เช็คอิน 'สวนดุสิตอรุณ' สวนลอยฟ้าใหญ่สุดในไทย แลนด์มาร์กใหม่ใจกลางกรุง

วันนี้เราปักหมุดเที่ยวสวนในแบบชิลล์กันที่ “สวนดุสิตอรุณ” ในโครงการ “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” ซึ่งเปิดให้เราเข้าไปเที่ยวฟรี ที่นี่กำลังเป็นแลนด์มาร์กใหม่ ที่ทุกคน สามารถเดินทางเข้ามาใช้บริการได้ฟรี

"ดุสิตอรุณ" มีความหมายอันลึกซึ้ง คำว่า "ดุสิต" ไม่ได้เป็นเพียงชื่อโรงแรมดุสิตธานี แต่ยังหมายถึงดินแดนแห่งสันติสุข เปรียบดังสรวงสวรรค์ที่สงบ ร่มเย็น และงดงาม ส่วนคำว่า "อรุณ" คือแสงแรกของวัน แสงเงิน แสงทองยามพระอาทิตย์กำลังจะโผล่พ้นขอบฟ้า ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นใหม่ ความสดใส และความหวังในทุกวัน 

 

การออกแบบอาคารภายในโครงการยังได้รับแรงบันดาลใจจากยอดพระปรางค์วัดอรุณราชวราราม สัญลักษณ์แห่งแสงรุ่งอรุณของกรุงเทพฯ ทำให้ที่นี่เป็นมากกว่าสวนลอยฟ้า แต่คือพื้นที่แห่งชีวิตที่สะท้อนการเริ่มต้นใหม่ เติมเต็มกำลังใจ และพร้อมเริ่มต้นวันใหม่อย่างมีพลัง

สวนดุสิตอรุณ มีขนาดพื้นที่กว้างใหญ่ถึง 7 ไร่ หรือ 11,200 ตารางเมตร ออกแบบอย่างพิถีพิถัน ด้วยการไล่ระดับความสูงจากชั้น 4 ต่อเนื่องถึงชั้น 7 ซึ่งภายในสวนไม่ใช่เพียงเพื่อความสวยงาม แต่สร้างระบบนิเวศที่เหมาะสมกับ กรุงเทพฯ

ต้นไม้ที่นำมาปลูกที่สวนแห่งนี้ จะเป็นต้นไม้ไทย 100 % สะท้อนถึงความเชื่อเรื่อง “ไม้มงคล” ที่อยู่คู่กับวิถีไทยมานาน ไม่ว่าจะเป็น “ต้นมะกอกน้ำ” หลายคนอาจไม่เคยรู้ว่า ชื่อของ กรุงเทพฯ มีที่มาจากต้นมะกอกน้ำ สมัยอยุธยา ชาวต่างชาติที่มาค้าขาย นั่งเรือเข้ามาตามแม่น้ำแล้วพบเห็นต้นมะกอกน้ำขึ้นเป็นดง จึงเรียกพื้นที่นี้ว่า บางมะกอก ก่อนจะเพี้ยนเป็น บางกอก ในเวลาต่อมา 

รวมไปถึงต้นไม้หลากหลายสายพันธุ์ เช่น “ไม้พื้นถิ่น” อย่าง บุนนาค พิกุล จิก ไคร้ย้อย อินทนิลน้ำ ไม้ใหญ่ อย่าง ตะเคียน พะยูง มะค่าโมง ยางนา สมอไทย  “ไม้มงคล” เช่น ขนุน มะยม รวงผึ้ง ลำดวน กัลปพฤกษ์ “ไม้น้ำ” อาทิ ตีนเป็ดน้ำ แว่นแก้ว พัดโบก บอน ฯลฯ

การออกแบบยังอ้างอิงจากวรรณคดีไทยของ สุนทรภู่ อย่าง นิราศภูเขาทอง, นิราศสุพรรณบุรี และ นิราศเมืองแกลง ที่กล่าวถึงพรรณไม้ดั้งเดิมของไทย เพื่อนำกลับมาปลูกไว้ให้เราได้ชื่นชม

มาที่นี่เราไม่เพียงสัมผัสได้ถึงประสบการณ์ไลฟ์สไตล์แบบไม่เหมือนใครท่ามกลางพรรณไม้ไทย 100% เท่านั้น แต่การออกแบบสวนสวยไล่ระดับความสูงจากชั้น 4 ต่อเนื่องถึงชั้น 7

ทำให้เมื่อเรามองออกไปก็จะได้ เทควิวต่อเนื่องไปถึงวิว “สวนลุมพินี” เลยอดจินตนาการไปว่าได้เห็นภาพผืนป่าใจกลางเมืองที่ในแบบปังๆไม่เหมือนใคร 

