ช่วงนี้เป็นช่วง 'ประเพณีถือศีลกินผักภูเก็ต 2568' หรือ 'Phuket Vegetarian Festival' 2025 สว่างไสวไปด้วยพลังแห่งความศรัทธา ความบริสุทธิ์ และพิธีกรรมอันเข้มขลัง
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ชวนนักท่องเที่ยวร่วมสัมผัสบรรยากาศแห่งความเลื่อมใส และร่วมเป็นพยานในประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญสืบสานศรัทธา
ศาลเจ้าในภูเก็ต 39 แห่ง จัดประเพณีถือศีลกินผักภูเก็ต 200 ปีแห่งศรัทธา เจี๊ยะฉ่ายภูเก็ต จัดขบวนแห่อันศักดิ์สิทธิ์ พิธีกรรมอันยิ่งใหญ่ และสีสันแห่งความศรัทธาที่หาชมได้เพียงปีละครั้ง ร่วมสืบสานความเชื่อและวัฒนธรรมท้องถิ่นที่อยู่คู่ภูเก็ตมากว่า 200 ปี
ประเพณีถือศีลกินผัก หรือที่ชาวบ้านเรียก "เจี๊ยะฉ่าย" นั้นเป็นของลัทธิเต๋า ซึ่งนับถือบูชาเทวดาเทพเจ้าวีรบุรุษ เป็นประเพณีที่คนจีนนับถือกันมาช้านานตรงกับวันขึ้น 1 ค่ำ ถึง 9 ค่ำ ตามปฏิทินจีนของทุกปี
ประเพณีถือศีลกินผักได้รับประกาศกรมส่งเสริมวัฒนธรรม เรื่อง การขึ้นบัญชีมรดกภูมิปัญญาทาง วัฒนธรรม พ.ศ. 2561 ประเภท รายการตัวแทน
มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมลักษณะมรดกภูมิปัญญาวัฒนธรรมด้านการปฏิบัติ ทางสังคม พิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล และรางวัลเมืองเทศกาลโลก จากงาน ประกาศรางวัล IFEA/Haas & Wilkerson Pinnacle Award 2024 อีกด้วย
ความพิเศษของการจัดงานประเพณีถือศีลกินผักภูเก็ต 2568 ในปีนี้ คือ ครบรอบ "200 ปี อ๊ามกะทู้" ภูเก็ต ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของประเพณีถือศีลกินผักภูเก็ต สองศตวรรษแห่งศรัทธายังคงสืบต่อไปไม่สิ้นสุด จัดเต็มพิธีอัญเชิญองค์เทพ และขบวนแห่สุดยิ่งใหญ่
ศาลเจ้ากะทู้ หรือ "ฉ้ายตึ่ง" มีอายุกว่า 200 ปี ถือเป็นจุดกำเนิดพิธีถือศีลกินผักในภูเก็ตเรื่องเล่าว่า เมื่อคณะงิ้วเปะยี่ที่มาแสดง ชาวบ้านล้มป่วยทั้งหมู่บ้าน หัวหน้าคณะจึงจัดพิธีถือศีล กินผักอย่างง่าย ๆ ในโรงงิ้ว โรคภัยก็หายไป ชาวบ้านจึงศรัทธาในพิธีนี้และสืบทอดกันต่อมา
ต่อมาในปีเจียซิ่งที่ 25 คณะงิ้วมอบกิมชิ้นให้ชาวบ้านบูชา และมีการอัญเชิญธูปศักดิ์สิทธิ์ จากจีนมาประดิษฐานที่กะทู้
ตั้งแต่นั้นพิธีถือคือกินผักที่กะทู้ก็ครบถ้วนสมบูรณ์ตามเเบบจีนกังไส
ศาลเจ้ากะทู้ เริ่มจากศาลเล็กๆ และขยายใหญ่ขึ้นตามจำนวนผู้ศรัทธา จนปี พ.ศ. 2535 ได้สร้างเป็นศาลเจ้าแห่งปัจจุบัน ทุกวันนี้ศาลเจ้ากะทู้ที่ไม่เพียงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ แต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งศรัทธา ความสามัคคี และหัวใจของชุมชนกะทู้
