 เดือน (เมษายน กับ พฤษภาคม ที่ผ่านมา)

สำหรับเมืองไทย อี-คลาส และ ซีรีส์ 5 ขุมพลัง ICE และปลั๊ก-อินไฮบริด PHEV จะรอรุ่นประกอบในประเทศพร้อมในปี 2567 ถึงจะเริ่มทำตลาด โดยไม่มีรุ่น CBU นำเข้ามาขายก่อนอีกต่อไป โดยอี-คลาส กับโรงงานธนบุรีประกอบรถยนต์ เริ่มเดินเครื่องก่อนในไตรมาสแรก ส่วนซีรีส์ 5 ที่โรงงานผลิต จ.ระยอง จะตามมาในครึ่งปีหลัง

อย่างไรก็ตาม ก่อนจะถึงวันนั้น ทั้งเมอร์เซเดส-เบนซ์ และ บีเอ็มดับเบิลยู ชิงนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้า EV มาทำตลาดในไทย ทั้ง EQE SUV และ Mercedes AMG EQE (จริงๆ ไม่ได้พัฒนาบนพื้นฐานเดียวกับ E-Class W214) และ BMW i5 ที่มี ทั้งรุ่นสแตนดาร์ด eDrive40 และตัวแรงมอเตอร์คู่ xDrive M60

ผมมีโอกาสได้ร่วมทดสอบ BMW i5 ที่กรุงลิสบอน ก่อนการเปิดตัวในไทยวันที่ 19 ตุลาคมนี้ ซึ่งแนวคิดการพัฒนาโปรดักต์ของบีเอ็มดับเบิลยู ชัดเจนว่าในอนุกรมหลักจะมีทางเลือกให้ลูกค้า ทั้ง ICE PHEV และ EV บนพื้นฐานการพัฒนาเดียวกัน ซึ่งเราเห็นกันมาแล้วใน X3 และ 7 Series

ซีรีส์ 5 โฉมใหม่ G60 เวอร์ชันพลังงานไฟฟ้า BMW i5 มากับตัวถังที่ใหญ่กว่ารุ่นเดิม G30 ทุกมิติ และเป็นครั้งแรกที่ ซีรีส์ 5 มีความยาวเกิน 5 เมตรนะครับ (5,060 มม.)

เรื่องการออกแบบภายนอก คงเป็นปัจเจกแล้วแต่คนจะชอบ กับกระจังหน้าไตคู่ดีไซน์แปลกตา และล้อมกรอบด้วยไฟเรืองแสง Iconic Glow แบบ i7 แต่ปิดทึบไม่ต้องรับอากาศเข้าไประบายความร้อนเครื่องยนต์ หรืออัดไปในช่องรับไอดี เหมือนรถ ICE

ทว่าในส่วนล่างของกันชนหน้า BMW i5 ยังต้อนรับให้อากาศไหลผ่าน พร้อมจัดทิศทางลมเข้าไปใต้ท้องรถแบบคิดมาละเอียดแล้วจากโรงงานผลิต Dingolfing เช่นเดียวกับล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว แบบ Aerodynamics wheel ช่วยตัดลมด้านข้าง ตามหลักอากาศพลศาสตร์ ซึ่งส่งผลต่อการทรงตัวของรถ และอัตราบริโภคพลังงานอย่างมีนัยสำคัญ

ขณะที่ชุดแพกแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าเจเนอเรชันที่ 5 ของบีเอ็มดับเบิลยู ถูกจัดเรียงอยู่บนพื้นแชสซีส์ ความจุ 81.2 kWh ช่วยให้รถมีจุดศูนย์ถ่วงตํ่า เพิ่มความหนึบแน่นในการขับขี่ขึ้นไปอีก ส่วนโครงสร้างช่วงล่างหน้าเป็นปีกนกสองชั้น ด้านหลังเป็นแบบ 5 จุดยึด และมีโช้คอัพถุงลมแบบ Automatic self-levelling คู่หลังมาให้