ภายในพื้นที่สีเขียวของ สวนดุสิตอรุณ มีหลายจุดไฮไลท์ที่น่าสนใจ ได้แก่ “อัฒจันทร์ดุสิตพินี” พื้นที่สันทนาการสำหรับคนเมือง รองรับกิจกรรมหลากหลาย เราจะนั่งพักผ่อน เป็นจุดนัดพบ หรือจัดเวิร์คช็อป การแสดงศิลปะ ดนตรี และมินิอีเวนต์ต่างๆ ให้เราได้เพลิดเพลินไปกับกิจกรรมโปรดท่ามกลางวิวสีเขียวของสวนดุสิตอรุณ สวนลุมพินี และทิวทัศน์กรุงเทพฯ ที่ทอดยาวสุดสายตา

“จุดชมวิวระเบียงรังนก” ทิวทัศน์แบบพาโนรามาเชื่อมต่อระหว่างสวนดุสิตอรุณฯ และสวนลุมพินีอย่างลงตัว ที่นี่คุณจะได้เห็นภาพพื้นที่สีเขียวผืนใหญ่ใจกลางเมืองรวมกับความสวยงามของเส้นขอบฟ้ากรุงเทพฯ ไม่ว่าจะมานั่งชมวิว หรือถ่ายภาพ ทั้งในยามเช้าและค่ำคืน ก็จะได้มุมสวยไม่เหมือนใคร

“จุดชมวิวสวัสดีบางกอก”ที่เราจะเห็นภาพมุมสูงของทิวทัศน์เขียวขจีของสวนดุสิตอรุณฯ ที่เชื่อมกับต้นไม้สีเขียวของสวนลุมพินีได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้กรุงเทพฯ ดูร่มรื่นราวกับอยู่ในหุบเขาใจกลางเมือง รอชมวิวแสงแรกของวันดี้ดี

“เดอะ เทอเรส” ลานกิจกรรมที่โดดเด่นด้วยการออกแบบพื้นที่มีลูกเล่นของกระเบื้องสีเทาตัดสลับกับกระจกสีฟ้าและน้ำพุ ตั้งอยู่ใกล้ Food Passage ที่เชื่อมต่อกับอาคารสำนักงาน Central Park Offices ที่นี่เป็นทั้งจุดนัดพบและ Photo Spot สุดชิคที่ให้บรรยากาศราวกับอยู่ต่างประเทศ

“ม่านน้ำ 2513” น้ำตกที่รายล้อมไปด้วยไม้น้ำนานาพรรณ ได้รับแรงบันดาลใจจาก "น้ำตกสวรรค์ชั้นดุสิต" ซึ่งเป็นหนึ่งในอัตลักษณ์ของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ ที่ก่อตั้งในปี 2513 นอกจากจะได้ชมความสวยงามของสายน้ำแล้ว ยังได้รับลมธรรมชาติที่สร้างความสงบร่มรื่น ร่มเย็น 

“เดอะ พลาซ่า” สนามหญ้าสีเขียวขนาดใหญ่ที่เป็นพื้นที่สันทนาการ เราจะเดินเล่นพักผ่อนหรือทำกิจกรรม แนบชิดธรรมชาติที่ร่มรื่น และยังรู้สึกเย็นสบายจากละอองน้ำตกจากม่านน้ำ 2513 เติมเต็มความสดใสไปเต็มๆ 

พื้นที่ปอดแห่งใหม่ใจกลางกรุงนี้ นอกจากจะเหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัวแล้ว ยังเป็น Pets’ Area สำหรับคนรักสัตว์อย่างเราๆ สามารถพาน้องหมาน้องแมวมาวิ่งเล่น ชมธรรมชาติ และสร้างความทรงจำดีๆ ร่วมกันได้ เพียงเตรียมรถเข็น สายจูง และอุปกรณ์รักษาความสะอาดมาด้วย

รวมถึง “Joyful Playground” สำหรับเด็กๆ ที่จะได้สนุกไปกับกิจกรรมมากมาย และ “Natural Trail” ทางเดินที่ออกแบบด้วยหลักการ Universal Design เหมาะสำหรับผู้สูงอายุหรือผู้ที่ใช้รถเข็น ทำให้สวนแห่งนี้เป็นพื้นที่แห่งความสุขที่โอบรับทุกคนอย่างแท้จริง 

สวนดุสิตอรุณเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00 – 22.00 น. ที่นี่จึงไม่ใช่แค่สวนลอยฟ้า แต่คือ บทบันทึกทางธรรมชาติและวัฒนธรรม ของกรุงเทพฯ ที่ถูกยกขึ้นมาไว้ใจกลางเมืองกรุงอีกด้วย