หมู่เกาะสีชัง เป็นเกาะเล็กๆทางใต้ของอ่าวไทย ห่างจากชายฝั่ง จ.ชลบุรี ไปทางทิศตะวันตก ระยะทางประมาณ 12 กิโลเมตร หมู่เกาะแห่งนี้ ประกอบไปด้วย เกาะบริวารอีก 8 เกาะ คือ เกาะยายท้าว เกาะค้างคาว เกาะท้ายตาหมื่น เกาะขามใหญ่ เกาะขามน้อย เกาะสัมปะยื้อ เกาะปรง และเกาะร้านดอกไม้ บนพื้นที่รวม 25.61 ตร.กม.
เกาะสีชัง มีชุมชนมาตั้งถิ่นฐานมานานกว่า 100 ปี ทั้งยังเป็นอำเภอที่เล็กที่สุดในประเทศไทย ซึ่งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม มีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ปูชนียสถาน และ ปูชนียวัตถุหลายแห่ง รวมถึงสถามที่สำคัญสำหรับสำหรับการศึกษานิเวศวิทยาแนวปะการังในอ่าวไทย ที่บอกได้เลยว่าน่าดูมากๆ
เมื่อครั้งที่เส้นทางหลักในการคมนาคม คือ ทางน้ำ เกาะสีชังเปรียบเสมือน ประตูเข้า-ออก สู่อ่าวไทย และมหาสมุทรแปซิฟิก ทั้งยังเป็นจุดพักการเดินเรือ เพื่อหลบมรสุมมาจนถึงปัจจุบัน ระหว่างทางถ้าจะเห็นเรือสินค้า หรือ เรือขนาดใหญ่จอดพักลอยลำอยู่ก็ไม่ต้องแปลกใจ
เกาะสีชังในอดีตมีพระมหากษัตริย์ถึง 3 พระองค์ คือรัชกาลที่ 4, 5 และรัชกาลที่ 6 เสด็จประพาสที่เกาะนี้ โดยรัชกาลที่ 5 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระราชฐานบนเกาะ เพื่อเป็นสถามที่ประทับในฤดูร้อน และพระราชทานนามว่า “พระจุฑาธุชราชฐาน” ตามพระนามพระราชโอรสที่ ประสูติบนเกาะสีชังแห่งนี้
ว่าแล้วต้องจัดไปการเดินทางไปเที่ยวเกาะสีชัง ง่ายมาก ขับรถจากกรุงเทพฯ ปักหมุด “เกาะลอย” อ.ศรีราชา ถึงปุ๊ป ก็จ่ายค่าจอดรถที่ลานจอดรถ แล้วเราก็สามารถไปขึ้นเรือข้ามเกาะกันได้เลย
เรือมีขนาดใหญ่นั่งได้ปลอดภัย มีให้บริการทุกชั่วโมง เริ่มตั้งแต่ 08.00 น. ค่าเรือข้ามเกาะจะอยู่ที่ 60 บาทต่อคนต่อเที่ยว ใช้เวลาราว 45 นาทีก็ถึงเกาะสีชัง
ใกล้ถึงเกาะมองเห็น “ประภาคารเกาะสีชัง” โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เสียดายวันที่เรามามีฝนปรอยหน่อยๆฟ้าครึ้มๆแต่ก็ได้ฟิลไปอีกแบบ
ทริปนี้เราพักกันที่ “Somewhere เกาะสีชัง” เป็นโรงแรมเล็ก 20 ห้อง ตกแต่งน่ารัก เน้นธีมฟ้า ขาว เข้าธีมบรรยากาศทะเล เห็นวิวทะเล มีอำนวยความสะดวกครบครัน มีสระว่ายน้ำในโรงแรมอีกด้วย
จากโรงแรมไปเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวต่างๆบนเกาะก็สะดวก เก็บกระเป๋าแล้ว พร้อมเที่ยวกันเลย
โดยสามารถแจ้งโรงแรมให้เรียกรถสองแถวของชาวบ้าน นำเราเที่ยวรอบเกาะได้ ราคาก็ได้แต่จะตกลงกันเอง รถสองแถวนั่งได้ 10 คน หรือ จะเช่ามอเตอร์ไซด์ ปั่นจักรยานเที่ยวได้รอบเกาะ
ส่วนใครชอบตกปลาน่าจะชอบมาก เพราะที่นี่มีแหล่งตกปลาหลายแห่งรอบเกาะ เช่น ช่องเขาขาด หาดถ้ำพัง ท่ายายทิม เป็นต้น หรือจะดำน้ำชมปะการัง และชีวิตใต้ท้องทะเลก็ฟิน
