ปอร์เช่ 911 ทาร์กา ความคลาสสิคที่ทันสมัย

03 มิ.ย. 2563 | 03:05 น.
อัปเดตล่าสุด :03 มิ.ย. 2563 | 10:06 น.

ตัวถังลำดับที่ 3 ของ ปอร์เช่ 911 โฉมใหม่ (992) มาตามนัดกับเวอร์ชันเปิดหลังคา “ทาร์กา” (Targa)

สำหรับตัวถัง “ทาร์กา” เป็นเอกลักษณ์ที่ปอร์เช่บุกเบิกมาตั้งแต่ปี 1965 กับโครงสร้างที่มีโรลล์ บาร์แบบติดตั้งถาวร ให้ความมั่นคงปลอดภัยมากขึ้น พร้อมชุดหลังคาผ้าใบแบบกางออกพับเก็บได้ด้วยมือ

แม้เปิดหลังคาแล้วจะไม่โปร่งโล่ง 100% เหมือนรถเปิดประทุนทั่วไป แต่ 911 ทาร์กา ยังเป็นที่ต้องการของสาวกปอร์เช่ ที่ชื่นชอบความคลาสสิก พร้อมตอบสนองการใช้ชีวิตประจำวัน และเพิ่มความั่นใจ เมื่อขับขี่ความเร็วสูง

รุ่นใหม่ใช้ชุดหลังคาระบบไฟฟ้า สามารถกางออก-พับเก็บภายในเวลา19 วินาที แต่การออกแบบรวมๆยังยึดแนวทางของ 911 เจเนอเรชันที่ 8 เอาไว้ ทั้ง ชุดไฟหน้า เส้นสายของฝากระโปรง แนวโค้งของซุ้มล้อ สปอยเลอร์หลังที่ซ่อนตัวแนบสนิทกลมกลืนกับแผง light bar

ภายในดูทันสมัย สะอาดตา ไล่ตั้งแต่แผงคอนโซลหน้าหรือการจัดวางตำแหน่งอุปกรณ์ต่างๆ พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ทั้ง2ฝั่ง ชุดสวิทช์ควบคุมจำนวน5ปุ่มอำนวยความสะดวกในการสั่งงานฟังก์ชันที่สำคัญของตัวรถติดตั้งบริเวณด้านล่างของหน้าจอสัมผัสความละเอียดสูงขนาด10.9นิ้ว

ปอร์เช่ 911 ทาร์กา ความคลาสสิคที่ทันสมัย

ปอร์เช่ 911 ทาร์กา ความคลาสสิคที่ทันสมัย

เครื่องยนต์(วางหลัง) 6 สูบนอน บ็อกเซอร์ ขนาด 3.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ในรุ่นทาร์กา 4 ให้กำลังสูงสุด 385 แรงม้า ที่ 6,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,950-5,000 รอบต่อนาที และเมื่อติดตั้งชุดเพิ่มสมรรถนะ Sport Chrono package สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ใน 4.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 289 กม./ชม.

ส่วนรุ่น 4 เอส พละกำลังขยับเป็น 450 แรงม้า ที่ 6,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 530 นิวตัน-เมตร ที่ 2,300-5,000 รอบต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 3.6 วินาที (ติดตั้ง Sport Chrono package) ความเร็วสูงสุด 304 กม./ชม.

911 ทาร์กา 4 และ 4S ส่งกำลังด้วยเกียร์คลัตช์คู่ (PDK) 8 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา all-wheel drive Porsche Traction Management (PTM)

ปอร์เช่ 911 ทาร์กา ความคลาสสิคที่ทันสมัย

โครงสร้างช่วงล่าง และระบบควบคุมการทำงานของโช้คอัพด้วยอิเล็กทรอนิกส์ Porsche Active Suspension Management (PASM) จัดเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดยเลือกได้ 2 โหมดคือ Normal และ Sport เช่นเดียวกับระบบ Porsche Wet mode
ที่มีเซนเซอร์ฝังอยู่ซุ้มล้อหน้า คอยตรวจจับปริมาณนํ้าที่ขังอยู่บนพื้นถนน ในกรณีที่ปริมาณนํ้ามีมากจนส่งผลต่อการบังคับควบคุม ผู้ขับขี่จะได้รับสัญญาณเตือน และคำแนะนำให้เปลี่ยนรูปแบบการขับขี่ไปยัง Wet mode ซึ่งการตอบสนองของตัวรถจะปรับสภาวะต่างๆ เข้าสู่ระดับที่เน้นเสถียรภาพ และการยึดเกาะสูงสุด

ในส่วน Porsche Torque Vectoring Plus (PTV Plus) ซึ่งรวมอยู่ในชุดเฟืองท้าย electronic rear differential lock สามารถกระจายแรงบิดไปยังล้อขับเคลื่อนได้อย่างอิสระ จะติดตั้งมาในทาร์กา 4 เอส แต่เป็นออพชัน (จ่ายเงินเพิ่ม) ในรุ่น ทาร์กา 4

ปอร์เช่ 911 ทาร์กา 4 มากับล้ออัลลอยคู่หน้า 19 นิ้ว ประกบยาง 235/40 ZR19 ส่วนล้อหลัง 20 นิ้ว ประกบยาง 295/35 ZR20 ขณะที่ตัวแรง ทาร์กา 4S ขยับความโหดเป็นล้อหน้า 20 นิ้ว และหลัง 21 นิ้ว ประกบยาง 245/35 ZR20 และ 305/30 ZR21 ตามลำดับ พร้อมหยุดยั้งความเร็วด้วยคาลิเปอร์เบรกสีแดง ขนาด 6 ลูกสูบ ในล้อคู่หน้า และ 4 ลูกสูบในล้อคู่หลัง กับจานเบรกเส้นผ่านศูนย์กลาง 350 มิลลิเมตร ทั้งนี้ ลูกค้ายังเลือกจานเบรกเซรามิกได้เป็นออพชัน

ต่อจากการทำตลาดตัวถังคูเป้ และคาบริโอเลต์(เปิดประทุนแบบทั่วๆไป) บนความแรงที่หลากหลาย สำหรับเมืองไทยโดยเอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการ ตั้งราคาขาย 911 ทาร์กา 4 ไว้ 12.1 ล้านบาท และ 911 ทาร์กา 4 เอส ราคา 13.45 ล้านบาท โดยรถจะพร้อมส่งมอบต้นปี 2564

หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,580 วันที่ 4 - 6 มิถุนายน พ.ศ. 2563