ประกาศหลักสูตรอบรมผู้ถูกตัดคะแนนความประพฤติ-พักใช้ใบอนุญาตขับรถ

16 ธ.ค. 2565 | 23:56 น.

ราชกิจจาฯ ประกาศหลักสูตรอบรมความรู้เกี่ยวกับการขับรถและวินัยจราจร มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 9 ม.ค.2566 เป็นต้นไป สำหรับผู้ซึ่งถูกตัดคะแนนความประพฤติ หรือ ถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับรถ 

 


วันที่ ๑๖ ธันวาคม ๒๕๖๕ เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ ประกาศสํานักงานตํารวจแห่งชาติและกรมการขนส่งทางบก เรื่อง หลักสูตรการอบรมความรู้เกี่ยวกับการขับรถและวินัยจราจร พ.ศ. ๒๕๖๕


โดยที่เป็นการสมควรกําหนดหลักสูตรการอบรมความรู้เกี่ยวกับการขับรถและวินัยจราจรสําหรับ ใช้ในการอบรมผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ซึ่งถูกตัดคะแนนความประพฤติในการขับรถหรือถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ ตามกฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก เพื่อประโยชน์ในการควบคุมความประพฤติของ ผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ให้เกิดความปลอดภัยในการจราจร ในกรณีที่ผู้ขับขี่กระทําความผิดตามกฎหมาย ว่าด้วยการจราจรทางบกหรือกฎหมายอื่นอันเกี่ยวกับรถหรือการใช้ทาง

 


อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๔๒/๓ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ ๑๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ และอธิบดีกรมการขนส่งทางบก จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้


ข้อ ๑ ในประกาศนี้


“ผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่” หมายความว่า ผู้ได้รับใบอนุญาตขับรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ และผู้ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก ซึ่งถูกตัดคะแนนความประพฤติ ในการขับรถ หรือถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ตามม ตามมาตรา ๑๔๒/๑ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติ จราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ ๑๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ “หลักสูตรการอบรมความรู้เกี่ยวกับการขับรถและวินัยจราจร” หมายความว่า การอบรมและการทดสอบให้กับผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่เพื่อขอคืนคะแนน


“การอบรม” หมายความว่า การอบรมภาคทฤษฎีตามวิชาที่กําหนด


“การทดสอบ” หมายความว่า การทดสอบข้อเขียนเพื่อวัดความรู้ความสามารถภายหลังการอบรม “ผลการอบรมและการทดสอบ” หมายความว่า ข้อมูลผลการอบรมของผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ ที่ผ่านการอบรมและผ่านการทดสอบจากกรมการขนส่งทางบกหรือโรงเรียนสอนขับรถที่กรมการขนส่ง ทางบกรับรอง โดยบันทึกผ่านระบบสารสนเทศของกรมการขนส่งทางบก หรือดําเนินการในรูปแบบอื่น ตามที่กรมการขนส่งทางบกกําหนด เพื่อคืนคะแนนความประพฤติในการขับรถ


หมวด ๑


บททั่วไป


ข้อ ๒ ผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ที่มีสิทธิขอเข้ารับการอบรมเพื่อขอคืนคะแนนความประพฤติ ในการขับรถ มีดังนี้


(๑) ผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ซึ่งถูกตัดคะแนนความประพฤติในการขับรถจนเหลือน้อยกว่า 5 คะแนน

 

(๒) ผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ซึ่งถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ตามมาตรา ๑๔๒/๑ วรรคสาม

 

ข้อ ๓ ผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ซึ่งถูกตัดคะแนนความประพฤติในการขับรถจนเหลือน้อยกว่า 5 คะแนน มีสิทธิขอเข้ารับการอบรมเพื่อขอคืนคะแนนความประพฤติในการขับรถได้ปีละ ๒ ครั้ง ตามรอบปีปฏิทิน


หมวด ๒


หลักสูตรการอบรมความรู้


ส่วนที่ ๑


การอบรม


ข้อ ๔ การอบรมเพื่อขอคืนคะแนนความประพฤติในการขับรถ มีดังนี้ 


(๑) การอบรมครั้งที่ ๑ ในรอบปีปฏิทิน มีจํานวนทั้งหมด 3 หลักสูตร ดังนี้ 


(ก) หลักสูตรกรณีขอคืนคะแนนไม่เกินจํานวน ๑๒ คะแนน มีระยะเวลาการอบรม ไม่น้อยกว่า ๔ ชั่วโมง ๓ ชั่วโมง ๒ ชั่วโมง


