รีวิว Ferrari 296 GTB  ม้าพันธุ์เล็ก พลังไฮบริด(เสียบปลั๊ก) ราคา 21.9 ล้านบาท

Ferrari 296 GTB สปอร์ตคาร์ขุมพลัง ปลั๊ก-อินไฮบริด รุ่นที่สองของค่ายม้าลำพอง ต่อจาก Ferrari SF90 (เครื่องยนต์ วี8 ขนาด 4.0 ลิตร มอเตอร์ 3 ตัว กำลัง 1,000 แรงม้า มีให้เลือกทั้งตัวถังคูเป้และเปิดหลังคา Spider)

โดยตำแหน่งการตลาดของ Ferrari 296 GTB PHEV คือตัวแทนของ Ferrari F8 Tributo เครื่องยนต์ วี8 ที่เคยขายราคาประมาณ 25 ล้านบาท แต่ด้วยการใช้ระบบขับเคลื่อนแบบปลั๊ก-อินไฮบริด ทำให้สปอร์ตคาร์รุ่นนี้เสียภาษีสรรพสามิตตํ่ากว่า และเมื่อนำมาคำนวนรวมๆ จากภาษีทุกตัว (นำเข้า, มูลค่าเพิ่ม, มหาดไทย) ตัวเนื้อภาษีที่ต้องจ่ายลดจากกว่า 300% เหลือประมาณ 200% ส่งผลให้ Ferrari 296 GTB กำลัง 830 แรงม้าคันนี้ ทำราคาได้น่ารัก ที่ 21.9 ล้านบาท

คาวาลลิโน มอเตอร์ ผู้นำเข้าเฟอร์รารี่อย่างเป็นทางการในประเทศ ไทย เปิดเผยว่า Ferrari 296 GTB มียอดจองเข้ามากว่า 50 คันแล้ว โดยรถล็อตแรกจะทยอยส่งมอบตั้งแต่ต้นปีหน้า 2566 ล่าสุดได้รถจากบริษัทแม่มา 2 คัน จึงนำมาจัดกิจกรรมทดลองขับให้ผู้สื่อข่าวและลูกค้ากลุ่มเล็กๆ ที่สนามปทุมธานี สปีดเวย์

ประเด็นสำคัญของรถรุ่นนี้ คือการกลับมาคบกับเครื่องยนต์ วี6 อีกครั้งของเฟอร์รารี่ หลังจากในอดีตมีประจำการกับทีมแข่ง หรือจะนับรวม Dino 246 ในทศวรรษ 70 ด้วยก็ได้

เมื่อค่ายรถจากมาราเนลโล จำเป็นต้องทำสปอร์ตคาร์ไฮบริดระดับเริ่มต้น แน่นอนว่าด้วยโครงสร้างมันจะต้องมีนํ้าหนักที่เพิ่มขึ้นจาก แบตเตอรี่ และมอเตอร์ไฟฟ้า ดังนั้นทางออกที่ชัดเจนคือการดาวน์ไซส์ซิ่งมาใช้เครื่องยนต์ วี6 ที่ขนาดกะทัดรัดกว่าบล็อก วี8 (ที่ใช้กับ Ferrari F8 Tributo)

รีวิว Ferrari 296 GTB กับตัวรถเตี้ยๆ และยาว 4,565 มม. ความกว้าง 1,958 มม. และ พยายามออกแบบให้ได้เปรียบจากหลักแอโรไดนามิก ซึ่งการทดสอบสั้นๆของผมที่ สนามปทุมธานี สปีดเวย์ พบว่า Ferrari 296 GTB เป็นรถที่ควบคุมง่าย รถรักษาความสมดุลของการถ่ายเทนํ้าหนักหน้า-หลัง ได้ยอดเยี่ยมเวลาเข้า-ออกโค้งแรงๆ

ในภาพรวมของซูเปอร์คาร์เครื่องยนต์ วี6 วางกลางลำ ปลั๊ก-อินไฮบริด รุ่นแรกของเฟอร์รารี่ บุคลิกไม่ถึงกับกระด้างดิบ แต่ก็มีความดุดันจากเครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้าที่ช่วยกันทำงานขยันขันแข็งในการ ปลดปล่อยพละกำลังมหาศาลลงสู่ล้อหลัง พร้อมได้รับความช่วยเหลือจากเกียร์ดูอัลคลัตช์ 8 สปีด เราจึงได้สัมผัสอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 2.9 วินาที

ประสิทธิผลจากเครื่องยนต์  วี6 ขนาด 3.0 ลิตร (2992 ซีซี) เทอร์โบคู่ 663 แรงม้า กับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 167 (รวม 830 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 740 นิวตันเมตร ที่ 6,250 รอบ/ นาที หากมีระยะถนนให้วิ่งเพียงพอ(หรือในสนามแข่ง) รถสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 330 กม./ชม.

