โควิด-19 ทำให้เศรษฐีไทยหันมานิยมการท่องเที่ยวพักผ่อนแบบเป็นส่วนตัวมากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจเรือยอช์ตและผู้ประกอบการมารีน่าคึกคัก พร้อมตอบรับนโยบายเปิดประเทศ ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
บริษัท โบ๊ทลากูนยอช์ตติ้ง จำกัด (Boat Lagoon Yachting) ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายเรือยอช์ตรายใหญ่ เช่น Jeanneau รุ่น NC 33 ราคา 13.5 ล้านบาท และ SACS Strider 11 ราคา 14.5 ล้านบาทโดยมีผลิตภัณฑ์และบริการเกี่ยวกับเรือยอช์ตครบวงจร ทั้งการขายและบริการหลังการขาย
นายวริศ ยงสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โบ๊ทลากูนยอช์ตติ้ง จำกัด เปิดเผยว่า ปี 2564 เป็นปีหนึ่งที่สำคัญของตลาดเรือยอช์ต และภาคพื้นธุรกิจมารีน่า เนื่องจากหน่วยงานภาครัฐและการท่องเที่ยวแห่งประเทศ ไทย ให้ความสำคัญ ศักยภาพของ Luxury Segment อย่างเป็นรูปธรรมพร้อมแผนรองรับนักท่องเที่ยวในกลุ่มไฮเอนด์ อีกทั้งกระตุ้นรายรับการท่องเที่ยวในกลุ่มท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ อย่างโครงการ Phuket Sandbox โดยโครงการนี้มีส่วนช่วยให้ผู้ประกอบการการท่องเที่ยวในประเทศ ไทยสามารถทำงานควบคู่ ไปกับแผนรองรับวิกฤตการโควิดได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น
ที่ผ่านมากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สมาคมธุรกิจเรือยอช์ตไทยผู้ประกอบการมารีน่า และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงกรมเจ้าท่า ได้คิดแผนสนับสนุนประเทศไทยทั้งใน ภูเก็ต กระบี่ พัทยา ให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางนํ้าและเรือสำราญในภูมิภาคเอเซีย (Marina Hub of Asia) ตามนโยบายรัฐบาลโดยขยายระยะเวลาเรือยอช์ต ให้อยู่ในไทยได้ 2 ปี 6 เดือน และให้เรือซุปเปอร์ยอช์ต (ขนาดความยาวตั้งแต่ 30 เมตรขึ้นไป) เข้ามาชั่วคราว
มาตรการนี้ช่วยสร้างรายได้ให้แก่ประเทศโดยการแวะท่องเที่ยวของเรือยอช์ตดังกล่าวยังก่อให้เกิด รายได้จากการ เช่าที่มารีน่า การจ้างกัปตันและลูกเรือ และธุรกิจท่องเที่ยวที่สืบเนื่อง อาทิ โรงแรม ร้านอาหาร รวมถึงการสร้างงานให้กับคน ในพื้นที่อีกด้วย
ทั้งนี้ จากปี 2563 ลูกค้าเจ้าของเรือยอช์ต และกลุ่มลูกค้าเช่าเรือส่วนตัวให้ความสนใจในไลฟ์สไตล์ การล่องเรือ และวิธีชีวิตใหม่ (New normal)ที่มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นทำให้ภาพรวมธุรกิจมีความเคลื่อนไหวไปในทางที่ดี โดยบริษัทฯ ได้รับการติดต่อสอบถามข้อมูลจากลูกค้า ทั้งการซื้อขายเรือทั้งรุ่นใหม่และเรือมือสอง การซ่อมแซมดูแลรักษาเรือ และการเช่าเรือท่องเที่ยวแบบส่วนตัว ในจังหวัด ภูเก็ต กระบี่ รวมไปถึง โซนภาคกลางอย่าง พัทยา และกรุงเทพฯ ในแม่เจ้าพระยามากขึ้น
โดยต้นปี 2565 โบ๊ทลากูนยอช์ตติ้ง มีแผนการนำเข้าและเปิดตัวเรือรุ่นท๊อป 2 รุ่น อย่าง Princess X95 Superyacht เรือยอช์ตความยาวขนาด 96 ฟุต (30 เมตร) และ Princess Y72 เรือความยาว 75 ฟุต (23 เมตร) ซึ่งทำการเปิดตัวระดับโลกไปแล้วที่ Cannes Yachting Festival 2021 ที่ผ่านมา เรือรุ่นนี้ถูกออกแบบให้มีพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขึ้นคุณสมบัติการออกแบบเทียบได้กับเรือยอช์ Y Class ที่ใหญ่กว่า เหมาะกับความต้องการของลูกค้าเอเชีย
ปัจจุบัน โบ๊ทลากูนยอช์ตติ้ง มีเรือยอช์ตกว่า 200 ลำที่ลูกค้าใช้งานอยู่ทั่วภูมิภาค รวมมีสาขา 9 แห่ง ครอบคลุม 5 ประเทศ ที่ปีนังประเทศมาเลเซีย สาขาจาการ์ต้า ประเทศอินโดนีเซีย สาขาสิงคโปร์ สาขามัลดีฟส์และ 5 สาขาในประเทศ ไทย คือ ภูเก็ตพัทยา กรุงเทพฯ สมุยและกระบี่
ข้อมูลเพิ่มเติม boatlagoonyachting