การทดสอบ BMW i5 eDrive40 มีทั้งช่วงรถติดในกรุงลิสบอน และลองซัดความเร็วสูงบนถนนหลวงเชื่อมระหว่างเมือง รับรู้ได้ถึงการรองรับที่ปรับเซ็ตมาใหม่ ซึ่งในภาพรวมต้องบอกว่านุ่มหนึบในตำแหน่งผู้ขับ พร้อมการควบคุมเฉียบคมสอดคล้องกันไปทั้งคัน

การขับทางไกลใช้ความเร็วสูง ผมว่า BMW i5 ช่วยแบ่งเบาความเครียดของผู้ขับขี่ลงไปได้เยอะ ด้วยความที่เราสามารถปรับตัวเข้ากับรถได้ง่าย แม้จะเป็น EV ที่ตัวถังยาวกว่า 5 เมตร และกว้าง 1.9 เมตร ก็ตาม

BMW i5 eDrive40 ใช้มอเตอร์ตัวเดียวขับเคลื่อนล้อหลัง มีฟันเฟือง Single Gear คอยควบคุมรอบระหว่างเพลาขับ ให้กำลัง 313 แรงม้า (เท่ากับ BYD SEAL RWD ) แรงบิด 400 นิวตัน-เมตร เพียงพอในการขับเคลื่อนรถนํ้าหนัก 2.2 ตันได้สบาย

ผมเข้าใจว่าวิศวกรบีเอ็มดับเบิลยู พยายามเซ็ตให้ EV รุ่นนี้ มีบุคลิกเหมือนกับ ซีรีส์ 5 เครื่องยนต์สันปดาปภายใน ขับเคลื่อนล้อหลังแบบเดิมๆ ทั้งจังหวะตอบสนองต่อคันเร่ง ไม่ถึงกับฉุดกระฉาก หน้าหงายหัวทิ่ม เช่นเดียวกับบาลานซ์ของรถเนียนๆ ช่วงเข้า-ออกโค้ง การควบคุมยังเป็นธรรมชาติ และคง DNA ของบีเอ็มดับเบิลยู เอาไว้เท่าที่กลไกวิศวกรรมจะอำนวยครับ

อย่างไรก็ตาม ใครชอบเสพความหนักหน่วงของรถพลังงานไฟฟ้า อาจจะขยับเลือกไปในโหมดสปอร์ต สัมผัสอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ที่ 6.0 วินาที ซึ่งมอเตอร์ของ i5 จะรีดกำลังเป็น 340  แรงม้า แรงบิดเพิ่มเป็น 430 นิวตัน-เมตร รองรับอารมณ์ที่เร่าร้อนได้ทันอกทันใจมากขึ้น แต่กระนั้นความเร็วสูงสุดของ BMW i5 eDrive40 ยังถูกล็อกไว้ที่ 193 กม./ชม.

ในส่วนการชาร์จ DC รองรับได้ถึง 205 kW มากกว่าทั้ง i7 และเอสยูวี iX ส่วน AC รับได้ 22 kW ขณะที่ระยะทางวิ่งทำได้ 497-582 กม.ต่อการชาร์จไฟ เต็มหนึ่งครั้ง

รวบรัดตัดความ... BMW i5 eDrive40 พยายามเปิดประสบการณ์ทางอารมณ์ใหม่ๆ จากขุมพลัง EV พร้อมระบบ Infotainment และ ฟังก์ชันทันสมัย ระบบความปลอดภัยขั้นสูง ขณะเดียวกันยังไม่ทิ้งคุณค่าของแบรนด์ที่ต้องมีความเฉียบคม เด็ดขาดในสมรรถนะ ตามสไตล์รถขับเคลื่อนล้อหลังแบบดั้งเดิม ...รอดูการเปิดตัวและประกาศราคาในวันที่ 19 ตุลาคมนี้ ที่เมืองไทยครับ

เรื่อง : กรกิต กสิคุณ

ภาพ : BMW AG