Mazda MX-5 RF หลังคาอารมณ์ใหม่-เพิ่มม้า24ตัว
“มิอาตะ”ในอเมริกา “โรดสเตอร์”ที่ญี่ปุ่น และMX-5 สำหรับตลาดโลกสปอร์ตโรดสเตอร์ระดับตำนานเดินทางมาถึงเจเนอเรชันที่ 4 (ND) หลังประเดิมด้วยรุ่นหลังคาผ้าใบในปี 2015 จากนั้นต้นปี 2017 ส่งรุ่นหลังคาแข็งแบบกางออกพับเก็บด้วยระบบไฟฟ้าตามออกมา แต่คราวนี้ด้วยการออกแบบใหม่ มาสด้าเลือกที่จะใช้คำว่า Retractable Fastback (RF) แทน Retractable Hard Top (RHT)
สำหรับคำจำกัดความของรถ“โรดสเตอร์” คือสปอร์ตคาร์แบบ 2 ประตู 2 ที่นั่งและเปิดประทุน ส่วนจะเป็นชุดหลังคาแข็ง, หลังคาผ้า หรือกลไกไฟฟ้า กลไกแมนวล (ใช้มือยก) ก็แล้วแต่เทคโนโลยีและการตัดสินใจของวิศวกรหรือทีมผู้บริหารในช่วงนั้นๆ
ขณะที่การเปิด-ปิดหลังคาใช้เวลา 13 วินาที และแน่นอนว่านํ้าหนักตัวจะเพิ่มขึ้นจากรุ่นซอฟต์ท็อป อีก 52 กก.สำหรับรุ่นเกียร์ธรรมดา และ 60 กก.ในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ
MX-5 RF โมเดลปี 2019 ยังเพิ่มกำลังเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร จาก 160 แรงม้า เป็น 184 แรงม้า พร้อมราคาที่ขยับขึ้นเป็น 2.89 ล้านบาท(เกียร์ธรรมดา 6 สปีด, อัตโนมัติ 6 สปีดขายราคาเท่ากัน)
โดยเครื่องยนต์ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร วางตามยาว ไม่พึ่งพาระบบอัดอากาศ ได้รับการปรับปรุงใหม่ทั้ง ลดนํ้าหนักของก้านสูบและลูกสูบลง แต่เพิ่มขนาดของลิ้นปีกผีเสื้อ และเพิ่มระยะยก ปรับองศาการเปิดวาล์วฝั่งไอเสีย รวมถึงขยายขนาดของท่อร่วมไอเสียให้ใหญ่ขึ้น สุดท้ายได้ประสิทธิผล 184 แรงม้ามาเต็มที่ 7,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 205 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที
อย่างไรก็ตาม เครื่องยนต์ที่ปรับให้มีเรี่ยวแรงมากขึ้น แต่อัตราการปล่อยไอเสียกลับลดลงและอัตราบริโภคนํ้ามันไม่เปลี่ยนแปลง(ข้อมูลมาสด้า) อย่างรุ่นเกียร์ธรรมดาลดลงจาก 163 กรัมต่อกม.เป็น 158 กรัมต่อกม. ตัวเลขกินนํ้ามันเฉลี่ยจาก 14.5 กม./ลิตรเป็น 14.9 กม./ลิตร(เท่ากับรุ่นเกียร์อัตโนมัติ)
เมื่อขับจริงๆจากการวิ่งทดสอบออกจากกรุงเทพฯมุ่งสู่อยุธยาด้วยทางด่วนบางปะอิน ผมชอบรุ่นเกียร์ธรรมดามากกว่าเกียร์อัตโนมัติครับ คันเกียร์สั้นจังหวะเปลี่ยนแต่ละเกียร์กระชับ อัตราเร่งในแต่ละเกียร์ดูมุ่งมั่นมีพลังมากกว่า
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ในรุ่นเกียร์ธรรมดาทำได้ 6.8 วินาที ส่วนเกียร์อัตโนมัติอยู่ที่ 7.9 วินาที
เลย์เอาต์เครื่องยนต์วางหน้า ขับเคลื่อนล้อหลัง พร้อมการกระจายนํ้าหนักหน้าหลังสมดุล 50:50 การควบคุมรถว่องไวไปตามทิศทางที่ควบคุม แต่จังหวะใช้ความเร็วสูงๆ สาดใส่ไปโค้งแรงๆด้านท้ายยังมีดิ้น ออกอาการปัดเล็กน้อย พอให้เลือดลมสูบฉีด
ด้วยตำแหน่งนั่งเตี้ยๆ คนขับและผู้โดยสารจะรู้สึกถึงแรงสะท้านจากพื้นถนนได้ระดับหนึ่ง แต่เชื่อเถิดครับว่านุ่มกว่า MX-5 โฉมที่แล้วพอสมควร
นอกจากนี้ ช่วงเปิดหลังคา ปะทะลมท้าฟ้าการออกแบบหลังคาใหม่แบบ RF ยังมีจุดบอดที่มุมด้านหลัง (มองผ่านไหล่ซ้าย) อยู่บ้าง ต่างจากรุ่นหลังคาผ้าใบ หรือโฉมเก่า RHT ที่ทุกอย่างเก็บลงเรียบได้ด้านท้าย ทำให้มุมมองในลักษณะเดียวกันเปิดโล่ง สามารถรับรู้ถึงสภาพการจราจรภายนอกได้มากกว่า
...ต้องเลือกครับ ถ้าอยากได้ความสวยตอนปิดหลังคาแบบรถสไตล์คูเป้หรือฟาสต์แบ็ก คงต้องแลกด้วยอารมณ์ทึมๆ ทึบๆ ในบางมุม แม้จะเปิดหลังคาขับก็ตาม (ใช้ในชีวิตจริงคนปิดหลังคามากกว่าอยู่แล้ว)
รวบรัดตัดความ...เรื่องแนวคิดการพัฒนาให้เป็นรถขับสนุก ถูกพูดมาตลอดสำหรับรถแบรนด์ไอคอนของมาสด้า ด้วยบุคลิกอันโดดเด่นจากความปราดเปรียว การขับขี่หนึบแน่นแม่นยำ โดยไม่จำเป็นต้องใช้ความดุดันหรือทำขุมพลังให้เกรี้ยวกราด แม้โมเดลปี 2019 จะอัพพลังอีก 24 แรงม้า แต่คุณค่าหลักของ MX-5 ยังเน้นความสมดุล คนกับรถเสมือนเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน ขณะที่รุ่น RF ชัดเจนว่ามาสด้าต้องการยกระดับความหรูหรา พลิกอารมณ์ให้ต่างจากรุ่นเดิมๆ หวังเอาใจทั้งคนชอบสไตล์สปอร์ตคูเป้และโรดสเตอร์ พร้อมราคาที่แอบขยับขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน
เรื่อง : กรกิต กสิคุณ
ภาพ : อาคม รวมสุวรรณ
หน้า 28-29 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3453 ระหว่างวันที่ 17 - 20 มีนาคม 2562
