เที่ยวตามรอย The White Lotus Season 3 เช็คอิน "เคปพันวา ภูเก็ต” โลเคชั่นลับ

ดูกันหรือยังสำหรับซีรีส์ “The White Lotus Season 3” แค่แวบเดียวที่เห็นฉากบ้านโบราณสไตล์ชิโน-โปรตุกีส โดดเด่นริมชายหาดส่วนตัวสีขาวทอดยาว รายล้อมด้วยต้นปาล์ม ต้นมะพร้าว ตัดกับเกลียวคลื่นของท้องทะเลอันดามัน ท่ามกลางอันสงบเงียบ ดึงดูดให้เราต้องไปเที่ยวตามรอยซีรีส์นี้เลย หาข้อมูลแล้ว ใช่ที่นี่เลย “โรงแรมเคปพันวา ภูเก็ต” โลเคชั่นลับในซีรีส์เรื่องนี้

เราพักโรงแรมในภูเก็ตมาก็หลายที่ แต่เสน่ห์ของโรงแรมเคปพันวา ภูเก็ต ไปสัมผัสมาแล้วบอกได้เลยว่า มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร ทั้งจากโลเคชั่นบนแหลมพันวา ซึ่งมีทิวทัศน์อันงดงาม และแลนด์สเคปของโรงแรม กลมกลืนกับธรรมชาติ

สบายตาไปกับพื้นที่สีเขียวเยอะมาก มองไปรอบๆร่มรื่นขั้นสุด ทั้งยังติดชายหาด ริมทะเลอันดามันอันเงียบสงบ ยกให้เลยว่าเป็นหนึ่งในชายหาดที่สวยที่สุดบนเกาะภูเก็ต

ดีไซน์โรงแรมออกแนวไทยร่วมสมัย ห้องพักจะเป็นสไตล์ลักชัวรี รวมกว่า 205 ห้อง รวมถึง ‘เคป แอ็บโซลูท สวีต’ ลักซ์ชัวรีเพนท์เฮ้าส์ 2 ชั้น 2 ห้องนอน กินพื้นที่ถึง 530 ตรม. ซึ่งมีเพียงหนึ่งเดียวที่อยู่ชั้นบนสุดของโรงแรม มองเห็นวิวทะเลอันดามันปังๆ 360 องศา

ส่วนใครมาเป็นครอบครัวใหญ่ แนะนำ “บ้านพักพันวา ลอดจ์” เพราะมี 3 ห้องนอน พ่วงสระว่ายน้ำส่วนตัว พื้นที่กว่า 105 ตรม.

แต่ถ้ามาแบบเป็นคู่ หรือครอบครัวเล็ก อยากพักสบายๆ เลือกพักแบบ “เคป สวีท” หรือจะเป็น “แฟมิลี สวีท” และ “เคป ซิกเนเจอร์ สวีท” ก็ฟิน กับห้องที่มีขนาด 78 ตรม. ที่มาพร้อมพื้นที่ระเบียงขนาดกว้างขวาง

ขณะที่ “จูเนียร์ สวีท” ก็หรูหราร่วมสมัย ในพื้นที่กว่า 53 ตรม. พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ โทรทัศน์จอแอลซีดี เครื่องเล่นดีวีดี พร้อมชุดเครื่องเสียงสเตอริโอ ไอพอดด็อกซ์ เหมาะกับการนอนชิลล์ดูหนังฟังเพลง ชมทะเลเลย

ที่นี่ไม่ใช่แค่มาตรฐานความเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว จัดเต็มสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเท่านั้น แต่ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกดีๆในวันพักผ่อน

เราชอบมากกับการได้มองทะเล จากระเบียงกว้าง ในห้องนอน ซึ่งโรงแรมจัดวางทั้งเดย์เบดขนาดใหญ่ และเก้าอี้ ให้เรานั่งๆนอนๆเพลิดเพลินไปกับฟังเสียงนกร้อง ฟังเสียงธรรมชาติ

สัมผัสความร่มรื่นของต้นไม้นานาพันธุ์ที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ รายล้อมรอบตัวเรา พร้อมไปกับฟังเสียงเกลียวคลื่น เบื้องหน้า ใจฟูเลย

