มาช้าแต่มานะ เก๋งเล็กเจเนอเรชันใหม่ของ “เมอร์เซเดส-เบนซ์” เตรียมปูพรมทำตลาดในไทย ทั้งเวอร์ชันรถบ้านและตัวแรง ประเดิมนำเข้า “เอ-คลาส ซีดาน” ก่อนขึ้นไลน์ประกอบปีหน้า เช่นเดียวกับ “เมอร์เซเดส เอเอ็มจี ซีแอลเอ 35”
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ในกลุ่ม NGCC (New Generation Compact Car) หรือรถระดับ Entry Level ของค่าย ซึ่งเป็นรถขนาดเล็กขับเคลื่อนล้อหน้า เดินทางมาถึงเจเนอเรชันใหม่ หลังจากโมเดลแรกช่วยกันปั้นยอดขายและขยายฐานลูกค้าให้แบรนด์ดังจากเยอรมนีแบบถล่มทลาย
ด้วยการใช้พื้นฐานวิศวกรรมร่วมกัน แต่แบ่งเป็นหลายรุ่นหลากตัวถังในการทำตลาด ทั้ง แฮตช์แบ็ก ซีดาน สปอร์ตคูเป้ 4 ประตู รวมถึงสเตชันแวกอน(ชูตติ้งเบรก) และครอสโอเวอร์ ซึ่งในเจเนอเรชันแรกเมืองไทยมีทำตลาดครบไม่ว่าจะเป็นเอ-คลาส ซีแอลเอ และจีแอลเอ
เจเนอเรชันที่ 2 ของรถในกลุ่มนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เตรียมเปิดตัวโมเดลแรก คือ เอ-คลาส ซีดาน A200 AMG Dynamic ในรูปแบบนำเข้าทั้งคัน ก่อนมีแผนขึ้นไลน์ผลิตที่โรงงานธนบุรีประกอบรถยนต์ จ.สมุทรปราการ ต้นปีหน้า คาดราคาขายกว่า 2 ล้านบาท
เอ-คลาส ซีดาน เปิดตัวครั้งแรกในโลกที่ประเทศจีน เมื่อเดือนเมษายน 2561 และตามแผนเดิมจะต้องเปิดตัวในไทยช่วงไตรมาสแรกปีนี้ แต่ก็ล่าช้ามาถึงเดือนสิงหาคม ซึ่งเหตุผลที่แท้จริงของการปรับแผนงานไม่เป็นที่เปิดเผย ส่วน เอ-คลาส ตัวถังแฮตช์แบ็ก ยังไม่มีแผนทำตลาดในไทย
สำหรับ A200 AMG Dynamic วางเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1.3 ลิตร เทอร์โบ 163 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์ดูอัลคลัตช์ 7 สปีด มาพร้อมระบบมัลติมีเดียใหม่ MBUX (Mercedes-Benz User Experience) ที่ถูกใส่มาเป็นครั้งแรกในเอ-คลาส เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการวันที่ 22 สิงหาคมนี้ และเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ยังมีแผนนำเข้าตัวแรง Mercedes-AMG A35 4MATIC SEDAN มาทำตลาดอีกด้วย
ส่วน “ซีแอลเอ โฉมใหม่” ที่เปิดตัวในตลาดโลกแล้ว โดยการขายสปอร์ตคูเป้ 4 ประตูรุ่นนี้ ในไทยไม่มีเวอร์ชันปกติ แต่จะทำตลาดเฉพาะตัวแรง Mercedes-AMG CLA35 4MATIC ที่วางเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร เทอร์โบ 306 แรงม้า พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แน่นอนว่าช่วงแรกยังเป็นการนำเข้าทั้งคันเหมือน “เอ-คลาส ซีดาน” แต่ปีหน้าเตรียมขึ้นไลน์ประกอบเช่นกัน
นั่นหมายความว่า นอกจากรถในกลุ่ม NGCC ที่เตรียมทยอยเปิดตัวนับจากนี้ ในตระกูลเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี ที่ปัจจุบันขายในไทยรวม 19 รุ่น จะมีรุ่นใหม่เข้ามาเสริมและเป็นการประกอบในประเทศด้วย
ทั้งนี้ แบรนด์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี เปิดตัวในไทยอย่างเป็นทางการปี 2560 ประเดิมด้วย Mercedes-AMG GLC 43 4MATIC Coupe, Mercedes-AMG GLA 45 4MATIC, Mercedes-AMG GT R และ Mercedes-AMG GT C Roadster
ปีที่แล้วเพิ่มอีก 6 รุ่น C 43 4MATIC Coupe (ประกอบในประเทศ), GLC 43 4MATIC Coupe (ประกอบในประเทศ), E 63 S 4MATIC+, C 43 4MATIC Coupe (Facelift ประกอบในประเทศ), CLS 53 4MATIC+ และ Mercedes-AMG GT S
ส่วนปีนี้ ประเดิมด้วย Mercedes-AMG CLS 53 4MATIC+ (ประกอบในประเทศ) และกลุ่มนำเข้า Mercedes-AMG E 53 4MATIC+ Coupe, Mercedes-AMG GT 53 4MATIC+ 4-Door Coupe, Mercedes-AMG GT 63 S 4MATIC+ 4-Door Coupe, Mercedes-AMG G 63 และรุ่นประกอบในประเทศ Mercedes-AMG C 43 4MATIC, Mercedes-AMG E 53 4MATIC โดยยอดขายเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี ไตรมาสแรกปีนี้โต 79% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี2561
“แผนงานของเราหลังจากนี้ (ครึ่งปีหลัง) คือเตรียมเปิดตัว รถยนต์รุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง รถรุ่นไหนก็ตามที่เห็นในต่างประเทศ จะได้ทำตลาดในไทยด้วย แต่จะช้าหรือเร็วเป็นไปตามแผนงาน ซึ่งเมืองไทยจะเป็นการนำเข้าทั้งคันมาก่อน จากนั้นเตรียมขึ้นไลน์ประกอบในประเทศ” นายโรลันด์ โฟลเกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
ล่าสุด “เบนซ์ สตาร์แฟลก” 1 ใน 14 ดีลเลอร์ที่ได้สิทธิ์ขายรถตระกูลเอเอ็มจี ประกาศลงทุน 110 ล้านบาท เปิดตัว Benz Star Flag AMG Performance Center ใหญ่ที่สุดในเอเชีย(บนถนนวิภาวดีรังสิต) โดยใช้พื้นที่บนโชว์รูมเดิมชั้น 4 และซื้อที่ดินเพิ่มเติมด้านหลัง เพื่อทำเป็นศูนย์ซ่อมรถเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี โดยเฉพาะ รวมพื้นที่กว่า 2,000 ตารางเมตร
“ปี 2561 เราทำยอดขายรวมกว่า 1,200 คัน ในจำนวนนี้เป็นสัดส่วนของเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี 10% และปี 2562 ตั้งเป้าเพิ่มเป็น 12% จากการขายรถทั้งหมด ปัจจุบันเรามีรถตระกูลนี้ให้เลือกตั้งแต่ราคา 4.1-19 ล้านบาท” นายวิกรานต์ อมาตยกุล รองกรรมการผู้จัดการกลุ่มสายงานขายและการตลาดบริษัท สตาร์แฟลก จำกัด กล่าว
หน้า 28-29 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,497 วันที่ 18 - 21 สิงหาคม พ.ศ. 2562