นักลงทุนต่างชาติ ลุยซื้อหุ้นไทยต่อเนื่องเดือนที่3

รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) พบว่า การซื้อขายสะสมของนักลงทุนต่างชาติในเดือนตุลาคมซื้อสุทธิ 15,886.15 ล้านบาท ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 และซื้อสุทธิสูงที่สุดของปี 2564 แต่หากเทียบตั้งแต่ต้นปีถึงวันที่ 29 ตุลาคม 2564 ขายสุทธิ 60,819.18 ล้านบาท น้อยกว่าปี 2563 ที่ขายสุทธิกว่า 264,385.79 ล้านบาท และขายต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 ขณะที่ตั้งแต่ปี 2560-2564 ขายสุทธิรวม 687,250.52 ล้านบาท

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ จำกัดเปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ภาพรวมกระแสเงินลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติในเดือนตุลาคม 2564 ที่เป็นการซื้อสุทธิต่อเนื่องนั้น มองว่า มีความหวังที่นักลงทุนต่างชาติจะยังคงเข้ามาซื้อหุ้นไทยต่อเนื่อง จากการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และเปิดเศรษฐกิจ แต่ในเดือนธันวาคมแรงซื้ออาจจะชะลอลง เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลวันหยุดยาวของต่างประเทศ ซึ่งอาจจะเริ่มเห็นการขายหรือซื้อน้อยลงตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน

จากการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และเปิดเศรษฐกิจ แต่ในเดือนธันวาคมแรงซื้ออาจจะชะลอลง เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลวันหยุดยาวของต่างประเทศ ซึ่งอาจจะเริ่มเห็นการขายหรือซื้อน้อยลงตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน

อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามกระแสเงินจากนักลงทุนสถาบันในประเทศจากการเข้าซื้อกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ที่จะเข้ามาหนุนในช่วงปลายปี จากการเข้าซื้อเพื่อรับสิทธิประโยชน์ทางภาษี แต่ต้องระวังแรงขายกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ในช่วงต้นปี 2565 ที่เริ่มครบกำหนดระยะเวลาในการถือครอง

สำหรับปัจจัยบวกที่จะช่วยหนุนเม็ดเงินจากนักลงทุนต่างชาติ มาจากปัจจัยในต่างประเทศเป็นหลัก โดยเฉพาะนโยบายการเงิน ซึ่งคาดว่าใน 6 เดือนข้างหน้าจะไม่มีการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย รวมถึงสภาพคล่องยังอยู่ในระดับสูง และเศรษฐกิจยังเติบโตได้ดี ส่วนในประเทศ มองว่าเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวได้ และต้องติดตามการใช้จ่ายเงินกู้ 500,000 ล้านบาท ว่ารัฐบาลจะนำมากระตุ้นเศรษฐกิจในด้านใด

“แม้ในช่วงที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติจะซื้อหุ้นไทย แต่ช่วงนี้ที่เป็นการขายมาจากความกังวลต่อความไม่แน่นอนของการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินให้เร็วขึ้นกว่าเดิมหรือไม่ ส่งผลให้กระแสเงินทุนผันผวนโดยเฉพาะกลุ่มตลาดเกิดใหม่ อีกทั้งผลการดำเนินงานบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ไทย ไตรมาส 3 ปี 2564 ในกลุ่มภาคการผลิตจริงที่ออกมาอ่อนแอกว่าที่คาดหลายราย”นายอภิชาติกล่าว 

หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 ฉบับที่ 3,728 วันที่ 4 - 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564