5 ที่เที่ยวห้ามพลาด หนองคาย-บึงกาฬ ต้อนรับบั้งไฟพญานาค 2567

19 ต.ค. 2567 | 05:31 น.
อัปเดตล่าสุด :19 ต.ค. 2567 | 05:48 น.

เปิดพิกัด 5 ที่เที่ยวห้ามพลาด หนองคาย บึงกาฬ ต้อนรับประเพณีออกพรรษาและบั้งไฟพญานาค 2567 เช็ครายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว คัดมาเฉพาะสำหรับนักท่องเที่ยวสายบุญต้องไป

ทุก ๆ ปี เมื่อถึงช่วงวันออกพรรษา ซึ่งตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ไม่เหมือนใครจะเกิดขึ้นริมฝั่งแม่น้ำโขง จ.หนองคาย และ บึงกาฬ ปรากฏการณ์ที่ทำให้ทุกสายตาจับจ้องไปยังแม่น้ำโขง คือ “บั้งไฟพญานาค” ลูกไฟสีชมพูที่พุ่งขึ้นจากกลางลำน้ำโขงสูงประมาณ 20-30 เมตร แล้วหายไปในอากาศโดยไม่มีเสียง ไม่มีกลิ่น และไม่มีการโค้งกลับลงมาเหมือนบั้งไฟทั่วไป 

ปรากฏการณ์นี้เป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกไม่ควรพลาด! ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ศรัทธาในพญานาค หรือผู้ที่หลงใหลในความงดงามของธรรมชาติที่ผสมผสานกับความเชื่อโบราณ

ในปี 2567 นี้ ฐานเศรษฐกิจได้คัดสรร 5 สถานที่ท่องเที่ยวในหนองคายและบึงกาฬ ที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวสายบุญที่ต้องการสัมผัสบรรยากาศความศักดิ์สิทธิ์ และพร้อมที่จะดื่มด่ำไปกับความงามทางธรรมชาติและวัฒนธรรมท้องถิ่นที่น่าหลงใหล บอกได้เลยว่าทุกแห่งเป็นจุดที่ต้องแวะเมื่อคุณมาเยือนดินแดนแห่งพญานาคนี้

1.หินสามวาฬ จ.บึงกาฬ

"เปิดตำนานความยิ่งใหญ่ของหินสามวาฬ ทิวทัศน์ลอยฟ้าที่สายธรรมชาติต้องประทับใจ"

 

หินสามวาฬ จ.บึงกาฬ

 

หินสามวาฬ เป็นหินขนาดใหญ่ที่มีอายุเก่าแก่ประมาณ 75 ล้านปี เป็นหินขนาดใหญ่ติดหน้าผาสูง แยกตัวเป็น 3 ก้อน “หินสามวาฬ” ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อนุรักษ์เขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดงดิบกะลา ป่าภูสิงห์ และป่าดงสีชมพู ถือเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดในภูสิงห์ 

ทั้งนี้เมื่อมองดูจากระยะไกลก็จะมองเห็นหินสามก้อนนี้คล้ายกับฝูงครอบครัวปลาวาฬที่ประกอบได้ด้วย พ่อวาฬ แม่วาฬ และลูกวาฬ ซึ่งเรียกตามขนาดของหินแต่ละก้อนและเต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ กลุ่มก้อนหินรูปทรงต่างๆ หน้าผา และถ้ำ กระจายอยู่ทั่วพื้นที่

นักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสความสงบและความงดงามของธรรมชาติ คงไม่มีที่ไหนจะเหมาะไปกว่า “หินสามวาฬ” การได้ปีนขึ้นไปบนหินนี้เพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้นหรือตกดิน จะทำให้คุณรู้สึกถึงพลังธรรมชาติที่แผ่ซ่านอยู่รอบตัว นอกจากนี้ยังมีหน้าผา ถ้ำ และก้อนหินรูปร่างแปลกตาที่กระจายอยู่ทั่วพื้นที่ สำหรับใครที่ชื่นชอบการถ่ายภาพไม่ผิดหวังแน่นอน

พิกัด : ตำบลโคกก่อง อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ

2.ถ้ำนาคา จ.บึงกาฬ

"ถ้ำนาคาผู้ถูกสาป ความลึกลับของหินพญานาคที่เหมือนจริงอย่างน่าทึ่ง"

 

