SET ESG in Action 5 มิติ กลยุทธ์สร้างการเติบโตตลาดทุนไทย

08 พ.ค. 2565 | 02:55 น.

ตลาดหลักทรัพย์ เผย SET ESG in Action 5 มิติ กลยุทธ์ในการสร้างการเติบโตให้กับตลาดทุนไทย "การบริหารองค์กรอย่างยั่งยืน - ส่งเสริมทั้งด้านอุปสงค์และอุปทาน - พัฒนาและดูแลพนักงาน - การพัฒนาและดูแลสังคม - จัดการและดูแลสิ่งแวดล้อม

นายอภิศักดิ์ เกี่ยวการค้า รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานการเงินและบริหารเงินลงทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า การขับเคลื่อนตลาดทุนไทยสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ต้องเริ่มจากจุดมุ่งหมายขององค์กรก่อน ด้วยการกำหนดกรอบ Sustainability Framework โดยดึงมาจากเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ขององค์การสหประชาชาติที่ตรงกับบทบาทของตลาดหลักทรัพย์ฯ ใน 4 ด้าน

  • มุมที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม นวัตกรรม โครงสร้างพื้นฐาน
  • แผนการบริโภคและการผลิตที่ยั่งยืน
  • ลดความเหลื่อมล้ำ
  • การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

หลังจากนั้น จึงนำมาแตกย่อยสู่ SET ESG in Action ใน 5 มิติ 

  • มิติที่หนึ่ง การบริหารองค์กรอย่างยั่งยืน เน้นเรื่องความโปร่งใส ความรอบด้าน ความเท่าเทียม ความเป็นธรรม การบริหารความเสี่ยง และนวัตกรรม ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐาน เช่น e-Lisinging, FundConnext และในช่วงโควิด-19 พัฒนา e-Shareholder Meeting เพื่ออำนวยความสะดวกแก่บริษัทจดทะเบียนในการประชุมผู้ถือหุ้นแบบออนไลน์ รวมถึงการอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรม เช่น e-Open Account, e-Stamp Duty ระยะต่อไปคือการให้บริการศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล Digital Asset Exchange 

 

  • มิติที่สอง การสร้างคุณค่าตลาดทุน มุ่งส่งเสริมทั้งด้านอุปสงค์และอุปทาน กำหนดมาตรฐาน ให้ความรู้ คำปรึกษา ประเมินผล ส่งเสริมการเปิดเผยข้อมูล และยกย่องผู้ทำความดีเพื่อเป็นแบบอย่าง เช่น ส่งเสริมบริษัทจดทะเบียนเข้าสู่ดัชนีความยั่งยืนระดับโลกต่าง ๆ การส่งเสริมให้เกิด Sustainable Finance  
  • มิติที่สาม การพัฒนาและดูแลพนักงาน ตลาดหลักทรัพย์ฯ ดูแลพนักงาน โดยเฉพาะในช่วงโควิด-19 ที่มีมาตรการให้พนักงาน WFH การดูแลอาคารสถานที่ทำงานให้ลดโอกาสจากการติดเชื้อโควิด-19 และส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาตนเองผ่าน Online Learning 

 

  • มิติที่สี่ การพัฒนาและดูแลสังคม 

ส่งเสริมความรู้ทางการเงินให้ประชาชนทุกวัยผ่านแพลตฟอร์มการเรียนรู้ของตลาดหลักทรัพย์ฯ มีผู้เข้าใช้งานนับล้านราย และสร้างแพลตฟอร์ม SET Social Impact เชื่อมโยงเครือข่ายภาคธุรกิจ และการสร้างหลักสูตรพัฒนาผู้ประกอบการเพื่อสังคม

 

นายอภิศักดิ์ กล่าวว่า การบริหารความเสี่ยงทางการเงินของประเทศทำมาอย่างยาวนานนับตั้งแต่เกิดวิกฤตปี 2540 เป็นบทเรียนที่ดีที่ทำให้บริษัทไทยมีความพร้อมในการบริหารจัดการในหลายวิกฤตที่ผ่านมา ขณะที่อนาคต การนำ ESG เข้าไปอยู่ในกระบวนการดำเนินธุรกิจ จะทำให้เรามีความพร้อมในการบริหารความเสี่ยงและจัดการกับวิกฤตได้มากยิ่งขึ้น

 

  • มิติที่ห้า การจัดการสิ่งแวดล้อม

ภายในองค์กร มีการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ บำบัดน้ำเสีย ลดขยะ ลดคาร์บอน และ Green Procurement ส่วนภายนอกได้ขยายเครือข่ายพันธมิตรกว่า 300 ราย ทำงานร่วมกันในการดูแลสิ่งแวดล้อม ผ่าน 3 โครงการสิ่งแวดล้อมของตลาดหลักทรัพย์ฯ
‘Care The Bear’ รณรงค์เรื่องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการจัด Event
‘Care The Whale’ รณรงค์เรื่องการลดขยะ
‘Care The Wild’ รณรงค์เรื่องการปลูกป่า