สำหรับเรามาเที่ยวแบบ 2 วัน 1 คืน เลยเลือกที่จะเหมารถสองแถวเที่ยวรอบเกาะสีชัง เก็บที่เที่ยวไฮไลต์ เราจะพาไปปักหมุดเช็คอินกัน
แวะมาเที่ยวถ้ำลับ ที่อันซีนสุดๆ บนเกาะสีชัง นั่นก็คือ “ถ้ำทะลุ” หรือ บางคนเรียกว่า “ถ้ำพัง” หรือ แหลมจักรพงษ์ มุมมหาชนยอดฮิต ที่หลายคนต้องแวะมาถ่ายภาพ แชร์มุมปังๆกันบนโลกโซเซียล แม้ทางเดินลงเป็นทางหินที่ค่อนข้างชันและลื่น แต่การได้ภาพที่เราอยู่ตรงกลางระหว่างผาถ้ำที่แยกออกชนกัน พร้อมแบล็คกราวน์ทะเล
บอกเลยว่าที่นี่สวยตะโกนมาก ถ้าไปถ่ายช่วงเช้าๆคนก็จะน้อยหน่อย แต่ถ้ามาตอนเย็นบรรยากาศก็สวยไปอีกแบบ อย่าแปลกใจที่หลายคนจะใส่บิกินี มาถ่ายภาพสวยจึ้ง และถ้ำยังสามารถเดินทะลุไปยังอีกฝั่งของเกาะได้ด้วย
สะพานอัษฎางค์ เป็นสะพานไม้สีขาวทอดยาวเลียบชายหาดไปจนถึงลงสู่ทะเล ศาลาริมทะเลเก่าแก่บริเวณ พิพิธภัณฑ์พระจุฑาธุชราชฐาน โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างสะพานนี้ขึ้น เมื่อปี 2434
ด้วยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์
เนื่องในโอกาส สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าอัษฎางเดชาวุธฯ ทรงหายจากพระอาการประชวร ณ เกาะสีชัง ชื่อของ สะพานอัษฎางค์ ตั้งตามพระนามของ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าอัษฎางเดชาวุธฯ
ทั้งยังได้รับสมญานามว่า “สะพานแห่งความรัก” ปัจจุบันสะพานแห่งนี้ ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมแบบยุโรปผสมผสานกับไทยประยุกต์เป็นจุดชมวิวที่สวยงาม และนักท่องเที่ยวมักแวะมาเช็คอิน ถ่ายรูป เดินเล่น นั่งชมทะเล ชิลล์มากๆ
“พระจุฑาธุชราชฐาน” เดิมเป็นที่ประทับแปรพระราชฐานฤดูร้อน ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 และพระราชวงศ์ ตัวอาคารจะเป็นสถาปัตยกรรมแบบผสมผสานระหว่างศิลปะแบบไทยและตะวันตก มีการออกแบบอย่างสวยงาม
ในบริเวณเดียวกันยังมีสระน้ำ บ่อน้ำ และประภาคารให้เดินเที่ยวชมอีกด้วย เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรม
ด้านหน้าพิพิธภัณฑ์พระจุฑาธุชราชฐานเป็นชายหาดท่าวัง เลยขึ้นไป คือ พระตำหนักทรงปั้นหยาที่สร้างขึ้นเป็นเรือนไม้ ลวดลายขนมปังขิง ตึกผ่องศรีหรือศาลาแปดเหลี่ยม ตึกอภิรมย์ และ “วัดอัษฎางคนิมิตร” บนยอดเขา ที่สร้างขึ้นในแบบสถาปัตยกรรมผสมผสานไทย-ตะวันตก
ส่วนพระราชวังที่ทำด้วยไม้สักทองนั้น ได้ถูกรื้อไปก่อสร้างเป็นพระที่นั่งวิมานเมฆ ในกรุงเทพฯ ถ้าจะเดินชมให้ทั่วต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมงกันเลยทีเดียว
จุดชมวิว “ช่องอิศริยาภรณ์” หรือ “ช่องเขาขาด” จัดว่าเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่สวยที่สุดบนเกาะสีชัง เราจะมองเห็นทัศนียภาพของเกาะสีชังได้แบบพาโนรามา
