วันที่ 24 มิถุนายน 2475 เป็นวันที่คณะราษฎรทำการปฏิวัติเพื่อการเปลี่ยนแปลงการปกครอง และก็สามารถทำได้สำเร็จ ในวันนั้นดาวมฤตยูยังไม่ได้มาสถิตที่ราศีเมษ แต่อยู่ที่ราศีมีนใกล้จะย้ายเข้าสู่ราศีเมษในวันที่ 4 กรกฏาคม 2475 แต่ทว่าแสงของดาวมฤตยูสาดส่องไปที่ราศีเมษแล้ว และส่งผลอย่างรวดเร็วทันที เพราะในปีนั้นมีดาวอังคารดาวแห่งสงครามดาวแห่งการปฏิวัติปฏิรูปได้ขานรับดาวมฤตยูที่ราศีพฤษภ
ในวันนั้นทุกอย่างจึงดูง่ายดาย เข้ายึด เข้าจับกุม เพื่อการเปลี่ยนแปลงและการอ่านประกาศก็สามารถทำได้ทันที
วกเข้ามาในปัจจุบันวันที่ 24 มิถุนายน 2565 ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ จะสามารถมองเห็น ดาวนพพระเคราะห์ อาทิ ดาวพุธ ดาวอังคาร ดาวศุกร์ ดาวพฤหัส และ ดาวเสาร์ ลอยเรียงกัน และสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าในยามเช้าประมาณตีสี่ถึงตีห้ากว่าๆ
ในทางกระดานโหรมองปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ว่า..อาจมีความขัดแย้งทางความคิดกันอย่างรุนแรง ดาวเสาร์เดินวิปริตอยู่จึงไม่ได้ส่งผลอะไรกับเหตุการณ์ครั้งนี้ แต่ถ้าดาวเสาร์เดินปกติอาจทำให้เกิดเหตุรุนแรงได้
วันที่ 24 มิถุนายน 2565 แม้ว่าดาวมฤตยูกำลังสาดส่องแสงใส่ราศีพฤษภแล้ว และยังไม่เต็มดวงก็ตาม สิ่งที่ปรากฏขึ้น หาใช่เกี่ยวกับการปกครองใดๆ ไหม แต่ในครานี้หมายถึง สภาวะเศรษฐกิจไทย ที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นมีทั้งด้านบวกและลบ
ทางด้านบวกเห็นจะเป็นเรื่องอาหารการกิน การท่องเที่ยว ในเรื่องลบคือ ภาวะเงินฝืด ภาวะเงินเฟ้อ ตลอดทั้งเรื่องของทางการเมืองด้วย
ทางการเมืองอาจมีการปรับครม. อย่างฉับพลัน แต่ทว่าใช่ตามคิดว่า จะเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีและคณะ
เพราะกระซิบเบาๆว่า นายกฯที่ชื่อประยุทธ์ จันทร์โอชา ตามแผนดวงดาวแล้วยังดวงดีอีก 3 ปีกว่าๆ เกือบ 4 ปี
แม้จะมีการแอบรอคอยคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในใจบ้างในเดือนสิงหาคม แต่ก็หาเป็นผลเสียแก่ นายกฯประยุทธ์ไม่ ดวงดาวยังส่งผลให้ดีก็ยังต้องดีอยู่..
แต่ที่ปรับครม.นี้อาจมีการนำเอาพรรคเล็กเข้ามาร่วมอีกพรรคหนึ่ง อาจเป็นพรรคที่เคยอยู่ร่วมกันกับรัฐบาลที่ไปตั้งพรรคใหม่ก็เป็นได้ ซึ่งหมายถึงพรรคของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ซึ่งตัวของผู้กองธรรมนัสก็ยังดวงดีอยู่ ดวงสดใสอยู่เช่นกัน
แม้การเมืองไทยจะมีศิลปะแห่งการซ่อนเร้น แต่ไม่อาจที่จะซ่อนอะไรกับเรื่องของดวงดาวได้ เพราะดวงดาวพูดแต่ความจริงเสมอ
ส่วนที่มักจะมีผู้ออกมาพยากรณ์ว่า จะมีปฏิวัติ จะมีการเปลี่ยนตัวนายกฯ และคณะรัฐบาล ส่วนตัวในหลักวิชาการไม่สามารถวินิจฉัยไปในทางนั้นได้ ตามหลักวิชาการทางโหราศาสตร์ถ้าหากมีใจเป็นกลางในการวินิจฉัยอย่างแท้จริง