(ข) หลักสูตรกรณีขอคืนคะแนนไม่เกินจํานวน ๙ คะแนน มีระยะเวลาการอบรมไม่น้อยกว่า


(ค) หลักสูตรกรณีขอคืนคะแนนไม่เกินจํานวน 5 คะแนน มีระยะเวลาการอบรมไม่น้อยกว่าผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่มีสิทธิเลือกหลักสูตรการอบรมตาม (๑) ได้เพียงหลักสูตรเดียว โดยจะได้รับคืนคะแนนความประพฤติในการขับรถตามจํานวนคะแนนที่ผ่านการอบรมและทดสอบตามหลักสูตร ที่กําหนดใน (๑) แต่เมื่อรวมคะแนนที่ได้รับคืนมาแล้วจะมีคะแนนรวมไม่เกิน ๑๒ คะแนน


(๒) การอบรมครั้งที่ ๒ ในรอบปีปฏิทิน มีจํานวนทั้งหมด ๑ หลักสูตร ได้แก่ หลักสูตรคืน คะแนนกลับมาเป็น 5 คะแนน มีระยะเวลาการอบรมไม่น้อยกว่า ๓ ชั่วโมง


(๓) การอบรมกรณีถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ มีจํานวนทั้งหมด ๑ หลักสูตร ได้แก่ หลักสูตรกรณีถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ (คืนคะแนนกลับมาเป็น ๑๒ คะแนน) มีระยะเวลาการอบรม ไม่น้อยกว่า ๔ ชั่วโมง


ข้อ ๕ ผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ที่ขอเข้ารับการอบรมจะต้องเข้ารับการอบรมให้ครบตามระยะเวลา ที่กําหนดในแต่ละหลักสูตร โดยต้องดําเนินการอบรมให้แล้วเสร็จภายในครั้งเดียว ทั้งนี้ ผู้ได้รับ
ใบอนุญาตขับขี่ไม่สามารถสะสมจํานวนชั่วโมงการอบรมได้


ข้อ ๖ การอบรมตามข้อ ๔ ในแต่ละหลักสูตรประกอบด้วยวิชา ดังต่อไปนี้ 


(๑) วิชาความรู้พื้นฐาน


๒) สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุ 


๓) กลุ่มเสี่ยงจําแนกตามเพศ


๔) กลุ่มเสี่ยงจําแนกตามกลุ่มอายุ 


๕) อุบัติเหตุจําแนกตามช่วงเวลาเดือน 


๖) ประเภทยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุ 


(ข) ปัจจัยที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุ


๑) ด้านบุคคล ได้แก่ อายุ เพศ อาชีพ การศึกษา สถานะทางครอบครัวของผู้ขับรถ ๒) ด้านนิสัย ได้แก่ นิสัยการชอบความเสี่ยงความท้าทาย ความก้าวร้าว ความอ่อนไหวต่อแรงกดดัน นิสัยการยอมรับการเปลี่ยนแปลง


๓) ด้านพฤติกรรม ได้แก่ พฤติกรรมการต่อต้านสังคม การยอมรับความเสี่ยง หรือ การขับขี่โดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่


๔) ด้านพัฒนาการ ได้แก่ ลักษณะทางกายภาพของร่างกาย ระดับฮอร์โมนของร่างกาย พลังงาน สมอง สภาวะการนอนหลับของร่างกาย สภาพทางจิต อารมณ์และสังคมของผู้ขับรถ 
๕) ด้านความสามารถการขับรถ ได้แก่ ความรู้ ทักษะ ประสบการณ์


๖) ด้านสภาพแวดล้อมที่รับรู้ ได้แก่ ค่านิยมทางสังคม ค่านิยมของผู้ปกครอง ความคาดหวังกับพฤติกรรมการมีส่วนร่วมและการสังเกตของผู้ปกครอง ค่านิยมทางวัฒนธรรม การโฆษณาของสื่อ แหล่งบันเทิง การรับรู้ถึงความเสี่ยง


๗) ด้านสภาพแวดล้อมในการขับขี่ ได้แก่ กลางวัน กลางคืน สภาพอากาศ สมรรถนะของรถ ลักษณะของผู้โดยสารที่เดินทางไปด้วยกัน เช่น อายุ เพศ การใช้สารเสพติดหรือ เครื่องดื่ม เป็นต้น และวัตถุประสงค์ในการเดินทางนั้น ๆ


