สแกนเนีย รุกธุรกิจรถบรรทุกมือสองราคา 2.0 -2.5 ล้านบาท

09 ก.ย. 2564 | 03:44 น.

สแกนเนีย เผยโควิด-19 ดันธุรกิจรถบรรทุกมือสองโต ลูกค้าเน้นความคุ้มค่า สามารถใช้งานได้ทันที ราคาเฉลี่ย 2.0 -2.5 ล้านบาทต่อคัน

สแกนเนีย แบรนด์รถเพื่อการพาณิชย์จากสวีเดน เผยธุรกิจรถบรรทุกมือสองโต 10 % ด้วยมูลค่ายอดขายประมาณ 50 ล้านบาท  ถือเป็นอีกทางเลือกในช่วงสถานการณ์โควิด-19 โดยสต็อกรถบรรทุกมือสองของสแกนเนีย ได้มาจาก 3 แหล่งคือ

  1. รถจากไฟแนนซ์สแกนเนีย สยามลิสซิ่ง
  2. รถบรรทุกที่เกิดจากการเทิร์นของลูกค้า อายุของรถอยู่ประมาณ 6 - 8 ปี
  3. ลูกค้านำรถมือสองมาขายให้กับแผนกรถมือสอง

สแกนเนีย รุกธุรกิจรถบรรทุกมือสองราคา 2.0 -2.5 ล้านบาท

นายยุทธนา มหาวงษ์ ผู้จัดการฝ่ายขายรถบรรทุกมือสอง บริษัท สแกนเนีย สยาม จำกัด กล่าวว่า การทำตลาดรถมือสองนับเป็นหนึ่งในการตอบสนองความต้องการของลูกค้า ซึ่งสแกนเนียได้พยายามที่จะเข้าถึงในทุกกลุ่มเป้าหมาย ทั้งทางด้านผลิตภัณฑ์ และงานบริการเพื่อความเหมาะสมกับลักษณะของธุรกิจ และการใช้งานของลูกค้า

 

สำหรับการเปิดตลาดรถบรรทุกมือสองในประเทศไทยได้เริ่มมาตั้งแต่ปี 2015 โดยบริษัทแม่ที่สวีเดนได้มองเห็นถึงศักยภาพของตลาดรถบรรทุกในประเทศไทยที่มีความแข็งแกร่ง และยังมีแนวโน้มในการขยายตัวที่ดี โดยในปีนี้มียอดขายอยู่ที่ประมาณ 20 ถึง 30 คัน แต่ถือว่ามีการเติบโตต่อเนื่อง คิดเป็น 10%  มีมูลค่ายอดขายประมาณ 50 ล้านบาท จากราคารถมือสองของสแกนเนียโดยเฉลี่ย 2 -2.5 ล้านบาทต่อคัน

 

“แนวทางการทำตลาดรถบรรทุกมือสองในประเทศไทย มีความแตกต่างจากประเทศในแถบยุโรป เพราะกฎหมายในยุโรปมีการกำหนดการใช้งานของรถบรรทุกเอาไว้ไม่เกิน 5-6 ปี แต่สำหรับประเทศไทยการใช้งานรถแต่ละคันจะใช้กันเป็นระยะเวลานานกว่า 10 ปี ซึ่งทางสแกนเนียต้องนำมาคำนวณหาความเหมาะสมของราคาต่อสภาพรถที่แท้จริงก่อนที่จะนำเสนอแก่ลูกค้า”

สำหรับจุดเด่นของแผนกรถมือสองสแกนเนียที่แตกต่างจากตลาดรถมือสองทั่วไป คือการตรวจสอบเช็คในทุกส่วนของรถด้วยอุปกรณ์และโปรแกรมเฉพาะของสแกนเนีย โดยช่างของสแกนเนียที่ผ่านการอบรมมาเป็นอย่างดีตามมาตรฐาน ซึ่งในการตรวจนี้เรามีเช็คลิสต์ตามมาตรฐานของเราอยู่ที่ 111 รายการ ที่จะต้องเช็คให้อยู่ในสภาพใช้การได้ตามมาตรฐาน และเมื่อมีอะไหล่ที่ต้องเปลี่ยนก็จะเป็นอะไหล่สแกนเนียแท้ 100%

 

“สแกนเนียจะเช็คเปลี่ยนถ่ายโปรแกรมชุดใหญ่ (L)  เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเกียร์เฟืองท้ายทั้งหมด และทำการเปลี่ยนแบตเตอรี่ทุกครั้งที่เราส่งมอบรถมือสองให้กับลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าพร้อมนำรถไปใช้งานอย่างเต็มที่ได้ทันทีหลังรับรถ ไม่ต้องกังวลเรื่องการเอาไปซ่อมเพิ่ม” นายยุทธนากล่าว