ผู้ถือหน่วยทรัสต์ เฮ KTBSTMR เตรียมจ่ายผลตอบแทน 0.1039 บาทต่อหน่วย

24 ก.พ. 2565 | 09:02 น.

KTBSTMR โชว์ศักยภาพสินทรัพย์ เตรียมจ่ายผลตอบแทน 0.1039 บาทต่อหน่วย ขยายเวลาชดเชยรายได้ค่าเช่า 2 โครงการ เตรียมเข้าลงทุน้พิ่ม INTERLINK DATA CENTER ไม่เกิน 750 ล้านบาท เพื่อเพิ่มรายได้ กระจายความเสี่ยงไปยังสินทรัพย์ประเภทใหม่ๆ

นายพลสิทธิ ภูมิวสนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคทีบีเอสที รีท แมเนจเมนท์ จำกัด หรือ ‘KTBST REIT’ ในฐานะผู้ก่อตั้งทรัสต์และผู้จัดการกองทรัสต์เปิดเผยว่า  ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เคทีบีเอสที มิกซ์  หรือ ‘KTBSTMR’ ได้พิจารณาจ่ายประโยชน์ตอบแทนสำหรับรอบผลการดำเนินงาน ตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ในอัตรา 0.1039 บาทต่อหน่วยทรัสต์ รวมมูลค่ากว่า 31.25 ล้านบาท

นายพลสิทธิ ภูมิวสนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคทีบีเอสที รีท แมเนจเมนท์ จำกัด

กำหนดจ่ายประโยชน์ตอบแทนในวันที่ 22 มีนาคม 2565 และกำหนดรายชื่อผู้ถือหน่วยทรัสต์ที่มีสิทธิได้รับประโยชน์ตอบแทน (Record Date) ในวันที่ 9 มีนาคม 2565 สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของสินทรัพย์และการบริหารของกองทรัสต์ ที่มีจุดเด่นในการเป็นกองทรัสต์อิสระที่ลงทุนในสินทรัพย์คุณภาพหลากหลาย

ขณะเดียวกัน การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังอยู่ในช่วงเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งองค์การอนามัยโลกประกาศให้เป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวล KTBST REIT จึงเห็นว่า อาจส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อสภาวะเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะ "กลุ่มธุรกิจคอมมูนิตี้มอลล์" และ"กลุ่มธุรกิจให้เช่าพื้นที่สำนักงาน" ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของโครงการซัมเมอร์ฮิลล์ และโครงการซัมเมอร์ฮับ และเป็นส่วนหนึ่งของทรัพย์สินที่ กองทรัสต์ KTBSTMR เข้าลงทุน

 

ดังนั้น บริษัท เอสที ฮิลล์ จำกัด (ST Hill)  และ บริษัท เอสที ฮับ จำกัด (ST Hub)  ในฐานะบริษัทเจ้าของทรัพย์สิน จึงเสนอมาตรการ ขยายระยะเวลาชดเชยรายได้ค่าเช่าในสัญญา สำหรับทรัพย์สินโครงการซัมเมอร์ฮิลล์ และโครงการซัมเมอร์ฮับ จากเดิมที่มีระยะเวลา 1 ปี เป็น 3 ปี นับจากวันที่กองทรัสต์เข้าลงทุน  

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด ในฐานะทรัสตี และ KTBST REIT ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ เห็นชอบมาตรการดังกล่าว เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและเพื่อรักษาผลประโยชน์แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ของกองทรัสต์โดยรวม ดังนี้

  1. ขยายระยะเวลารับประกันรายได้โครงการซัมเมอร์ฮิลล์ และโครงการซัมเมอร์ฮับ ในพื้นที่ในโครงการส่วนใดที่ไม่มีผู้เช่าพื้นที่ ณ วันที่จดทะเบียนสิทธิการเช่า หรือ  สัญญาบริการ ลูกค้าของพื้นที่ในโครงการรายใดสิ้นสุดลง ไม่ว่าด้วยเหตุใดๆ จากเดิม 1 ปี ออกเป็นเวลา 3 ปี
  2. ขยายระยะเวลารับประกันรายได้จาก 1 ปี ออกไปเป็น 3 ปี ในส่วนพื้นที่จัดงาน (Event Area) และพื้นที่ส่วนทางเดิน (Corridor)  ของโครงการซัมเมอร์ฮิลล์ และโครงการซัมเมอร์ฮับ โดยมีรายได้ต่อปีของแต่ละโครงการไม่ต่ำกว่าจำนวนเงินดังนี้ โครงการซัมเมอร์ฮิลล์จำนวน 174,000.00 บาท และ โครงการซัมเมอร์ฮับ จำนวน 16,000.00 บาท
  3. ขยายมาตรการลดความเสี่ยงจากการสูญเสียรายได้ค่าเช่า ของโครงการซัมเมอร์ฮิลล์ และโครงการซัมเมอร์ฮับ จาก 1 ปี ออกไปเป็น 3 ปี โดยกองทรัสต์จะได้รับรายได้ค่าเช่าของแต่ละโครงการไม่ต่ำกว่าจำนวนเงินค่าเช่ารวมต่อปีตามที่ได้มีการคาดการณ์ไว้และกำหนดไว้ ดังนี้

