หุ้นไทยปิดภาคเช้าลบ 9.35 จุด หุ้นกลุ่มพลังงาน-ค้าปลีกกดดันตลาด

ตลาดหุ้นไทยปิดภาคเช้า (19 พ.ค.65 ) ดัชนีหุ้นไทย (SET Index) ปิดที่ 1,610.98 จุด ลดลง 9.35  จุด หรือ -0.58 % มูลค่าซื้อขาย 33,625.60 ล้านบาท ดัชนีปรับสูงสุดอยู่ระดับ 1,611.67 จุด และต่ำสุดที่ระดับ 1,592.10 จุด  

ดัชนี SET 50 ปิดปรับลดลง 6.22 จุด หรือ -0.64% ยืนที่ 970.79 จุดโดยดัชนีปรับสูงสุดอยู่ระดับ 971.48 จุด และต่ำสุดที่ระดับ 961.58 จุด 

การเคลื่อนไหวของหุ้นไทยในช่วงเช้านี้ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย (KS) ระบุว่า หุ้นที่ส่งผลต่อดัชนีหุ้นไทยมากสุด 

•  Most Positive Impact ได้แก่ JTS (+0.89 จุด), KC (+0.65 จุด), BDMS (+0.33 จุด)
• Most Negative Impact ได้แก่ PTT (-1.2 จุด), DELTA (-0.84 จุด), PTTEP (-0.83 จุด)

กลุ่มหุ้นที่ปรับขึ้นหนุนดัชนีหลักๆคือ กลุ่ม Defensive นำโดยกลุ่มโรงพยาบาล  (BDMS,BH, RAM, CHG), กลุ่ม ICT(JTS, DIF) 

ส่วนกลุ่มที่กดดัชนี(-)มากสุดคือ กลุ่มพลังงาน (PTT,PTTEP,EA) กลุ่มค้าปลีก (BJC, CRC)

แนวโน้มตลาดหุ้นช่วงบ่าย

• มุมมองตลาดหุ้นไทยบ่ายนี้ KS คาด 1600-1620 +- จุด ประเมินตลาดหุ้นไทยจะยังไม่กลับเป็นขาขึ้น  โดยปัจจัยลบยังมีอยู่คาดการ Downgrade ทั้ง EPS และ GDP, นโยบายการเงินของ Fed ติดตามถ้อยแถลงของกรรมการ Fed ก่อนการประชุม เดือน มิ.ย. 
• ส่วนปัจจัยในประเทศยังมีปัจจัยหนุน (+) จากกระแสการเปิดเมือง โดยพรุ่งนี้ (20 พ.ค.) ติดตามประชุมศบค.ชุดใหญ่ ถกเปิดสถานบันเทิง-ผ่อนคลายมาตรการเพิ่ม-ลดระดับเตือนภัย

Theme การลงทุน : KS ประเมิน SET Index ยังมีแนวต้านที่ 1,630 จุด ประเมินแนวโน้มRebound รอบนี้จะแกว่งตัวลง(Sideway down) คาดแนวรับสำคัญรอบนี้ประเมนิ อยู่ที่ 1585 จุด

โดยในช่วงตลาดผันผวนแนะนำลงทุนหุ้นกลุ่ม Defensive และมีปัจจัยบวกหนุน อาทิ 

• 1.) กลุ่มเปิดเมือง อาทิ BEM, CENTEL,OR, PTG, D, AMATA
•  2.)กลุ่ม Growth เก็งกำไรเน้น Rebound อาทิ SINGER, BE8 
• 3.)กลุ่ม Defensive อาทิ BH, BDMS, ADVANC, AP 
• 4.) กลุ่มโรงกลั่น แนะนำ SPRC 
• 5.) กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า (ASIAN, CPF, GFPT,CBG 

ส่วนกลุ่มที่ยังคงแนะนำชะลอการลงุทุนในช่วงนี้ คือ

• 1.) กลุ่มปิโตรเคมี,อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์
• 2.)หุ้นกลาง-เล็กที่ PE สูง

 10 อันดับหุ้นไทยที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุดเช้านี้ ได้แก่

• 1.FTI  2,268.76  ล้านบาท ราคาปิดล่าสุด 4.34 บาท (+1.84 บาท)
• 2.PTTEP1,023.76 ล้านบาท ราคาปิดล่าสุด 156.00บาท (-2.50 บาท )
• 3.BANPU 969.07ล้านบาทราคาปิดล่าสุด 11.80 บาท(-0.10 บาท )
• 4.BDMS 953.55 ล้านบาท ราคาปิดล่าสุด 27.00บาท (+0.25 บาท )
• 5.GULF 921.63 ล้านบาท ราคาปิดล่าสุด 46.25บาท(-0.75บาท )

• 6.CPALL 652.65  ล้านบาท ราคาปิดล่าสุด 64.25 บาท (0.00 บาท )
• 7.BEM 643.55  ล้านบาท ราคาปิดล่าสุด 8.90 บาท  (+0.10 บาท)
• 8.KBANK 632,179.10  ล้านบาท ราคาปิดล่าสุด 142.50บาท (-1.50 บาท )
• 9.JMT 573.35 ล้านบาท ราคาปิดล่าสุด 73.25บาท (-1.75 บาท )
• 10.IVL 561.40 ล้านบาท ราคาปิดล่าสุด 49.00 บาท (0.00 บาท )