วันนี้ “ออฟฟิศซินโดรม” (Office Syndrome) ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป ข้อมูลจากกรมอนามัย (2558) ระบุว่ากว่า 60% ของคนวัยทำงาน โดยเฉพาะพนักงานออฟฟิศที่ต้องนั่งทำงานเกิน 8 ชั่วโมงต่อวัน ล้วนมีอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง ไม่ว่าจะเป็น ปวดคอ ไหล่ หลัง มือชา หรือไมเกรน ปัญหาเหล่านี้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี และกลายเป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยในคนวัยทำงานยุคดิจิทัล
นี่เองจึงทำให้คนโหยหาการนวด และการบรรเทาอาการออฟฟิศซินโดรม วันนี้หากอยากผ่อนคลายไปกับศาสตร์การนวดบำบัด เติมพลังฟิตให้กล้ามเนื้อ หรือ การฟื้นฟูเฉพาะทาง ไม่ต้องเดินทางไปควานหาในแต่ละที่
มาที่ ศูนย์สิริกิติ์ ครบจบในที่เดียว เพราะเขามัดรวมธุรกิจด้านเวลเนสและสุขภาพ มาไว้ที่นี่ภายใต้โซนพื้นที่รีเทล ภายใต้คอนเซ็ปต์ BALM : Bangkok Active Lifestyle Mall ให้เป็นมากกว่าร้านอาหารและคาเฟ่ แต่ที่นี่คือการรวมบริการด้านสุขภาพแบบครบวงจรสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ต้องการ บาลานซ์ชีวิตให้ดีขึ้นทั้งกายและใจ
เริ่มกันจากใครชอบ “RELAX” ปล่อยกายปล่อยใจไปกับศาสตร์การนวดบำบัด แวะไปผ่อนคลายความอ่อนล้าได้ที่ “เล็ทส์ รีแล็กซ์ สปา” ซึ่งที่นี่มีทรีตเม้นท์เพื่อการบำบัดมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “การนวดฝ่าเท้า” หนึ่งในวิธีการบำบัดออฟฟิศซินโดรมที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในกลุ่มคนทำงานยุคใหม่
เพราะการนวดฝ่าเท้าเป็นการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม โดยการกดจุดบนฝ่าเท้าซึ่ง เชื่อมโยงกับอวัยวะภายในหลายส่วนทั่วร่างกาย ช่วยคลายกล้ามเนื้อที่ตึงจากการนั่งทำงานเป็นเวลานาน กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ลดความเครียดสะสม และบรรเทาอาการปวดเมื่อย
ใครชอบนวดตัว ก็มีทรีตเม้นท์อื่นๆให้เลือก อย่าง “Dream Package Massage” โปรแกรมการนวดกดจุดบริเวณคอ บ่า ไหล่ มือ และเท้า เพื่อดูแลระบบหมุนเวียนในร่างกาย “นวดแผนไทย” เน้นการกด บีบ นวด ดัด และดึงตามแนวเส้น คลายกล้ามเนื้อที่ตึงและปวด
นวดแบบอโรม่าก็มี อย่าง “Warm Oil Massage” ที่เป็นการนวดน้ำมันอุ่น และ “Aromatic Hot Stone Massage” ที่เป็นการนวดด้วยหินร้อน ที่ใช้หินอุ่น ๆ วางบนจุดต่าง ๆ ของร่างกาย โดยความร้อนจากหินจะช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัวได้ดีขึ้นถึงระดับชั้นลึกกว่าการนวดด้วยมือเปล่านั่นเอง
ส่วนคนชอบฟิตแอนด์เฟิร์ม ถึงเวลาต้อง “Reboost” กับ “วอริกซ์รันฮับ” (Warrix Run Hub) อีกหนึ่งสปอร์ตคลับที่ไม่เมือนใคร แต่ตอบโจทย์คนเป็นออฟฟิศซินโดรม เพราะจุดเด่นของที่นี่ คือ การบริการ Personal Training ไม่ใช่การขายคอร์สฟิตเนส
แต่เป็นโปรแกรมที่ได้รับการออกกำลังกายแบบตัวต่อตัว โดยมีเทรนเนอร์ที่มีประสบการณ์ด้านการออกกำลังกายและฟื้นฟู รวมถึงมีการทำงานร่วมกันระหว่างเทรนเนอร์กับนักกายภาพบำบัด
ทำให้มีการออกแบบโปรแกรมที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล การออกกำลังกายจะเน้นการเสริมสร้างความแข็งแรง ความยืดหยุ่น ความสมดุลของกล้ามเนื้อ บรรเทาอาการปวด และป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำของอาการออฟฟิศซินโดรม
นอกจากนี้ยังมีบริการตรวจเช็คโครงการร่างกายด้วย AI ทำให้รู้ถึงปัญหา และสามารถแก้ไขด้วยการออกกำลังกาย กายภาพบำบัด ได้ตรงจุด ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคนทำงานยุคใหม่ที่ต้องการดูแลสุขภาพอย่างถูกวิธีและปลอดภัย
สำหรับใครมีอาการปวดเรื้อรัง หรือ ออฟฟิศซินโดรมขั้นลึก การได้มา “REHAB” กับ “ReActive Rehab Clinic” คือคำตอบ เพราะที่นี่เป็น คลินิกเวชศาสตร์ฟื้นฟูเฉพาะทางในมาตรฐานสากล ดูแลโดยทีมแพทย์ และนักกายภาพบำบัด ที่ช่วยค้นหาต้นตอของอาการปวด ก่อนรักษาอย่างตรงจุด ด้วยการใช้เทคโนโลยีกายภาพสมัยใหม่
ทำให้มีวิธีการรักษาที่หลากหลาย โดยใช้เครื่องมือกายภาพทันสมัย เพื่อจัดการกับจุดที่มีอาการปวด ไม่ว่าจะเป็น “Focus Shockwave” ลดจุดกล้ามเนื้อที่ตึงลึกและกระตุ้นการฟื้นฟูของเนื้อเยื่อ “Dry Needling” เทคนิคการลงเข็มแผนตะวันตก สะกิดจุดปวด ที่ช่วยลดอาการปวด
“PMS” (Pulsed Magnetic Stimulation) กระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อ และระบบประสาท “Ultrasound Therapy” บรรเทาการอักเสบและช่วยให้เลือดไหลเวียน“Physiotherapist – Guide Stretching” ที่จะมีนักกายภาพจะคอยแนะนำ และยืดเหยียดอย่างถูกวิธี เพื่อให้ร่างกายกลับมาสมดุลอีกครั้ง และข้อดีคือที่นี่สามารถเบิกประกันได้
การฟื้นฟูสุขภาพที่ครบวงจรแบบนี้ คนเป็นออฟฟิศซินโดรมอย่างเรา มาที่นี่เดียวถือว่าครบจบ ใครชอบสไตล์การซ่อมแซมร่างแบบไหน ก็เลือกได้ตามชอบเลย