มองอุตฯยานยนต์ไทยผ่านประธานใหม่โตโยต้า

26 ม.ค. 2564 | 05:58 น.
อัปเดตล่าสุด :06 เม.ย. 2564 | 22:53 น.

“โนริอากิ ยามาชิตะ” เข้ารับตำแหน่ง ประธาน โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย (ทีเอ็มที) อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2564 โดยเข้ามาดำรงตำแหน่งแทน “มิจิโนบุ ซึงาตะ” ซึ่งกลับไปประจำการที่ ทีเอ็มซี ประเทศญี่ปุ่น

“ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในการดำเนินธุรกิจของเราในระดับโลก ผมตื่นเต้นและรู้สึกเป็นเกียรติที่จะได้ร่วมงานกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า ผู้ผลิตชิ้นส่วน ผู้แทนจำหน่าย บุคลากรตลอดจนหน่วยงานภาครัฐ ในฐานะ “กรรมการผู้จัดการใหญ่” ของบริษัทผมจะสานต่อพันธกิจในการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันยาวนานระหว่างบริษัท และ สังคมไทยให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น รวมถึงจะพยายามอย่างสุดความสามารถในการ
ปฏิรูปองค์กรสู่การเป็น องค์กรแห่งการขับเคลื่อน เพื่อเป็นการส่งมอบความสุขที่มากขึ้นแก่พี่น้องชาวไทย” แม่ทัพใหญ่ทีเอ็มที แถลงตอนเข้ารับตำแหน่งใหม่

ล่าสุดงานเปิดตัวของ “โนริอากิ ยามาชิตะ” ยังมาในรูปแบบออนไลน์ เพื่อแถลงข่าวผลประกอบการประจำปี และทิศทางที่จะมุ่งไปในศักราชใหม่

“ปี 2564 จะเป็นปีที่ท้าทายอีกครั้งสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทย เนื่องจากยังคงต้องเผชิญกับหลายปัจจัย จากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 การพัฒนาวัคซีนและการเข้าถึงวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 รวมถึงแนวโน้มสภาวะเศรษฐกิจทั่วโลก และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ ทั้งหมดนี้จะส่งผลต่อทิศทางอุตสาหกรรมยานยนต์” โนริอากิ ยามาชิตะ กล่าวและว่า

โนริอากิ ยามาชิตะ

ความเคลื่อนไหวต่างๆ ในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ เช่น การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ กิจกรรมทางการตลาด และกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ จะมีบทบาทสำคัญต่อการกระตุ้นยอดขายรถยนต์ ดังนั้น เมื่อพิจารณาปัจจัยต่างๆ เหล่านี้แล้ว จึงคาดการณ์ว่ายอดขายรถยนต์ในปี 2564 จะอยู่ประมาณ 850,000-900,000 คัน เพิ่มขึ้น 7-14% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

สำหรับยอดขายรถยนต์รวมในปี 2563 ที่ได้รับผลกระทบอย่างมากจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้ตลาดลดลง 21.4% ด้วยยอดขาย 792,146 คัน ในจำนวนนี้เป็นของโตโยต้า 244,316 คัน ลดลง 26.5% แม้ว่าบริษัทจะเผชิญกับความยากลำบากมากมายในปีที่ผ่านมา แต่ยังมีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับหนึ่ง หรือ 30.8%

ส่วนเป้าหมายโตโยต้าในปี 2564 ตั้งไว้ 280,000 - 300,000 คัน เพิ่มขึ้น 15-20% จากปีที่ผ่านมา คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาดที่ 33.3%

“จากพันธสัญญาด้านสิ่งแวดล้อมของโตโยต้า 2050 เรามุ่งมั่นบรรลุเป้าหมายลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้เป็นศูนย์ ในทุกกิจการที่เกี่ยวข้องกับยานพาหนะ โดยในระดับโลกเราได้ท้าทายตัวเองให้ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ให้ได้ 90% เมื่อเทียบกับปี 2553 และที่ผ่านมาเราได้แนะนำยานพาหนะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วยรถยนต์ไฟฟ้าหลากหลายรุ่น อาทิ รถยนต์ไฟฟ้าแบบไฮบริด รถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊กอินไฮบริด รถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ และรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานจากเซลล์เชื้อเพลิง เราเชื่อมั่นว่ารถยนต์เหล่านี้นำมาใช้เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้คน และสอดคล้องกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในประเทศไทย” นายยามาชิตะ กล่าว 

 

หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,648 วันที่ 28 - 30 มกราคม พ.ศ. 2564