แม้ Mazda BT-50 โฉมใหม่ที่จ้าง “อีซูซุ มอเตอร์” ผลิต (ไม่ใช่ ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ ที่เป็นบริษัทขาย) แต่ในส่วนรูปลักษณ์หรือโลหะภายนอกทั้งหมดเป็นคนละชิ้นกับ “อีซูซุ ดีแมคซ์” ใช้แม่พิมพ์คนละตัว เพื่อให้ได้ตามแนวทางที่ทีมงานมาสด้าสร้างสรรค์ โดยยึดหลัก KODO Design ภาษาการออกแบบของมาสด้ายุคใหม่ เช่นเดียวกับรถยนต์นั่งรุ่นอื่นๆ
เห็นได้ชัดจากกระจังหน้า โคมไฟ ไปจนถึงเส้นสายด้านข้าง และด้านท้าย ทั้งกรอบโคมไฟ และกันชน เป็นบล็อกที่ต่างกัน รวมถึงลายล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว และ 18 นิ้ว ขณะที่สีตัวถังจะมี สีเงิน ขาว ดำ นํ้าเงินเข้ม แดง และเทา(โทนสีสไตล์มาสด้า)
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่มาสด้าไม่ได้เข้าไปยุ่งคือ ระบบขับเคลื่อน และช่วงล่าง (กุญแจรีโมทยังเป็นตัวเดียวกัน) โดยไม่มีการปรับแก้หรือจูนให้ต่างออกไปจาก“อีซูซุ ดีแมคซ์” แม้แต่นิดเดียว
การทำตลาดของ Mazda BT-50 จะมาแค่ 2 ตัวถังคือ ตอนครึ่ง Freestyle Cab กับ 4 ประตู Double Cab รวมถึงทางเลือกกับรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ และรุ่นขับเคลื่อนสองล้อยกสูง Hi-Racer บน 2 เครื่องยนต์คือ ดีเซล 1.9 ลิตร และ 3.0 ลิตร ส่วนระบบส่งกำลังยังมี เกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด
ด้านประสิทธิผลของเครื่องยนต์ทั้งสองบล็อกเท่ากับดีแมคซ์ โดยดีเซล 3.0 ลิตร เทอร์โบแปรผัน ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,600 รอบต่อนาที
ส่วนดีเซล 1.9 ลิตร เทอร์โบแปรผัน ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-2,600 รอบต่อนาที
ที่สำคัญ วิศวกรผู้คุมโปรเจกต์นี้ของมาสด้า ยืนยันว่า อีซูซุ ดีแมคซ์ ประหยัดนํ้ามันขนาดไหน วิ่งได้ไกลแค่ไหน MazdaBT-50 ก็ทำได้ไม่ต่างกัน
ขณะที่ฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวก รวมถึงระบบความปลอดภัย หากวัดที่ตัวท็อปดับเบิลแค็บ รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ เครื่องยนต์ 3.0 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ ยังจัดมาให้ไม่ขาดเกิน ทั้ง ABSM ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน, RCTA ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง, HDC ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน และ HLA ระบบช่วยออกตัวรถขณะอยู่บนทางลาดชัน
ถุงลมนิรภัย SRS รวม 6 ตำแหน่ง ที่ฝั่งคนขับและฝั่งผู้โดยสาร ม่านถุงลมและด้านข้าง
มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย เตรียมเปิดตัว Mazda BT-50 อย่างเป็นทางการในไทยต้นปี 2564 โดยท่านประธาน “ชาญชัย ตระการอุดมสุข” ตั้งความหวังกลับมามีส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มปิกอัพเกิน 1% หรือถ้าให้ดีต้องกลับไปเหมือนช่วงที่เปิดตัว BT-50 Pro เจเนอเรชันที่แล้ว(พื้นฐานฟอร์ด เรนเจอร์) ในปี 2555 ที่เคยทำได้ถึง 5% หรือขายปีละกว่า 25,000 คัน
แม่ทัพใหญ่ชาญชัย หวังว่า Mazda BT-50 จะเป็น “ตัวเปลี่ยนเกม” (Game Changer) ของมาสด้าในปี 2564
หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,638 วันที่ 24 - 26 ธันวาคม พ.ศ. 2563