เริ่มจาก 'ขบวนแห่ 200 ปี' เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2568 จากสะพานหิน ถึง อ๊ามกะทู้(ศาลเจ้ากะทู้) ซึ่งเป็นศาลเจ้าจุดกำเนิดพิธีถือศีลกินผักในภูเก็ต สืบทอดต่อเนื่องมาถึง 200 ปี ซึ่งตลอดเส้นทางที่ขบวนพระผ่าน มีประชาชน และนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติร่วมชมขบวน
พิธีอิ้วเก้ง (พิธีแห่พระ)
เป็นการออกเยี่ยมขององค์กิ้วอ๋องไต่เต่ เพื่ออวยพรให้กับประชาชนทั่วไป โดยมี
ขบวนธงและป้ายแห่นำหน้า ต่อด้วยเสลี่ยงเล็ก(ไฉ้เปี๋ย) ต่อด้วย ตั่วเหลี้ยน (เสลื่ยงใหญ่) ซึ่งเป็นที่ประทับขององค์กิ้งอ๋องไต่เต่ ชาวบ้านจะตั้งโต๊ะบูชาหน้าบ้านและ คุกเข่าอยู่ในอาการสงบนิ่งเพื่อรับพร จากองค์กิ้งอ๋องไต่เต่ ขณะที่ขบวนแห่ผ่านไป
เส้นทางขบวนแห่พระ ม้าทรง จากอ๊ามต่างๆ ต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 24,25,26,27 และ 29 ตุลาคม 2568 โดยจะมีพิธีแห่พระรอบเมืองเก่าภูเก็ต
บรรยากาศการประกอบพิธีแห่พระรอบเมือง ในงานประเพณีถือศีลกินผักจังหวัดภูเก็ต ประจำปี 2568 ตลอดเส้นทางที่ขบวนพระผ่าน มีประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติร่วมชมขบวนพระ ตั้งโต๊ะรับพระ และจุดประทัด เนืองแน่นในถนนทุกสายที่องค์พระผ่าน
พิธีโก้ยห่าน(พิธีสะเดาะเคราะห์)
พิธีกรรมนี้ทำที่อ๊ามต่างๆ โดยผู้ที่ต้องการสะเดาะเคราะห์ ต้องตัดกระดาษเป็นรูปตัวเองพร้อมเงินตามศรัทธา และ
ต้นกุ้ยช่าย 1 ต้น เดินข้ามสะพานให้ผู้ประทับทรง ประทับตราด้านหลังของเสื้อที่สวมเรียกว่า "ต๊ะอิ่น"หมายถึงผู้ที่ผ่านการสะเดาะเคราะห์แล้ว "การข้ามสะพานเปรียบเสมือนการเดินทางเข้าสู่ชีวิตใหม่"
พิธีโก้ยโห้ย (พิธีลุยไฟ)
เป็นพิธีกรรมเพื่อชำระพลังไม่ดีออกจากร่างกาย ผู้ร่วมพิธีกรรมต้องปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัด พิธีลุยไฟถือเป็นพิธีศักดิ์สิทธิ์ เป็นการแสดงถึงอิทธิฤทธิ์ที่บังคับไฟไม่ให้ร้อนหรืออาจถือว่าเป็นไฟทิพย์ ใช้ชำระความสกปรกของร่างกายให้บริสุทธิ์
โดยผู้ที่ร่วมลุยไฟของศาลเจ้าต่างๆ มีทั้งคนประทับทรง หรือม้าทรง และประชาชนโดยทั่วไปที่มั่นใจว่าตัวเองสะอาดแล้ว ทั้งกาย วาจา และใจ โดยการวิ่ง หรือเดินผ่านไปบนกองถ่านร้อนๆ
อย่างไรก็ตาม ก่อนเข้าสู่พิธีลุยไฟได้มีการอัญเชิญองค์กิ้วอ๋องไต่เต่ จากศาลเจ้าจุ้ยตุ่ยเต้าโบ้เก้งมายังบริเวณพิธีเพื่อให้พรแก่ร่างทรง หรือม้าทรง และผู้ที่เข้าร่วมพิธีดังกล่าว
