คลัง ไม่ห่วง หนี้ครัวเรือนพุ่ง โชว์จีดีพีปี 64 โตเกินคาด

21 ก.พ. 2565 | 05:10 น.

คลัง ชี้ หนี้ครัวเรือนพุ่ง ยังไม่น่ากังวล เพราะหนี้ส่วนใหญ่ก่อขึ้นเพื่อต่อยอดรายได้ พร้อมโชว์ตัวเลขจีดีพีปี 64 ของสภาพัฒน์ล่าสุดที่โต 1.6% นั้น สะท้อนไทยรับมือโควิดได้ดี และรัฐใช้จ่ายเงินกู้ได้ประโยชน์สูงสุด จึงหนุนจีดีพีปี 64 โตเกินคาด

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงสถานการณ์หนี้ครัวเรือนไทยในขณะนี้ว่า ตัวเลขหนี้ครัวเรือนปัจจุบัน ที่ดูพุ่งสูงกว่า 89.3% ต่อจีดีพีนั้น เนื่องจากตัวเลขจีดีพี ที่ยังขยายตัวหรือโตได้ในอัตราต่ำ ทำให้เมื่อนำมาคำนวณตัวเลขหนี้ครัวเรือนแล้ว ตัวเลขหนี้ครัวเรือนจึงออกมาสูง

 

ทั้งนี้หากดูในรายละเอียด จะพบว่า 34.5% เป็นหนี้การจากซื้ออสังหาริมทรัพย์ ขณะที่ 12.4% เป็นหนี้จากการซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ซึ่งสามารถนำไปต่อยอดอาชีพได้ และอีก 20% เป็นหนี้เพื่อการประกอบอาชีพโดยตรง ดังนั้นหนี้ในส่วนนี้เมื่อรวมกันแล้ว กว่า 65% จึงเป็นหนี้ที่ก่อขึ้นเพื่อการลงทุน เพื่อต่อยอดสร้างรายได้ และ หนี้เพื่อสะสมทรัพย์สิน ดังนั้น ตัวเลขหนี้ครัวเรือนในปัจจุบันจึงยังไม่น่ากังวล ขณะเดียวกัน ตัวเลขหนี้เสียของสถาบันการเงิน ยังทรงตัวอยู่ในระดับ 2.8-2.9%

 

“โดยหลักการ คือ ใครที่มีหนี้ ก็น่าเป็นห่วงทั้งนั้น เพียงแต่ถ้าไปดูไส้ในก็เป็นหนี้ที่ก่อขึ้นมาเพื่อก่อให้เกิดรายได้ และเพื่อสะสมทรัพย์ จึงไม่น่ากังวล แต่หนี้เพื่อการบริโภค อาจต้องมาดูว่าจะทำอย่างไรให้เขามีรายได้เพื่อชำระหนี้ คิดว่า เรื่องนี้ เป็นเรื่องที่สภาพัฒน์เป็นห่วงมากกว่า” นายพรชัย กล่าว

 

พรชัย ฐีระเวช ผอ.สศค. ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง

นายพรชัย ยังกล่าวถึง กรณีสภาพัฒน์แถลงจีดีพีปี 64 ขยายตัวที่ 1.6%  นั้น เป็นเพราะได้รับอานิสงส์จากไตรมาสที่ 4 ที่ภาคการบริโภคของภาคเอกชนกลับมาขยายตัวได้ดีขึ้นจากที่มองว่าจะไม่ขยายตัวได้มาก ขณะเดียวกัน การเบิกจ่ายการลงทุนภาครัฐก็ดีขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ ฉะนั้น ไตรมาสที่ 4 จึงเป็นไตรมาสที่เศรษฐกิจขยายตัวได้ดีกว่าที่ประเมิน โดยขยายตัวได้ถึง 1.9% ทำให้ทั้งปีสามารถขยายตัวได้ในระดับดังกล่าว

 

ซึ่งตัวเลขดังกล่าวยังสะท้อนถึงการรับมือสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ได้อย่างดี และรัฐบาลมีการใช้เงินกู้ได้อย่างเกิดประโยชน์สูงสุดในการดูแลภาคส่วนต่างๆ จึงส่งผลให้การขยายตัวเศรษฐกิจดีกว่าที่คาด ซึ่งสภาพัฒน์ กระทรวงการคลัง ได้คาดการณ์จีดีพีปี 64 จะขยายตัวได้เพียง 1.2% และแบงก์ชาติก็คาดว่าจะขยายตัวได้ 1% กว่า เท่านั้น