(๒) วิชากฎหมายและผลกระทบที่เกิดจากอุบัติเหตุ


(ก) ผลกระทบทางตรง ผู้ประสบอุบัติภัยได้รับบาดเจ็บอาจถึงขั้นพิการ หรือเสียชีวิต รวมทั้งต้องสูญเสียเงินค่ารักษาพยาบาล ค่าซ่อมแซมวัสดุ ยานพาหนะที่เสียหายอีกด้วย


(ข) ผลกระทบทางอ้อม ได้แก่ สูญเสียทางด้านจิตใจ สูญเสียโอกาสในชีวิต สูญเสียกําลังสําคัญ ของครอบครัวและประเทศชาติ และสูญเสียเวลาในการดูแลรักษา


(ค) ข้อหาความผิดที่ถูกตัดคะแนนและบทกําหนดโทษ ได้แก่ ลักษณะการกระทํา ความผิดในแต่ละฐานข้อหาที่ถูกตัดคะแนนและอัตราโทษที่กฎหมายบัญญัติไว้


(ง) จิตสํานึกและความรับผิดชอบในการขับรถบนถนนเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ได้แก่ การสร้างแรงจูงใจให้กับผู้ขับขี่ได้มีความตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้นจากการใช้รถใช้ถนน และการสร้าง พฤติกรรมให้ผู้ขับขี่ปฏิบัติตาม กฎ ระเบียบ โดยรับรู้ถึงสิทธิควบคู่ไปกับหน้าที่และความรับผิดชอบ ในการใช้รถใช้ถนนที่ถูกต้องและปลอดภัย


ส่วนที่ ๒


การทดสอบ


ข้อ ๗ ให้ผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ที่ผ่านการอบรมตามหลักสูตรที่กําหนดไว้ตามข้อ ๔ ต้องเข้ารับการทดสอบผ่านระบบสารสนเทศของกรมการขนส่งทางบกภายหลังการอบรมทันที และต้องได้คะแนนไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 จึงจะถือว่าผ่านการอบรมและทดสอบ


ในกรณีผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ที่เข้ารับการทดสอบไม่สามารถอ่านและเขียนหนังสือได้ ให้ผู้ดําเนินการทดสอบเปิดเสียงอ่านแบบทดสอบจากระบบอิเล็กทรอนิกส์ให้ผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ฟัง และให้ผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ด่าเนินการทดสอบ


ข้อ 8 ในกรณีผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ที่เข้ารับการทดสอบแล้วไม่ผ่านการทดสอบ ให้ทดสอบ แก้ตัวใหม่เป็นครั้งที่ ๒ ในวันนั้น หากยังไม่ผ่านการทดสอบอีกให้ออกใบนัดมาทําการทดสอบแก้ตัวใหม่ เป็นครั้งที่ ๓ ภายใน ๗ วันนับแต่วันที่เข้ารับการทดสอบครั้งแรกไม่ผ่าน กรณีที่ผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ไม่ผ่านการทดสอบในการทดสอบครั้งที่ ๓ หรือไม่มาทดสอบ ครั้งที่ ๓ ภายใน ๗ วันนับแต่วันที่เข้ารับการทดสอบครั้งแรกไม่ผ่านตามวรรคหนึ่ง ผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ต้องเข้ารับการอบรมและการทดสอบใหม่


ข้อ 9 เมื่อผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ผ่านการอบรมและการทดสอบแล้ว กรมการขนส่งทางบก จะดําเนินการแจ้งผลการอบรมและการทดสอบเพื่อให้สํานักงานตํารวจแห่งชาติดําเนินการคืนคะแนน ตามระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขเกี่ยวกับระบบการบันทึกคะแนนความประพฤติ ในการขับรถของผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ต่อไป


ข้อ ๑๐ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๙ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๖ เป็นต้นไป


ประกาศ ณ วันที่ ๓๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๕


พลตํารวจเอก ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์


ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ


จิรุตม์ วิศาลจิตร


อธิบดีกรมการขนส่งทางบก

 

ประกาศหลักสูตรอบรมผู้ถูกตัดคะแนนความประพฤติ-พักใช้ใบอนุญาตขับรถ    ประกาศหลักสูตรอบรมผู้ถูกตัดคะแนนความประพฤติ-พักใช้ใบอนุญาตขับรถ    ประกาศหลักสูตรอบรมผู้ถูกตัดคะแนนความประพฤติ-พักใช้ใบอนุญาตขับรถ    ประกาศหลักสูตรอบรมผู้ถูกตัดคะแนนความประพฤติ-พักใช้ใบอนุญาตขับรถ