บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต ประกาศความสำเร็จเติบโตท่ามกลางวิกฤตในปี 2564พร้อมชูกลยุทธ์ 4 เสาหลัก สร้างการเติบโตทุกช่องทาง คงความเป็นผู้นำผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตและสุขภาพ เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจ และพัฒนาบุคลากรเพื่อเดินหน้าสู่ความสำเร็จร่วมกัน ตั้งเป้าสร้างเบี้ยประกันรับรวมปี 2565 แตะ 3.47 หมื่นล้านบาท
มร.โทมัส วิลสัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต กล่าวว่าสำหรับในปี 2565 เราเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นปีที่ดี มีปัจจัยบวกเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากสถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลายมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังมีความผันผวนในตลาดทุน และความไม่แน่นอนของอัตราดอกเบี้ย อลิอันซ์ อยุธยา ยังคงต้องดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวัง มุ่งเน้นในเรื่องการสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน โดยยังคงยึดกลยุทธ์หลัก Strategy 2025 ที่ทุกส่วนในองค์กรจะต้องร่วมกันผลักดันและขับเคลื่อน ซึ่งประกอบด้วย 4 เสาหลักสำคัญ ได้แก่
ที่ผ่านมาปี 2564 ถือเป็นอีกปีที่ท้าทายเป็นอย่างมากในการดำเนินธุรกิจ แต่ อลิอันซ์ อยุธยา ยังคงทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเติบโตเพิ่มขึ้นจากปี 2563 โดยมีช่องทางตัวแทนเป็นช่องทางที่สร้างยอดขายมากที่สุดถึง 39% ของเบี้ยประกันรับใหม่ (ANP) ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ตอบโจทย์ทุกความต้องการด้านความคุ้มครองสุขภาพ ทำให้ธุรกิจสุขภาพยังเติบโตต่อเนื่องด้วยสัดส่วนของสินค้าถึง 36.4% ของเบี้ยประกันผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่บริษัทขาย
นอกจากนั้น ในด้านของการดำเนินงาน เรายังได้นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการทำงานเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจ และอำนวยความสะดวกให้ลูกค้า จนทำให้อลิอันซ์ อยุธยา มีคะแนนอยู่ในระดับ Loyalty Leader ที่ลูกค้ามีความภักดีเป็นอันดับ 1 (จากผลสำรวจของ Ipsos Research Agency บริษัทวิจัยระดับโลก)
และสิ่งที่เราถือเป็นความภาคภูมิใจคือการให้ความคุ้มครองคนไทยในสถานการณ์โควิด 19 โดยมีการจ่ายเคลมตามกรมธรรม์จากสถานการณ์โควิด 19 ตั้งปี 2563 จนถึงปัจจุบันไปแล้วกว่า 20,850 เคส เป็นเงินรวมกว่า 1,064 ล้านบาท โดยประมาณ 19,200 เคส เป็นค่ารักษาพยาบาลการเจ็บป่วยจากโควิด 19 และประมาณ 1,330 เคส เป็นการชดเชยจากการแพ้วัคซีน และ ประมาณ 330 เคส มาจากการเสียชีวิต”
“จากกลยุทธ์ 2025 ที่แข็งแกร่งถูกพิสูจน์แล้วด้วยความสำเร็จในปีที่ผ่านมา และทีมงานคุณภาพของอลิอันซ์ อยุธยา ทำให้เรามั่นใจว่าจะสามารถผลักดันให้ อลิอันซ์ อยุธยา สามารถเติบโตธุรกิจในประเทศไทยได้อย่างแข็งแกร่ง เป็นแบรนด์ประกันอันดับหนึ่งในใจลูกค้ารวมทั้งสร้างความผูกพันกับพนักงาน พร้อมพิชิตยอดเบี้ยประกันรับรวม 3.47 หมื่นล้านบาท เบี้ยประกันภัยรับปีแรก 6.5 พันล้านบาท และสร้างการเติบโตให้กับผลิตภัณฑ์สุขภาพ ได้ 30% ก้าวสู่การเป็นผู้นำบริษัทประกันชีวิตของไทยได้อย่างมั่นคง” มร.โทมัส กล่าวทิ้งท้าย