ถ้ำนาคา จ.บึงกาฬ

 

ถ้ำนาคา ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติภูลังกา อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ เกิดขึ้นจากความซับซ้อนของธรรมชาติที่ทำให้หินบริเวณถ้ำนาคามีลักษณะคล้ายเกล็ดงู ในทางวิทยาศาสตร์ด้านธรณีวิทยาเรียกว่า “ซันแครก” (Sun Crack) ซึ่งเกิดจากการแตกผิวหน้าของหิน เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิที่แตกต่างกันระหว่างกลางวันและกลางคืนอย่างรวดเร็ว ทำให้หินเกิดการขยายตัวและหดตัวสลับไปมา จนแตกเป็นลายเหลี่ยม 

ต่อมามีการผุพังและกัดเซาะโดยน้ำและอากาศในแนวดิ่ง ทำให้เกิดลักษณะเป็นชั้น ๆ และด้วยลวดลายที่โดดเด่นคล้ายกับพญานาค เป็นที่มาของเรื่องเล่าว่า หินที่นี่มีความเกี่ยวข้องกับเจ้าปู่อือลือราชา ซึ่งถูกสาปให้เป็นพญานาคผู้เฝ้าถ้ำ และตำนานรักที่ไม่สมหวังระหว่างพญานาคกับมนุษย์ ทำให้ถ้ำนี้เต็มไปด้วยความลึกลับและศรัทธาของผู้คนที่มาเยือน

โดยในอดีตพื้นที่นี้ขึ้นกับจังหวัดหนองคาย แต่ปัจจุบันอยู่ในเขตพื้นที่ของจังหวัดใหม่คือบึงกาฬ ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติภูลังกา

พิกัด : ตำบลโพธิ์หมากแข้ง อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ 

3.พระธาตุหนองคายหรือพระธาตุกลางน้ำ จ.หนองคาย

"พระธาตุกลางน้ำ ความงามที่ไม่เคยจมหาย"

 

พระธาตุหนองคายหรือพระธาตุกลางน้ำ จ.หนองคาย

 

พระธาตุหนองคายหรือพระธาตุกลางน้ำ เป็นพระธาตุที่หักพังอยู่กลางแม่น้ำโขง เป็นที่ประดิษฐานพระบรมธาตุฝ่าพระบาทเก้าพระองค์ตามตำนานอุรังคธาตุ อีกชื่อนึง คือ พระธาตุหล้าหนอง เดิมเจดีย์อยู่บนฝั่งริมน้ำในเขตวัดพระธาตุหนองคาย

ในปี พ.ศ. 2390 ถูกกระแสน้ำกัดเซาะจึงมาอยู่กลางลำน้ำโขงห่างจากฝั่งประมาณ 200 เมตร จะเห็นได้ชัดเจนในช่วงฤดูแล้ง จากการสำรวจใต้น้ำของหน่วยโบราณคดีภาค 7 พบว่าองค์พระธาตุมีฐานกว้างด้านละ 17.2 เมตร ย่อมุมที่ฐาน และมีความสูง 28.5 เมตร หักออกเป็น 3 ท่อน สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างในราวพุทธศตวรรษที่ 20-22 เนื่องจากมีรูปร่างคล้ายพระธาตุบังพวน

แม้ว่าพระธาตุนี้จะหักพังอยู่ในแม่น้ำ แต่ยังคงความศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่เคารพบูชาของชาวหนองคายและนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชม เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูแล้ง คุณจะสามารถเห็นพระธาตุได้ชัดเจนจากริมฝั่ง ซึ่งเป็นภาพที่น่าประทับใจ และยังคงความสง่างามอยู่ในฐานะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง

พิกัด : ตำบลในเมือง อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย

4.ลานพญานาคคู่ จุดชมวิวริมโขง จ.หนองคาย

"พญานาคคู่แห่งลานวัฒนธรรมจุดชมบั้งไฟพญานาค" 

 

ลานพญานาคคู่ จุดชมวิวริมโขง จ.หนองคาย

 