แต่ที่ฟินมากๆ คือ การมองทะเล ซึ่งในแต่ละช่วงเวลาของวัน ให้ความรู้สึกแตกต่างกัน การได้ตื่นมาสัมผัสแสงแรกของวัน ชมพระอาทิตย์ แตะขอบฟ้า สะท้อนผิวน้ำทะเล จากระเบียงห้อง บอกเลยว่าสวยบาดใจ เติมพลังชีวิตให้เราไปเต็มๆ

ขณะที่แสงในช่วงกลางวัน ก็ฉายภาพฟ้าใสทะเลสวย ส่วนแสงยามอาทิตย์ตกดิน ให้ฟิลลิ่งแสนโรแมนติก

ทั้งด้วยความที่เราชอบทะเลมาก เลยติดใจกับชายหาดขาวส่วนตัว ทอดยาวกว่า 300 เมตร บอกเลยว่าทั้งสวยงามและเงียบสงบ เย้ายวนใจให้เราหยิบบิกินี ไปเฉิดฉายริมหาดจริงๆ

จากห้องพักไม่ต้องเดินไปหาดให้เหนื่อย โรงแรมมีบริการรถรางให้ด้วย ดีมากเลย ที่นี่น้ำทะเลจะขึ้นลงในแต่ละวันแตกต่างกัน ในห้องจะมีตารางช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเล่นน้ำให้เราดูด้วย จะได้เล่นทะเลในช่วงน้ำขึ้น

บรรยากาศหน้าหาดดีงาม มีพื้นที่ให้เราได้นอนเล่นบนเก้าอี้ชายหาด ท่ามกลางต้นปาล์ม ต้นมะพร้าว ให้หลบแดด พักเหนื่อยจากการเล่นทะเล

หรือจะไปนอนชิล บริเวณเปลแขวนกับต้นไม้ หน้าหาด ก็เป็นมุมถ่ายรูปที่เงียบสงบ

มุมโปรดของเรา คือ การได้แช่จากุชชี่ ภายในสระว่ายน้ำหน้าหาด ชมวิวทะเล และความสวยงามของดอกหางนกยูง สระนี้เหมาะสำหรับคนชอบความสงบ

แต่สำหรับคนที่มาเป็นครอบครัว โรงแรมก็จะมีสระว่ายน้ำที่อยู่ด้านบน ไม่ไกลจากห้องพัก ก็จะเป็นสระขนาดใหญ่ไว้บริการ

อีกไฮไลท์หน้าหาดของโรงแรม คือ “พันวาเฮ้าส์”  บ้านโบราณสไตล์ชิโน-โปรตุกีส อายุกว่า 100 ปี อัตลักษณ์อันโดดเด่นริมชายหาด ที่ก็เป็นซีนลับในโลเคชั่นซีรีส์ “The White Lotus Season 3” นั่นเอง ซึ่งถูกรังสรรค์ให้กลายเป็นร้านอาหารไทย บรรยากาศคลาสสิคมากๆ การได้เห็นในซีรีส์ เทียบไม่ได้เลยกับการได้มาเห็นของจริง

นอกจากนี้บริเวณชายหาด ยังมี “แบมบู บาร์” บาร์ที่ได้รับการออกแบบตกแต่งให้กลมกลืนธรรมชาติ ด้วยการนำวัสดุจากต้นมะพร้าวและโตไฟสาน ให้เราได้สั่งอาหารว่าง และเครื่องดื่มคลายร้อน

บอกได้เลยว่าอยู่หน้าหาดกันได้ทั้งวัน เล่นน้ำเสร็จ จะต่อด้วยเล่นปิงปอง หรือ แบดมินตัน หรือ เล่นกีฬาทางน้ำ ก็จัดกันไปได้เลย

บอกเลยว่าบริการไดนิ่งของโรงแรม ไม่ธรรมดา มีบริการห้องอาหารและบาร์ มาก ถึง 8 แห่ง เราเลือกทานอาหารหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทยต้นตำรับ อาหารฝรั่งเศส และอิตาเลียนระดับไฟน์ไดนิ่ง เลือกได้ตามชอบเลย