 

  • ปีที่ 1 โครงการซัมเมอร์ฮิลล์จำนวน 72,150,000.00 บาท และโครงการซัมเมอร์ฮับ จำนวน 54,210,000.00 บาท 
  • ปีที่ 2 โครงการซัมเมอร์ฮิลล์ จำนวน 72,640,000.00 บาท และโครงการซัมเมอร์ ฮับ จำนวน 55,320,000.00 บาท 
  • ปีที่ 3 โครงการซัมเมอร์ฮิลล์ จำนวน 71,330,000.00 บาท และโครงการซัมเมอร์ ฮับจำนวน 58,820,000.00 บาท

 

"มาตรการดังกล่าวนับเป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหน่วยทรัสต์ของกองทรัสต์ KTBSTMR เป็นอย่างมาก เป็นการสร้างความมั่นใจในการบริหารทรัพย์สินของกองทรัสต์เพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทน ภายใต้สถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ที่มีเกิดขึ้นของสายพันธุ์เดิมสายพันธุ์ใหม่"นายพลสิทธิ  กล่าว

 

อย่างไรก็ตาม จากการการประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 1/2565 เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ประชุมมีมติ ว่า KTBSTMR จะลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมครั้งที่ 1 โดยลงทุนในกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์โครงการศูนย์รับฝากข้อมูล ซึ่งปัจจุบันใช้ชื่อว่าโครงการ INTERLINK DATA CENTER และซื้อสังหาริมทรัพย์ที่เกี่ยวเนื่อง ซึ่งใช้ในการดําเนินกิจการภายในโครงการ INTERLINK DATA CENTER จากบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จํากัด (มหาชน) จำนวนเงินไม่เกิน 750 ล้านบาท

 

ทั้งนี้จะมีการจัดประชุมวิสามัญของผู้ถือหน่วยทรัสต์ของกองทรัสต์ครั้งที่ 1/2565 เพื่อพิจารณาอนุมัติการกู้ยืมเงินและการให้หลักประกันที่เกี่ยวข้องกับการกู้ยืมเงิน เพื่อลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมครั้งที่ 1 โดยคาดว่าธุรกรรมดังกล่าวจะดําเนินการแล้วเสร็จภายในไตรมาส 1 ของปี 2565 และคาดว่าการลงทุนเพิ่มครั้งนี้ จะส่งผลให้กองทรัสต์มีรายได้เพิ่มขึ้นและเป็นการกระจายความเสี่ยงไปยังสินทรัพย์ประเภทใหม่ๆ ซึ่งเป็นการจัดหารายได้ที่กระจายความเสี่ยง

 

ปัจจุบัน กองทรัสต์ KTBSTMR เป็นกองทรัสต์กองแรก ที่มีนโยบายกระจายการลงทุนในทรัพย์สินหลากหลายประเภท ได้แก่ อาคารคลังสินค้า (Warehouse) อาคารโรงงาน (Factory) อาคารสำนักงาน (Office) และอาคารศูนย์การค้าประเภทคอมมูนิตี้มอลล์ (Community Mall) ด้วยรูปแบบสินทรัพย์แต่ละโครงการในลักษณะที่แตกต่างกัน ทั้งขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ มีการออกแบบตัวโครงการและจัดสรรพื้นที่ใช้สอยไว้เป็นอย่างดี

 

ประกอบกับการมุ่งเน้นการจัดหาผู้เช่าที่มีคุณภาพสูง พร้อมบริหารกลุ่มผู้เช่า (Tenant Mix) ให้กระจายตัวได้ดีในแต่ละโครงการ อีกทั้ง กองทรัสต์ยังมีการจัดหารายได้จากธุรกิจหลายประเภท และมีศักยภาพในการเติบโตสูง ถือเป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนในกองทรัสต์ที่มีโอกาสให้อัตราผลตอบแทนสม่ำเสมอในทุกช่วงภาวะเศรษฐกิจ