รอยัล เอ็นฟีลด์ เผยผลประกอบการในปี 2564 สามารถครองอันดับ 4 ในตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดกลาง (250-750 cc) ของประเทศไทย (เดือนมกราคม ถึงเดือนธันวาคม พ.ศ. 2564) และมีส่วนแบ่งทางการตลาดมากกว่า 7% ทั้งในประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
นายอนุจ ดัว หัวหน้าฝ่ายธุรกิจประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รอยัล เอ็นฟีลด์ กล่าวว่า ผลประกอบการในปีที่ผ่านมา เป็นผลมาจากความพยายามอย่างต่อเนื่องของทีมงานในการผลิตรถจักรยานยนต์ที่เป็นที่ต้องการทั่วโลก และความพยายามของในการเป็นผู้นำกลุ่มรถจักรยานยนต์ขนาดกลางในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
"เรามองหาวิธีการผลิตรถจักรยานยนต์ที่เป็นแรงบันดาลใจ พร้อมมอบคุณค่าให้กับลูกค้าของเราอย่างต่อเนื่อง จุดยืนในตลาดของเราในปัจจุบันเป็นเครื่องยืนยันยืนถึงการประสบความสำเร็จในทางเดินของเรา ทั้งในประเทศอินเดียและทั่วโลก"
สำหรับเป้าหมายในอนาคต บริษัทฯมุ่งมั่นดำเนินการเพื่อการเติบโตเชิงกลยุทธ์ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีตัวแทนจำหน่ายรอยัล เอ็นฟีลด์ 30 ราย ใน 25 จังหวัดสำคัญของประเทศไทย มีลูกค้าที่เชื่อมั่นในแบรนด์ในประเทศไทยมากกว่า 10,000 ราย และกว่า 30,000 รายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ขณะเดียวกันจะยังคงนำเสนอรถจักรยานยนต์ที่เข้าถึงได้ง่ายสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการขี่ทุกคนอย่างต่อเนื่อง
ผู้ที่สนใจสามารถไปทดลองขี่รถจักรยานยนต์รอยัล เอ็นฟีลด์รุ่นต่าง ๆ รวมถึง All-new Classic 350, Meteor 350, Himalayan, Interceptor 650 และ Continental GT 650 ได้ที่รอยัล เอ็นฟีลด์ สโตร์ทั่วประเทศ
นาย บี โกวินดาราจาน กรรมการบริหาร รอยัล เอ็นฟีลด์ กล่าวถึงการเติบโตของธุรกิจระหว่างประเทศของแบรนด์รอยัล เอ็นฟีลด์ ว่า แบรนด์มีผลงานที่ดีมากในต่างประเทศ โดยช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ได้เห็นการเติบโตที่แข็งแกร่ง ปริมาณการซื้อขายระหว่างประเทศของเพิ่มขึ้นเกือบ 1 เท่าตัว เมื่อเทียบกับปีงบประมาณ 2020 - 2021 และปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 40% เมื่อเทียบกับปี 2019 - 2020 อีกทั้งช่วง 5 ปี ที่ผ่านมาส่วนแบ่งรายได้จากตลาดต่างประเทศของก็เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า
"การเติบโตในช่วงที่ผ่านมาเป็นผลมาจากแผนกลยุทธ์ระยะยาวที่ตั้งเป้าหมายเติบโตและเป็นผู้นำในตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดกลางทั่วโลก โดยมีการนำเสนอรถจักรยานยนต์ที่ไม่โลดโผน ขี่ได้ทุกวันและในยามว่าง "