ลานพญานาคคู่ ประติมากรรมพญานาค 2 องค์ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง หน้าวัดลำดวน จ.หนองคาย เป็นสถานที่จัดกิจกรรมประเพณีวันออกพรรษาและจุดชมบั้งไฟพญานาคที่โด่งดัง นักท่องเที่ยวที่มาเยือนในช่วงประเพณีนี้จะได้สัมผัสกับความยิ่งใหญ่ของพญานาคทั้งสององค์ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนลานวัฒนธรรมพร้อมกับการชมบั้งไฟพญานาคที่พวยพุ่งขึ้นจากแม่น้ำโขง

บริเวณนี้เป็นจุดรวมกิจกรรมสำคัญต่างๆ ของชาวหนองคาย และยังเป็นสถานที่สำหรับผู้ที่ต้องการชมวิวแม่น้ำโขงอย่างใกล้ชิด บรรยากาศรอบลานพญานาคคู่ในช่วงเย็นย่ำจนถึงค่ำคืนที่บั้งไฟพญานาคปรากฏ คือช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวจะได้ดื่มด่ำกับความศักดิ์สิทธิ์ที่อบอวลอยู่ในอากาศคู่กับวิวอันงดงามของแม่น้ำโขง

พิกัด : ตำบลในเมือง อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย

5.ตลาดท่าเสด็จ จ.หนองคาย

"ช้อปชิมชิลล์ริมโขง ตลาดท่าเสด็จ สวรรค์ของนักเดินทาง"

 

ตลาดท่าเสด็จ จ.หนองคาย

 

สำหรับนักท่องเที่ยวสายช้อปและสายชิม การเดินทางมาถึงหนองคายคงจะไม่สมบูรณ์หากไม่ได้แวะตลาดท่าเสด็จ ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง ตลาดแห่งนี้เป็นแหล่งรวมสินค้าจากทั้งอินโดจีนและยุโรปตะวันออก ไม่ว่าจะเป็นอาหารแห้ง อาหารแปรรูป หรือของใช้ต่าง ๆ เช่น เสื้อผ้า นาฬิกา และเครื่องครัว 

คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศของถนนคนเดินพร้อมชมทิวทัศน์แม่น้ำโขงที่ตลาดท่าเสด็จเป็นอีกหนึ่งจุดที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสบรรยากาศท้องถิ่นแบบดั้งเดิม พร้อมทั้งเพลิดเพลินกับการเลือกซื้อของฝากและสินค้านานาชาติ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าจากอินโดจีนหรือยุโรปตะวันออก 

ตลาดนี้ยังเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเดินเล่นหรือปั่นจักรยานริมแม่น้ำโขง พร้อมชมทิวทัศน์ธรรมชาติของสายน้ำอันงดงามในช่วงเย็น การเดินทางมาที่ตลาดท่าเสด็จ ยังเป็นโอกาสให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชาวบ้านริมฝั่งโขงอีกด้วย 

พิกัด : ตำบลในเมือง อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย

ทั้งหมดนี้เป็นแค่ตัวอย่างของสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับผู้ที่กำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวที่ผสมผสานระหว่างความศรัทธาและความงดงามทางธรรมชาติ "หนองคาย" และ "บึงกาฬ" ในช่วงประเพณีออกพรรษาและบั้งไฟพญานาค ปี 2567 จะเป็นทางเลือกที่สมบูรณ์แบบอย่างยิ่ง

ไม่ว่าจะเป็นการสัมผัสพลังธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ของ "หินสามวาฬ" ชื่นชมความลึกลับของ "ถ้ำนาคา" หรือบูชาความศักดิ์สิทธิ์ที่พระธาตุกลางน้ำ ทุกๆ ที่ล้วนเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสายบุญและผู้ที่ชื่นชอบการสำรวจธรรมชาติต้องมาสัมผัสด้วยตนเองสักครั้ง

เมื่อแสงอาทิตย์ค่อยๆ หายลับไปในท้องฟ้าฝั่งโขง และเมื่อถึงเวลาที่ลูกไฟสีชมพูพุ่งขึ้นจากแม่น้ำโขง การได้อยู่ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความศักดิ์สิทธิ์และพลังศรัทธาของผู้คนรอบข้าง จะทำให้คุณรับรู้ถึงความยิ่งใหญ่ของประเพณีนี้อย่างแท้จริง และไม่ว่าคุณจะมองหาการผจญภัยทางธรรมชาติหรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ หนองคายและบึงกาฬจะตอบโจทย์การเดินทางครั้งนี้ได้อย่างแน่นอน

ภาพและข้อมูลจาก : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา