KTBST LEND รุกตลาด “สินเชื่อสวัสดิการพนักงาน" ดอกต่ำ หนุนแก้หนี้นอกระบบ

24 พ.ย. 2564 | 06:27 น.

KTBST LEND พร้อมให้บริการ Welfare Loan สินเชื่อสวัสดิการพนักงาน ไม่มีหลักประกัน ดอกต่ำ 10-15% ต่อปี อนุมัติไว ไม่ตรวจเครดิตบูโร พลิกโฉมการกู้ ง่าย จบในแอปฯเดียว ตั้งเป้าปีแรกแก้หนี้นอกระบบและเสริมสภาพคล่อง พนักงาน ไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท

จากประสบการณ์ที่เกิดจากความชอบเรื่องการเงินการลงทุน และการพัฒนาโมเดลการลงทุนและบริการทางการเงินใหม่ๆ ด้วยเทคโนโลยี หรือ ฟินเทค มาไม่ต่ำกว่า 20 ปี ทำให้นายกานต์ พูลเกษร ถูกทาบทามจากนายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท  เคทีบีเอสที เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินรูปแบบดิจิทัล ปิดช่องว่าง และ เปิดโอกาสทางการเงินให้กับคนไทย

 

หลังเข้ารับตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคทีบีเอสที เลนด์ จำกัด (KTBST LEND)  นายกานต์ พูลเกษร มองเห็นปัญหาหนี้นอกระบบในไทย และข้อจำกัดในการเข้าถึงสินเชื่อส่วนบุคคลแบบไม่มีหลักประกันโดยเฉพาะของพนักงานบริษัทเอกชน ทำให้เกิดปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน ซึ่งถือเป็นปัญหาหลักที่ส่งผลต่อกำลังใจและประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลง

 

นายกานต์ พูลเกษร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคทีบีเอสที เลนด์ จำกัด (KTBST LEND) กล่าวว่า บริษัทพร้อมเปิดให้บริการสินเชื่อสวัสดิการพนักงาน Welfare Loan ผ่าน แอปพลิเคชัน “LEND U” ซึ่งเป็นสินเชื่อแบบไม่มีหลักประกัน เพื่อช่วยแก้ปัญหาหนี้นอกระบบและเสริมสภาพคล่องให้พนักงานบริษัทเอกชน ซึ่งถือเป็นปัญหาหลักที่ส่งผลต่อกำลังใจและประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลง

 

“สินเชื่อสวัสดิการมักจะมีในองค์กร เช่น ราชการ หรือ รัฐวิสาหกิจ หรือ หากเป็นบริษัทเอกชน จะอยู่ในรูปแบบข้อตกลงระหว่างบริษัทกับสถาบันการเงิน ในการขอสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษเป็นสวัสดิการให้กับพนักงาน ซึ่งท้ายที่สุดผู้ขอสินเชื่อจะต้องยื่นเรื่องเจรจาเอง และการอนุมัติวงเงินสินเชื่อยังขึ้นอยู่กับการพิจารณาของธนาคารด้วย” นายกานต์ กล่าว

 

นายกานต์ พูลเกษร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคทีบีเอสที เลนด์ จำกัด

นายกานต์ กล่าวอีกว่า ขณะที่การยื่นขอ “สินเชื่อส่วนบุคคล” ในไทย หากเป็นธนาคารพาณิชย์ ที่มีอยู่ประมาณ 3.4 ล้านบัญชี จะมียอดสินเชื่ออยู่ที่ประมาณ 2.5 แสนล้านบาท ในขณะธุรกิจที่เป็นนอนแบงก์มีอยู่ 10.7 ล้านบัญชี มียอดสินเชื่อประมาณ 2.5 แสนล้านบาทเช่นกัน  สาเหตุที่ธนาคารพาณิชย์ให้สินเชื่อส่วนบุคคลน้อย เนื่องจากเป็นสินเชื่อแบบไม่มีหลักประกันจึงทำให้เกณฑ์การพิจารณาผู้กู้ค่อนข้างเข้มข้น ขณะเดียวกันแต่ละคนมีความเสี่ยงไม่เท่ากัน จึงทำให้ยังมีพนักงานอีกเป็นจำนวนมากที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากสถาบันการเงินในยามฉุกเฉิน

 

ทั้งนี้หลังนำปัญหาที่พบมาวิเคราะห์ รวมทั้งนโยบายของ ธปท. ที่ต้องการส่งเสริมการใช้งานทางด้านเทคโนโลยี เช่น Digital Lending ทำให้ “LEND U” ตอบทุกโจทย์ สำหรับการสมัครสินเชื่อสวัสดิการพนักงาน ตั้งแต่การเปิดบัญชี การยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิค หรือ e-kyc การยืนยันข้อมูล การทำสัญญาสินเชื่อ และการเซ็นสัญญาอิเล็กทรอนิกซ์ (e-Signature) รวมไปถึงการอนุมัติสินเชื่อ การออกใบเสร็จรับเงิน โดยที่ผู้ขอสินเชื่อไม่ต้องเกี่ยวข้องกับบุคคลอื่น เพราะสามารถดำเนินการจบภายในแอพพลิเคชั่นเดียว ส่วนการรับเงิน พนักงานสามารถรับเงินผ่านบัญชีเงินเดือน ได้ภายใน 2-3 วันทำการ และการชำระค่างวดก็สะดวกเพราะหักจากบัญชีเงินเดือนได้เลย

สำหรับแอปพลิเคชัน “LEND U” ประกอบด้วย 3 ฟังกชั่นหลัก โดยฟังก์ชั่นแรก สมัครสินเชื่อสวัสดิการ ฟังก์ชั่นที่ 2 เมนูบทเรียนในรูปแบบ e-learning พร้อมแบบทดสอบ ที่รวบรวมองค์ความรู้ทั้งการบริการจัดการหนี้ การคำนวณอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก ความรู้ด้านการลงทุนเพื่อสร้างวินัยการออมเงิน ซึ่งฝ่าย HR ของแต่ละบริษัทสามารถออกแบบใส่เนื้อหาที่ต้องการให้พนักงานอบรมลงไปได้ และสามารถประเมินการเข้ามาใช้งานของพนักงาน และสร้างดอกเบี้ยอัตราพิเศษเพื่อจูงใจให้กับพนักงานที่เข้ามาเรียนรู้ได้ และฟังก์ชั่นที่ 3 คือการบันทึกรายรับรายจ่าย เพื่อสร้างวินัยทางการเงินให้ดีขึ้น นอกจากนี้ KTBST LEND ยังเตรียมเพิ่มฟังก์ชั่นที่ 4 เกี่ยวกับการลงทุนแบบอัตโนมัติ (Robo Advisor) ไว้ในแอพพลิเคชั่นในอนาคต ซึ่งผู้ที่ยังมีภาระหนี้ก็สามารถเริ่มลงทุนได้โดยไม่มีเงินลงทุนขั้นต่ำ

KTBST LEND รุกตลาด “สินเชื่อสวัสดิการพนักงาน" ดอกต่ำ หนุนแก้หนี้นอกระบบ

ซึ่งในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ได้มีการทดลองใช้ “LEND U” กับพนักงานของกลุ่ม KTBST ที่มีอยู่ 7 บริษัท ซึ่งมีพนักงานประมาณ 500 คน พบว่าได้รับการตอบรับอย่างดี มีพนักงานที่สมัครสินเชื่อประมาณ 100 คน คิดเป็น ประมาณ 20% ของพนักงานทั้งหมด ส่วนใหญ่พนักงานจะชื่นชอบทั้งในเรื่องความสะดวก และความเป็นส่วนตัว เพราะจะมีเพียงฝ่าย HR เท่านั้นที่สามารถเข้าระบบหลังบ้านได้ เพื่อติดตามและประเมินผลการรับสิทธิ์สวัสดิการ โดยวงเงินที่ได้รับจะอยู่ที่ 1-3 เท่าของเงินเดือน ขึ้นอยู่กับประวัติการทำงานและอายุงานของแต่ละคน

 

คำว่าสินเชื่อสวัสดิการ แปลว่า หากคุณเป็นพนักงานคุณก็มีสิทธิสมัครสินเชื่อได้  โดยไม่จำเป็นต้องถูกตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการชำระหนี้หรือเครดิตบูโร และไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน  เพียงแค่คุณเป็นพนักงานขององค์กร ที่ทำสัญญาใช้บริการสินเชื่อสวัสดิการ กับ KTBST LEND  ตามเงื่อนไขที่แต่ละองค์กรกำหนด เช่น เป็นพนักงานประจำ หรือพนักงานชั่วคราวที่มีอายุงานไม่ต่ำกว่า 12 เดือน เป็นต้น โดยเงื่อนไขการให้วงเงินสินเชื่อขึ้นอยู่กับทางองค์กร ตกลงกับ ทาง KTBST LEND เช่น พนักงานที่อายุงานนานกว่าจะได้วงเงินสินเชื่อที่สูงกว่า เป็นต้น โดยวงเงินที่ทาง KTBST LEND สามารถให้ได้จะอยู่ที่ 1-3 เท่าของเงินเดือน ตามเกณฑ์ของสินเชื่อสวัสดิการ” ”

 

KTBST LEND มีเป้าหมายที่จะเป็นตัวช่วยในการบริหารจัดการหนี้ให้กับพนักงานที่เป็นมนุษย์เงินเดือน ด้วยการเสนอสินเชื่อสวัสดิการพนักงาน อัตราดอกเบี้ยต่ำอยู่ที่ประมาณ 10-15% ต่อปี โดยหากคำนวณแบบลดต้นลดดอกแล้ว หากยอดสินเชื่อ 10,000 บาท ดอกเบี้ย 10% ต่อปี ดอกเบี้ยที่จ่ายรวมจะอยู่ที่ต่ำกว่า 1,000 บาท เทียบกับอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อส่วนบุคคล ที่อยู่ระหว่าง 16-25% แล้วจะต่ำกว่ามาก โดยพนักงานสามารถนำเงินสินเชื่อที่ได้ไปปิดหนี้นอกระบบ หรือหนี้บัตรเครดิต หรือหนี้อื่น ๆ ที่อัตราดอกเบี้ยสูงกว่าได้ ซึ่งจะช่วยให้พนักงานบริษัทบริหารจัดการหนี้ได้ดี และจะมีเงินเหลือเพียงพอเพื่อนำเงินไปลงทุนได้ โดยใน แอปพลิเคชัน LEND U จะมีองค์ความรู้การบริหารจัดการเรื่องการเงิน รวมถึงความรู้ด้านการลงทุน ซึ่งคนมีหนี้ไม่ได้หมายความว่าลงทุนไม่ได้ แต่การลงทุนที่อยู่ในกรอบที่สามารถบริหารจัดการความเสี่ยงที่รับได้ ก็มองว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ควรหาโอกาสเข้าไปลงทุน”

 

สำหรับบริษัทที่จะใช้บริการสินเชื่อสวัสดิการของ KTBST LEND ได้ เบื้องต้นจะพิจารณาจากอายุการจัดตั้งบริษัท จำนวนพนักงาน และต้องมีระบบการจ่ายเงินเดือนผ่านธนาคาร มีทีมไอทีในการดูแลและเชื่อมระบบกับ KTBST LEND พร้อมตั้งเป้าในปี 2565 สามารถให้วงเงินสินเชื่อสวัสดิการไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท หรือมีเอกชนใช้บริการไม่ต่ำกว่า 5 บริษัท และเพิ่มเป็น 40-50 บริษัท วงเงินสินเชื่อสวัสดิการไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท ภายใน 5 ปีข้างหน้า

 

สนใจบริการสินเชื่อสวัสดิการพนักงาน สำหรับองค์กร หรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ [email protected]  หรือ 02-351-1804 กด ต่อ 3413-3414