นอกเหนือจากการลิ้มลองอาหารมื้อเช้า กันที่ “ห้องอาหารคาเฟ่ อันดามัน” ซึ่งไลน์บุฟเฟ่ต์อาหารเช้าของที่นี่ ไม่เพียงจะหลากหลาย แต่ยังสอดแทรกอาหารพื้นถิ่นที่แตกต่างกันในแต่ละวัน

วันนี้เราได้ทาน ผัดหมี่ฮกเกี้ยน ติ่มซำ และที่เด็ดมาก คือ มีเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ อย่างบูสเตอร์ช็อต ผลไม้ผสมขิง เสริมภูมิคุ้มกัน ให้เราหยิบทานได้ด้วย เราหยิบไปลิ้มลองหลายแก้วเลย

ส่วนใครเป็นสายเอ็กซ์เซอร์ไซส์ “ฟิสเนสเซ็นเตอร์” ก็มีเครื่องออกกำลังกายหลากหลาย รวมถึงซาวน่าไว้บริการ สำหรับเราชอบผ่อนคลายในสปา “เคป สปา” ก็มีทรีตเม้นท์หลากหลาย อาทิ การนวดแผนไทย การนวดศรีษะแบบอินเดีย การนวดอโรมา เด็กไม่น้อยใจ เพราะที่นี่คิดส์คลับ ก็ขาดไม่ได้เช่นกัน

มาพักที่นี่แล้วอยากออกไปสัมผัสบรรยากาศนอกโรงแรมก็สะดวก เพราะโรงแรมจะมีรถสองแถว ไว้บริการฟรี พาเราออกจากโรงแรมไปด้านล่าง ซึ่งในช่วงเย็น จะมีชาวบ้านมาขายสตรีทฟู้ด มีร้านอาหารหลากหลาย

ใครชอบอาหารอิตาเลียน แวะไปได้ “Uncle Nan’s” อาหารอร่อยบรรยากาศดี และที่นี่ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่ได้อีกบรรยากาศด้วย

หรือถ้าอยากไปเที่ยวป่าตอง โรงแรมก็มีรอบรถไว้บริการ ซึ่งก็มีการคิดว่าบริการในส่วนนี้ หรือจะจองแพ็คเกจไปเที่ยวดำน้ำในภูเก็ต หรือสำรวจถ้ำในอ่าวพังงา ก็สามารถจองได้ในโรงแรม สะดวกสุดๆ

โรงแรมนี้ไม่เพียงเป็นโลเคชันลับ ใน ซีรีส์ “The White Lotus Season 3” เท่านั้น ดาราดังระดับฮอลลีวู้ด อย่าง อลิซาเบท เทเลอร์, ลีโอนาโด ดิ คาปริโอ, ไบรอัน อดัมส์, โอลิเวอร์ สโตน, นอร์มา เฮย์แมน, จีน่า เดวิส, คริสตี้ สเวนสัน, แคทเธอรีน ซีต้า โจนส์, เพียร์ซ บรอซแน่น, ฌอง คล็อด แวนแดม ก็เคยมาพักที่นี้ด้วย

รวมทั้งยังเคยเป็นสถานที่เก็บตัวของกองประกวดมิสเบลเยี่ยม ปี 2009 และมิสไทยแลนด์เวิลด์ ปี 2013 และเป็นสถานที่ถ่ายทำซีรีส์ดังอย่าง หนึ่งในทรวง และแปลรักฉันด้วยใจเธอ อีกด้วย

ร้านอาหารไทย “พันวาเฮ้าส์” บ้านชิโน-โปรตุกีส 100 ปี

เห็นแล้วชอบมากเลย สำหรับ “พันวาเฮ้าส์” บ้านโบราณสไตล์ชิโน-โปรตุกีส อายุกว่า 100 ปี อัตลักษณ์อันโดดเด่นริมชายหาด ซีนลับในโลเคชั่นซีรีส์ “The White Lotus Season 3” อันโดดเด่นของสถาปัตยกรรมผสมผสาน ระหว่างวัฒนธรรมจีนและโปรตุเกส บ้านหลังนี้เดิมเป็นที่พักของขุนนางท่านหนึ่ง

