ไม่ต้องพูดถึงเอสยูวีแบรนด์ยุโรปราคา 3-4 ล้านบาท ที่มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแล้วคิดว่าเจ้าของเขาจะเอาไปลุยออฟโรดในวันหยุดพักผ่อน เพราะแค่พีพีวีที่พัฒนาบนพื้นฐานปิกอัพ ผมก็ไม่คิดว่าใครจะจ่ายเงินล้านกว่าบาท (ถึงเกือบสองล้าน) เพื่อนำรถสุดรักมาขยี้แบบสมบุกสมบัน ในเส้นทางที่ไม่เรียกว่าถนน
ในแง่ของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ สิ่งหนึ่งที่พวกเขาตระหนักคือ หากบริษัทสื่อสารความโดดเด่นของรถผ่านการโฆษณาประชาสัมพันธ์ ว่าสมรรถนะมหาเทพขนาดไหน เมื่อลูกค้าซื้อไปแล้วต้องใช้งานได้แบบนั้นจริงๆ
นิสสัน ที่ทำธุรกิจรถยนต์มาถึง 70 ปี มีอารมณ์นี้อยู่เต็มเปี่ยมครับ ล่าสุด ผมถูกชวนให้ไปทดสอบ Nissan Terra Minor Change ในรูปแบบออฟโรด กับเส้นทางที่โหดระดับหนึ่งสำหรับพีพีวีสเปกโรงงาน
นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย เลือกที่จะสะท้อนศักยภาพของ Nissan Terra ในหลายๆ มิติ ทั้งความสะดวกสบายในแบบครอบครัว เดินทางร่วมกันได้ 4-5 คน พร้อมการปรับปรุงรูปลักษณ์ภายนอก-ภายในให้ดูทันสมัยมากขึ้น และใส่ฟังก์ชันอำนวยความสะดวก-ปลอดภัยมาเพียบ
ทว่าในอีกด้าน นิสสันก็เชิญสื่อมวลชนสายลุยไปร่วมเปิดเส้นทางใหม่ๆ แบบคลุกฝุ่นตะลุยนํ้า ที่จังหวัดกาญจนบุรี 2 วัน ในเส้นทาง 2 เขื่อน
วันแรกผมและเพื่อนนักข่าวอีก 11 ชีวิต ควบ Nissan Terra Minor Change รุ่น VL ออกจากกรุงเทพ มุ่งหน้าเขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรีสวัสดิแล้วข้ามแพ 2 ครั้ง กลับมาฝั่งเขื่อนเขาแหลม (ห้วยแม่ขมิ้น) ซึ่งเส้นทางยังเป็นแบบไลท์ออฟโรด สลับทางดำถนนดี เพื่อไปให้ถึงลานกางเต้นท์ที่หน่วยพิทักษ์ป่าสะเนพ่อง อ.สังขละบุรี
หลังจากพักเอาแรงหนึ่งคืนวันที่สองเราตื่นเช้า มุ่งหน้าเข้าป่าลุยข้ามห้วยซองกาเรีย โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ “บ้านเกาะสะเดิ่ง” ชุมชนเล็กๆขอบฝั่งตะวันตกของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร
เส้นทางนี้เป็นป่าเบญจพรรณผืนใหญ่ ในช่วงต้นปีดูไม่ชุ่มฉ่ำ แต่ก็ไม่แล้งเกินไป กับเส้นทางแคบๆ พอดีกับตัวรถ บดไปกับพื้นดินแข็งๆ สลับหินแม่นํ้า พร้อมข้ามลำธารเกือบ 20 ครั้ง (ห้วยซองกาเรีย แต่ขับข้ามไปข้าม มา) เพื่อเข้าไปบริจาคสิ่งของจำเป็นให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และเด็กๆ ในหมู่บ้าน
จากหน่วยพิทักษ์ป่าสะเนพ่อง ถึงเกาะสะเดิ่ง ในเส้นทางออฟโรด 15 กิโลเมตร พวกเราใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง (แต่ขากลับใช้เวลาชั่วโมงครึ่ง) กับพีพีวีเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2.3 ลิตร เทอร์โบคู่ 190 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตัน-เมตร เกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด พละกำลังแน่นๆ ขับผ่าน ทั้งธารนํ้าลึก ทางลื่น ถนนฝุ่น และการปีนป่ายเนินหิน
เหนืออื่นใด Nissan Terra Minor Change ไม่ได้ปรับช่วงล่างใหม่ มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ยาง Bridgestone Dueler H/T 255/60 R18 กราวด์เคลียร์แลนซ์ระดับ 225 มม. แม้จะใช้ยางไฮเวย์เทอร์เรน แต่การเลือกโหมดขับเคลื่อนสี่ล้อ 4 Low และบางสถานการณ์กดปุ่มดิฟท์ล็อก ก็ทำให้เราผ่านอุปสรรคจากหล่มลื่นๆได้สบาย (แต่ถ้าหน้าฝนจริงๆ คงจะผ่านเส้นทางนี้ลำบาก หากเป็นรถสเปกโรงงาน)
…สุดท้าย Nissan Terra พิสูจน์ให้เห็นว่า รถดีจะได้เห็นกันเมื่อยามลำบาก และคู่ควรกับการมีชีวิตต่อสู้ในตลาดพีพีวีเมืองไทยต่อไป (ปัจจุบันยอดขายอยู่ในอันดับที่ 5) ด้วยสมรรถนะอันโดดเด่น และความคุ้มค่าต่อราคาสูง
เรื่อง : กรกิต กสิคุณ