พิธีส่งองค์กิ้วอ๋องไต่เต่ (พิธีส่งพระ)
ในคืนวันสุดท้ายของประเพณี จะมีการส่งองค์หยกอ๋องซ่งเต่ ซึ่งมักส่งกันที่หน้าเสาโกเต้งช่วงเวลา 22:30 น. กลับสวรรค์หลังจากนั้นก็ส่งองค์กิ้วอ๋องไต่เต่ (ส่วนใหญ่ จะส่งที่ชายทะเลสะพานหิน) เมื่อขบวนส่งพระออกพันประตูไฟทุกดวงในอ๊าม ต้องดับสนิท และปิดประตูใหญ่พิธีส่งพระ ถนนทุกสายในตัวเมืองภูเก็ตจะเต็มไปด้วย
ประชาชนที่มาส่งองค์กิ้วอ๋องไต่เต่กลับสู่สวรรค์ เป็นพิธีที่ต้องมาชม โดย เฉพาะช่วง ถนนถลาง ถนนภูเก็ต วงเวียนหอนาฬิกา และเส้นทางไปจนสุดสะพานหิน
อีกทั้งการจัดงานประเพณีถือศีลกินผักภูเก็ตในปีนี้ 'สมาคมอ๊ามภูเก็ต‘ ยังขอความร่วมมือทุกอ๊ามดำเนินพิธีกรรมทางศาสนาและจารีตประเพณีตามรูปแบบดั้งเดิม เพื่อคงไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ของประเพณี
แต่ปรับลดกิจกรรมบางส่วนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ โดยให้งดกิจกรรมมหรสพหรือกิจกรรมบันเทิงที่สร้างความครึกครื้น ลดระดับเสียงในขบวนแห่ ขอความร่วมมือม้าทรงในการแสดงอภินิหารให้ใช้อาวุธในตำนาน และลดขนาดของอาวุธ
การจุดพลุ ดอกไม้ไฟ เนื่องจากเป็นการแสดงถึงการเฉลิมฉลอง ขอให้งดโดยเด็ดขาด ส่วนปะทัด ในพิธีกรรมต่างๆ นั้น ไม่มีข้อห้ามแต่อย่างใด แต่ขอความร่วมมือให้ปรับลดปริมาณให้เหมาะสม เพื่อร่วมถวายความอาลัย ต่อสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง อย่างสมพระเกียรติ
อีกทั้งไหนๆก็มาภูเก็ตในช่วงนี้แล้ว แนะนำให้ไป ขอพรองค์เทพ 9 อ๊าม (ศาลเจ้า) ในเมืองภูเก็ต งานนี้สายมูต้องมา
อีกทั้งในงาน Phuket Vegetarian Festival 2025 นิกจากจะร่วมอิ่มบุญ อิ่มใจ ในงานประเพณีถือศีลกินผักจังหวัดภูเก็ต ททท.สำนักงานภูเก็ต แจกฟรี! เหรียญเทพเจ้าไฮชิงเอี๊ยะ และองค์พ่อจตุคามรามเทพ รุ่น ดี-บุก จากศาลเจ้าเชิงทะเล จังหวัดภูเก็ต
เพียงโพสต์ภาพการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆในงานประเพณีถือศีลกินผักจังหวัดภูเก็ต ประจำปี 2568 เปิดเป็นสาธารณะ พร้อมใส่ Hashtag
#PhuketVegetarianFestival2025 #AmazingThailand ระหว่างวันที่ 20–29 ตุลาคม 2568
จำนวนจำกัดเพียง 200 องค์เท่านั้น รับเหรียญได้ที่ ททท.สำนักงานภูเก็ต (ถนนถลาง ติดกับสวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา มหาราชินี (ลานมังกร)
ทั้งยังมีการเชิญชวนประชาชนชาวภูเก็ตและผู้เข้าร่วมประเพณีถือศีลกินผักทุกท่าน ร่วมแสดงความอาลัยและปฏิบัติตนอย่างเหมาะสมในช่วงเวลาสำคัญนี้อีกด้วย