นอกจากโหมดการขับขี่ Manettino แบบดั้งเดิม คือ Wet Sport Race และ CT off แล้ว เมื่อเป็นรถไฮบริด เรายังเลือกการบริหารจัดการพลังงานให้ตอบสนองกับความต้องการที่ลงรายละเอียดไปได้อีกนะครับ

ด้วยแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนความจุ 7.45 กิโลวัตต์ชั่วโมง (วางแนวขวางหลังเบาะนั่ง) สามารถขับในโหมด eDrive (เครื่องยนต์ไม่ติดขึ้นมาเลย) ได้ระยะทาง 25 กิโลเมตร  และสามารถทำความเร็วในโหมด eDrive ได้สูงสุด 135 กม./ชม. (ถ้าขับความเร็วนี้ต่อเนื่องระยะทางวิ่งในโหมด EV คงเหลือไม่ถึง 10 กม.)

ส่วน Default หลังสตาร์ท Ferrari 296 GTB จะเป็นโหมด Hybrid ที่เครื่องยนต์ยังไม่ติดขึ้นมา จากนั้นรถจะคิดให้ ระบบจะประสานเองระหว่างเครื่องยนต์ กับมอเตอร์ไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ และหากขยับขึ้นไปเป็น โหมด Performance เครื่องยนต์จะทำงานตลอดเวลา และพยายามรักษาพลังงานไฟฟ้าใน แบตเตอรี่เอาไว้ ซึ่งจะสอดคล้องกับ Manettino ในโหมด Sport

ขณะที่โหมดรักษ์โลกน้อยที่สุด Qualify เครื่องยนต์จะเน้นขับเคลื่อนรถเป็นหลัก และระบบจะชาร์จไฟกลับไปเก็บไว้ในแบตเตอรี่น้อยมาก

การ รีวิว Ferrari 296 GTB ทดสอบที่สนามปทุมธานี สปีดเวย์ มีรถพื้นฐานเป็นรุ่นพวงมาลัยซ้าย ส่วนคันที่ผมขับเป็นพวงมาลัยขวา และมาพร้อมแพคเกจ Assetto Fiorano ที่ต้องจ่ายเพิ่มจากค่าตัวรถอีกประมาณ 2 ล้านบาท

โดยแพคเกจนี้จะเน้นไปที่การลดน้ำหนัก และเพิ่มแอโรไดนามิกของรถ เน้นการใช้ชิ้นส่วนคาร์บอนไฟเบอร์ในหลายๆจุด เช่น กันชนหน้าที่สามารถเพิ่มดาวน์ฟอร์ซของรถได้ 10 กิโลกรัม ฝาครอบเครื่องยนต์ด้านหลัง (รุ่นปกติเป็นกระจก) และแผงประตูด้านใน พร้อมติดตั้งเพลต Assetto Fiorano ตรงธรณีประตู

นอกจากนี้ยังใช้ โช้คอัพ Multimatic แบบปรับได้ จากรถแข่ง GT สำหรับใช้ในสนามแข่ง สอดคล้องกับยางสมรรถนะสูง Michelin Sport Cup2R

รวบรัดตัดความ...การบริหารจัดการนํ้าหนักรถ (แรงม้าต่อนํ้าหนัก) และคุณค่าด้านไดนามิกที่ยอดเยี่ยม ถือเป็นความท้าทายในการทำรถลูกผสมไฮบริด ซึ่งเฟอร์รารี่ สามารถเค้นศักยภาพด้านวิศวกรรมยานยนต์ จนพัฒนาออกมาได้ดีกับ Ferrari 296 GTB ที่สำคัญยังมาพร้อมราคาที่น่ารักคือ 21.9 ล้านบาท จากตัวคูณภาษีที่ลดลงไป ด้วยสมรรถนะและราคานี้  ก็ไม่น่าแปลกใจครับว่านี่จะเป็นรถเครื่องยนต์วางกลางลำที่ขายดีที่สุดของ คาวาลลิโน มอเตอร์

ข้อมูลเพิ่มเติม : Ferrari 296 GTB มาพร้อมการรับประกัน5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง และรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 5 ปี การดูแลบำรุงรักษาฟรี 7 ปี พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง

รีวิว Ferrari 296 GTB : กรกิต กสิคุณ