ที่นี่จะมีศาลาตั้งอยู่บนหน้าผาสูง มองเห็นเส้นขอบฟ้า น้ำทะเลสวย มีโขดหินรูปร่างแปลกตาบนชายหาด
ด้านข้างจะมี “สะพานวชิราวุธ” สะพานคอนกรีตที่ทอดยาวไปสู่จุดชมวิวที่ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ระหว่างสะพานจะมีต้นไม้เขียวขจีร่มรื่น
ในพื้นใกล้กันหากสังเกตุดีๆจะมองเห็น “กระรอกเผือก” สัตว์ประจำถิ่นของเกาะสีชัง
หาดถ้ำพัง หรือ “อ่าวอัษฎางค์” ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะสีชัง ใกล้แหลมจักรพงศ์ เป็นชายหาดแห่งเดียวบนเกาะสีชัง ที่นักท่องเที่ยวสามารถลงเล่นน้ำทะเลได้ เวิ้งชายหาดกว้าง ทรายขาวเนียนละเอียด น้ำใสวิ้ง
นอกจากจะมาเล่นทะเล ที่นี่ก็ยังมีจัดกิจกรรม บานาน่า โบ๊ท หรือ พายเรือคายัค ให้เล่นกันได้ในแบบสนุกสนานอีกด้วย มีร้านอาหารไว้บริการด้วย
ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ เป็นศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่บนยอดเขาสูง เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่ชาวบ้านบนเกาะสีชัง ให้ความเคารพนับถืออย่างมาก ใครมาที่นี่มักจะมาขอพร เพื่อความเจริญรุ่งเรือง
ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่จะตั้งอยู่บนเขาไปทางด้านเหนือของเกาะ มีรถรางให้บริการขึ้นด้านบน หรือถ้าใครแข็งแรงพอ ก็สามารถเดินขึ้นเขาไปได้เลยแบบชิล ๆ ตลอดทางจะมีต้นไม้ร่มเย็น
เมื่อขึ้นไปถึงด้านบนจะเป็นลักษณะของถ้ำ ดัดแปลงพื้นที่ให้มีสถาปัตยกรรมแบบจีน มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมายให้กราบไหว้ขอพร
ที่นี่ยังเป็นจุดชมวิว เกาะสีชังได้แบบ 360 องศา
อีกทั้งใกล้กันยังมี “ศาลเจ้าแม่กวนอิม” ให้เราได้ขอพรด้วย
เซอร์ไพร์ซมาก สำหรับการได้ไปดูปลาการ์ตูน ประการังอ่อน ลูกปูม้า ลูกปลาหมึก และสารพัดลูกสัตว์ทะเล ณ ศูนย์เรียนรู้ธนาคารสัตว์ทะเล เกาะสีชัง ในพระราชูปถัมภ์ เกาะสีชัง ที่นี่บอกเลยว่าไม่ธรรมดา
เพราะที่นี่ไม่เพียงเป็น “ธนาคารปูม้า” ต้นแบบศูนย์การเรียนรู้ เพิ่มทางรอดปูม้า อนุรักษ์สัตว์ทะเล คืนสู่ท้องทะเล แต่ที่นี่ยังมีปลาการ์ตูน สีแปลกตา หลายสายพันธุ์ ทั้งอยู่ตามธรรมชาติ
อย่าง ปลาการ์ตูนขาว ดำ ปลาการ์ตูนมะเขือเทศ ปลาการ์ตูนส้มขาว และเพาะพันธ์ขึ้นอีกด้วย อย่าง ปลาการ์ตูนทอง ปลาการ์ตูนไลนิ่ง ปลาการ์ตูนแพนด้า รวมแล้วมีกว่า 6 สายพันธุ์ให้เราชมกันได้เพลินตา น้องๆปลาการ์ตูนน่ารักมากเข้าชมได้ฟรี และยังปล่อยลูกปูม้าได้ด้วย
เที่ยวเสร็จถ้าหิว แนะนำร้านอาหาร “ร้านป้าหน่อย ริมทางทะเลเผา” ร้านอาหารบ้านๆ แต่รสชาติดี ไฮไลต์ อาหารทะเลสด ปูเผา กุ้งเผา ปลาทอดน้ำปลา หมึกแดดเดียว ต้องเข้าละ
มาเที่ยวเกาะสีชัง เที่ยวได้ครบรส แถมไม่ไกลจากกรุงเทพ มันดีแบบนี้เอง