Royal Enfield รุ่นประกอบไทยมาปี 2564

04 ก.ย. 2563 | 00:15 น.

Royal Enfield เจ้าตลาดบิ๊กไบค์ขนาดกลาง ยืนยันแผนประกอบรถในประเทศไทย พร้อมเปิดตัวไม่เกินกลางปี 2564

Royal Enfield มอเตอร์ไซค์อังกฤษ เจ้าของอินเดีย วางตัวแทรกกลางระหว่างแบรนด์ญี่ปุ่น กับแบรนด์หรูจากยุโรปและอเมริกัน ได้อย่างภาคภูมิ ซึ่งการทำธุรกิจในไทยผลประกอบการเติบโตต่อเนื่อง ปัจจุบันมียอดขายสะสมกว่า 7,000 คัน นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2559

จากยอดขาย Royal Enfield 889 คันในปีแรก มาถึงปี 2562 ขยับไป 3,146 คัน (เพิ่มขึ้น 112% เมื่อเทียบกับปี 2561) สอดคล้องกับโปรดักต์ และเครื่องยนต์ 2 สูบใหม่ ที่ได้การตอบรับดีอย่าง อินเตอร์เซปเตอร์ แม้ปีนี้ผลประกอบการจะทรงๆ ตามสถานการณ์บ้านเมือง แต่ยอดขาย Royal Enfield ยังตกน้อยกว่าตลาด

“ปัจจุบันเรามีส่วนแบ่งการตลาด 5.5% ในกลุ่มมอเตอร์ไซค์ขนาดกลาง  (เครื่องยนต์ 250-750 ซีซี) อย่างงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2020 มียอดจอง 321 คัน มากกว่าการออกงานในปี 2019 ที่มียอดจอง 314 คัน โดยRoyal Enfield รุ่นที่มีการจองมากที่สุดคือ อินเตอร์เซปเตอร์ รองลงมาคือรุ่นคลาสสิก และหิมาลายัน นอกจากนี้ ยังเปิดตัว คลาสสิก 500 สเตลท์ แบล็ค สีใหม่ มาตรฐานไอเสียยูโร 4 ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี” นายวิมัล ซุมบ์ลี หัวหน้าฝ่ายธุรกิจประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก รอยัล เอนฟิลด์ กล่าวและว่า

บริษัทต้องการขยายตลาดรถมอเตอร์ไซค์ขนาดกลาง และเริ่มเห็นความสนใจของลูกค้าที่ต้องการจะอัพเกรดมาใช้มอเตอร์ไซค์ Royal Enfield ซึ่งประเทศไทยมีบทบาทสำคัญในการมีส่วนร่วมในความสำเร็จระดับภูมิภาคอาเซียน ส่วนแผนดำเนินงานของโรงงาน ประกอบ Royal Enfield CKD ในประเทศไทย จะเริ่มตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 ของปีงบประมาณ 2564 คือระหว่างเดือนเมษายน - มิถุนายน ปี 2564

Royal Enfield รุ่นประกอบไทยมาปี 2564

รอยัล เอนฟิลด์ เข้ามาในตลาดประเทศไทยในเดือนกุมภาพันธ์ ปี2559 เราดำเนินธุรกิจตามกลยุทธ์หัวเมืองสำคัญ เพื่อเข้าถึงลูกค้าและเข้าใจวัฒนธรรมการขับขี่มอเตอร์ไซค์ในประเทศไทย สโตร์แห่งแรกของ Royal Enfield ตั้งอยู่ที่ทองหล่อ และขณะนี้มีสโตร์ทั้งหมด 26 แห่ง และภายในสิ้นปีงบประมาณ 2563 เราจะมีสโตร์ทั้งหมด 36 แห่ง”

นายวิมัล ซุมบ์ลี กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ Royal Enfield ดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย และนี่คือสิ่งที่มองเห็นได้ไม่เพียงแต่ในประเทศไทย แต่รวมถึงตลาดอื่นๆ ในโลกที่บริษัทดำเนินการอยู่ โดยลูกค้า Royal Enfield มีช่วงอายุที่กว้าง ตั้งแต่ 25- 50 ปี และมีทั้งผู้ชายและผู้หญิง

“การขับขี่อันแท้จริงหรือ PureMotorcycling คือปรัชญาของแบรนด์ของ Royal Enfield ที่ต้องการให้ลูกค้าได้สัมผัสกับรูปแบบการขับขี่ที่ไม่เร่งรีบเรียบง่ายและมีส่วนร่วมเป็นสังคมแห่งการขับขี่

เราให้ความสำคัญอย่างมากกับการมีส่วนร่วมที่แท้จริง เช่นการให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์เป็นศูนย์กลาง โปรแกรมการดูแลหลังการขาย กิจกรรมการขับขี่รายสัปดาห์ รวมถึงการจัดฝึกอบรมการขับขี่ที่เปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจและแฟนของแบรนด์ได้ทดสอบรถมอเตอร์ไซค์ Royal Enfield ตัวอย่างบางส่วนที่สามารถอ้างถึงได้ เช่นงาน Himalayan Trails จัดเพื่อผู้ขับขี่รอยัลเอนฟิลด์หิมาลายันได้มาสัมผัสความยอดเยี่ยมของมอเตอร์ไซค์และTwins Weekend Rush ซึ่งเป็นงานเน้นความสนุกสนานและความเป็นหนึ่งเดียวกันของสังคมนักขี่มอเตอร์ไซค์” นายวิมัล กล่าวสรุป

ทั้งนี้ Royal Enfield คาดว่า จากวิกฤติโควิด-19 และภาวะเศรษฐกิจ มีผลกระทบต่อตลาดมอเตอร์ไซค์ แต่มั่นใจว่ายอดขายของตนเองในปี 2563 จะทำได้ใกล้เคียงกับปี 2562

 

หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,606 วันที่ 3 - 5 กันยายน พ.ศ. 2563