“คลัง” ปัดถังแตก พร้อมแจงเหตุ “คนละครึ่ง4” ให้ 1,200 บ./สิทธิ

24 ม.ค. 2565 | 08:53 น.

“อาคม” เผยเหตุลดเงิน “คนละครึ่ง4” เหลือ 1,200 บาท/สิทธิ เพราะเศรษฐกิจเริ่มฟื้น ขณะที่ “คนละครึ่ง3” พบใช้จ่ายเฉลี่ย 158 บาท/คน/วันเท่านั้น ย้ำไม่เกี่ยวกับรัฐไม่มีเงิน ชี้ พ.ร.ก.กู้เงินมีเหลืออีกกว่า 1 แสนล้าน ยังเพียงพอใช้ดูแลเศรษฐกิจ

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบการดำเนินมาตรการรักษาระดับการบริโภคภายในประเทศ ปี 2565 วงเงินรวม 44,000 ล้านบาท ผ่าน 3 โครงการ ได้แก่ โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 4 โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 2 และ โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 โดยให้เริ่มใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ถึง 30 เมษายน 65 ทั้งนี้ เชื่อว่าการดำเนินการทั้ง 3 โครงการ จะช่วยรักษากำลังซื้อในระบบเศรษฐกิจ จากการเติมเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในปี 2565 จำนวน 79,023 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยให้ GDP ทั้งปี 2565 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.21 ต่อปี

โดยนายอาคม กล่าวถึงสาเหตุที่ปรับลดวงเงินโครงการคนละครึ่งระยะที่ 4 ลงเหลือ 1,200 บาทต่อสิทธินั้น เนื่องจากข้อมูลจากการดำเนินมาตรการคนละครึ่งระยะที่ 3 พบว่า มีผู้ที่ได้รับสิทธิและไม่มีการใช้จ่ายเงินตามสิทธิเลย จำนวน 1.6 ล้านคน ขณะที่ผู้ใช้สิทธิพบว่ามีการใช้จ่ายเฉลี่ย 158 บาทต่อคนต่อวันเท่านั้น ทำให้โครงการคนละครึ่งระยะที่ 3 มีวงเงินเหลือคืนรัฐกว่า 1.1 หมื่นล้านบาท

 

นอกจากนี้ยังพบว่าดัชนีทางเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวขึ้นตามลำดับ ประชาชนเริ่มออกมาจับจ่ายซื้อสินค้ามากขึ้น และพบว่าธุรกิจเริ่มกลับมาเปิดตัวและมีการเรียกแรงงานกลับเข้าทำงาน ส่งผลดีต่อรายได้ ดังนั้นในโครงการคนละครึ่งระยะที่ 4 จึงได้ปรับลดวงเงินเหลือ 1,200 บาทต่อคนต่อสิทธิ แต่ก็ได้เปิดระยะเวลาให้สามารถทยอยใช้จ่ายได้ 3 เดือน

 

“ที่วงเงินคนละครึ่ง4 ลดลง ไม่ได้มาจากการที่รัฐบาลไม่มีเงิน แต่เมื่อเศรษฐกิจเริ่มฟื้น ก็ต้องลดการใช้มาตรการเติมเงิน ซึ่งคนละครึ่งระยะ 3 เหลือเงินคืนมา 1.1 หมื่นล้านบาท โดยได้ขออนุมัติวงเงินเพิ่มไป 3.2 หมื่นล้านบาท โดยเป็นเงินจาก พ.ร.ก.กู้เงินเพิ่มเติมวงเงิน 5 แสนล้านบาท ทำให้ตอนนี้ยังเหลือเงินจาก พ.ร.ก.ฉบับนี้อีก 1 แสนล้านเศษ ยังเพียงพอดูแลเศรษฐกิจได้ แต่ก็ต้องประหยัด เพราะยังมีโครงการอื่นที่รออนุมัติอยู่ และยังต้องสำรองเงินไว้ใช้กรณีอื่นด้วย” นายอาคม กล่าว

อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

สำหรับรายละเอียดของโครงการ ได้แก่

 

1. โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 รัฐบาลได้ให้วงเงินสิทธิอยู่ที่ 1,200 บาทต่อคนตลอดระยะเวลาโครงการ เพื่อสนับสนุนค่าใช้จ่ายอาหาร สินค้าและบริการ ในอัตรา 50% แต่ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน ทั้งนี้จะมีผู้ได้รับสิทธิทั้งสิ้นจำนวน 29 ล้านคน โดยแบ่งเป็นผู้ที่เคยได้รับสิทธิจำนวน 27.98 ล้านคน ซึ่งผู้ที่อยู่ในกลุ่มนี้สามารถกดยืนยันรับสิทธิผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. 65 และสามารถใช้จ่ายเงินได้ในวันเดียวกัน ถึงวันที่ 30 เมษายน 2565

 

ส่วนอีก 1 ล้านสิทธิจะเปิดให้ผู้ที่ไม่เคยได้รับสิทธิมาก่อน ได้ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์  www.คนละครึ่ง.com หรือ แอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ในวันที่ 10 ก.พ. 65 และสามารถเริ่มใช้จ่ายได้ตั้งแต่วันที่ 17 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 30 เมษายน 2565 ทั้งนี้กลุ่มผู้ที่เคยได้รับสิทธิและผู้ที่ลงทะเบียนรับสิทธิใหม่ จะต้องกดยืนยันหรือลงทะเบียน และใช้จ่ายเงินครั้งแรก ภายในวันที่ 28 ก.พ.65

 

2. โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 4 จำนวนไม่เกิน 200 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 30 เมษายน 2565 (กรณีมีวงเงินคงเหลือในเดือนใดจะไม่มีการสะสมไปในเดือนถัดไป) รวมทั้งสิ้น 600 บาทต่อคน ตลอดระยะเวลาโครงการ เป็นวงเงินรวม 8,071 ล้านบาท ให้แก่ผู้มีบัตรฯ จำนวนไม่เกิน 13.45 ล้านคน โดยจะใช้ฐานข้อมูล ณ วันที่ 25 มกราคม 2565

 

3. โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 2  จำนวนไม่เกิน 200 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 30 เมษายน 2565 (กรณีมีวงเงินคงเหลือในเดือนใดจะไม่มีการสะสมไปในเดือนถัดไป) รวมทั้งสิ้น 600 บาทต่อคน ตลอดระยะเวลาโครงการ เป็นวงเงินรวม 1,352 ล้านบาท ซึ่งเป็นกลุ่ม ที่ได้รับสิทธิตามโครงการเราชนะ กลุ่ม 4 จำนวนไม่เกิน 2.25 ล้านคน