ก่อนที่จะตกทอดสู่รุ่นต่อๆ มา ก่อนจะเปลี่ยนเป็นโรงแรมเคปพันวา ภูเก็ต และปรับเปลี่ยนให้ พันวาเฮ้าส์ กลายเป็นร้านอาหารไทย ริมชายหาดที่สวยงาม ชมทิวทัศน์อันตระการตาของทะเลอันดามัน หาดทรายขาว และต้นไม้ที่เขียวชอุ่ม พลิ้วไหวไปกับสายลมและแสงแดด

ภายในบ้านโบราณได้รับการบูรณะอย่าง โดยเฉพาะการเลือกใช้กระเบื้องโปรตุเกส Azulejo ในการตกแต่งภายในบ้านและบันไดอย่างประณีต นอกจากนี้ยังมีการใช้เครื่องเรือนไม้สักและของตกแต่งโบราณ ช่วยเพิ่มเสน่ห์และความคลาสสิกให้กับพันวา เฮ้าส์  ทำให้ทุกการมาเยือนกลายเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำและรื่นรมย์ 

ที่นี่นอกจากจะมาดินเนอร์อาหารไทย ยังมีบริการ Afternoon Tea ซึ่งเป็นการจับคู่ชากลีบดอกบัวหลวงอันหอมกรุ่นกับของคาวหวานแบบไทยที่เต็มไปด้วยความอ่อนช้อยและความประณีตในทุกคำที่ลิ้มลอง

ไม่ว่าจะเป็น เมี่ยงกลีบบัว ทอดมันกุ้ง ไก่สะเต๊ะ ม้าฮ่อ แตงโมปลาแห้ง ถุงทอง ข้าวเหนียวมะม่วง สาคูข้าวโพด ทองหยอด ฝอยทอง และลูกชุบ ที่คัดสรรมาอย่างละเมียดละไม

นอกจากนี้โรงแรมยังคลีเอดค็อกเทล 3 สูตรพิเศษที่รังสรรค์ขึ้นจากสถานที่อันเป็นเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็น “Armond’s Last Sip” ให้ความสดชื่นจากสับปะรดและมินต์ ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากฮาวาย เกาะทรอปิคัลที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

“ Sicilian Sour” มาจากความเปรี้ยวของเลมอน ตกแต่งด้วยรากบัวอบแห้ง และ “Mook” ที่เราคุ้นกันดีในบทบาทของน้องลิซ่า ในซีรีย์เรื่องนี้

โดยค็อกเทลนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากทะเลอันดามันและชายหาดที่สวยงามของเมืองไทย ผสมผสานคลาสสิครัมของไทย กับผลไม้เมืองร้อนอย่างแตงโม และสับปะรดที่เต็มไปด้วยความสดชื่นมีชีวิตชีวา

อีกทั้งเพื่อให้เข้ากับกระแสตามรอยซีรีย์นี้ ช่วงนี้ทางโรงแรมเคปพันวา ภูเก็ต จัดแพคเกจ Director Package ชวนไปตามหาภาพแห่งความทรงจำ พักผ่อนสุดชิลในแบบ 3 วัน 2 คืน ที่มาพร้อมห้องพัก เคป ซิกเนเจอร์ คอร์เนอร์ สวีท พื้นที่ถึง 127 ตรม.ที่มาพร้อมระเบียงใหญ่ชมทัศนีย์ภาพทะเลอันดามัน และมีอ่างน้ำวนกลางแจ้ง ให้เราสัมผัสความงามของธรรมชาติอย่างใกล้ชิด

พร้อมรับ Afternoon Tea สำหรับ 2 คน เครื่องดื่มค็อกเทลไปแบบฟรีๆตั้งแต่วันนี้ถึง 20 ธันวาคม 2568 ใครสนใจเข้าไปดูรายละเอียด คลิ๊ก

มาพักที่นี่ชาร์จพลังชีวิต ฮีลกาย ฮีลใจได้ดีเลย