The Art of Living การบรรจบของความสุขที่ Villa De Dara

กลิ่นฝนที่แทรกอยู่ในอากาศพร้อมกับความเย็นจากสายลมอ่อนๆ ที่พัดมาปะทะผิวกาย กลิ่นของธรรมชาติที่ไม่อาจระบุส่วนผสมที่ชัดเจนแต่กลับทำให้ต่อมใต้สมองรีบผลิตสารแห่งความสุขขึ้นมาแทบไม่ทัน ตลอดแนวร่มไม้สีเขียวที่นำสายตาไปสู่เรือนพักสีเหลืองอันอบอุ่น ภาพที่เห็นผ่านสายตาเปลี่ยนจากจอสมาร์ทโฟนที่มีข้อความแจ้งเตือนเป็นระยะ เป็นเหล่านกตัวเล็กๆ ที่กำลังเล่นนํ้าในคลองขุดที่ไม่เพียงบรรจงสร้างเพื่อเพิ่มมิติให้กับแผ่นดินและที่ว่าง แต่ยังทำให้แต่ละจังหวะก้าวค่อยๆ ช้าลง หยุดนิ่งฟังเสียงนกเล็กๆ ที่ส่งเสียงร้องโต้ตอบกันไปมา ความเพลิดเพลินตั้งแต่วินาทีแรกของเพื่อนที่มีชื่อว่า “ธรรมชาติ” ทำให้ผู้มาเยือนเดินไปถึงตัวบ้านโดยไม่รู้สึกตัว



ความชอบในธรรมชาติ บรรยากาศและศิลปวัฒนธรรมแบบล้านนา ทำให้คุณกฤษ พัฒนสาร ซึ่งมีโอกาสเดินทางมาจังหวัดเชียงใหม่บ่อยครั้ง เพื่อทำงานในฐานะผู้จัดการฝ่ายรัฐกิจสัมพันธ์ สายการบินไทยแอร์เอเชีย เพื่อท่องเที่ยว และเพื่อสักการะพระราชชายาเจ้าดารารัศมี ความผูกพัน ความรัก และความศรัทธาทำให้คุณกฤษเริ่มตั้งความฝันไว้ว่าอยากจะมีบ้านที่จังหวัดเชียงใหม่สักหลังตั้งแต่ 10 ปีก่อน เพื่อเป็นที่พักผ่อนของครอบครัว ช่วงเวลาอันประจวบเหมาะของการได้พบกับบ้านหลังนี้ในคํ่าคืนที่ท้องฟ้าเต็มไปด้วยเหล่าดาราเจิดจรัสบนท้องฟ้า กับช่วงเวลาที่คุณพ่อและ
คุณแม่ของคุณกฤษเกษียณอายุราชการพอดี ความสวยงามที่ไม่อยากเก็บไว้ชื่นชมเพียงคนเดียว กับคุณพ่อคุณแม่ที่ยังมีไฟในการบริหารและรักในการบริการ จากบ้านพักขนาด 3 ห้องนอนในอำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติพื้นถิ่น สวนลำไยหลายสิบไร่ ทุ่งนาสีเขียวสุดลูกหูลูกตา รวมถึงชุมชนดั้งเดิมซึ่งเป็นที่ตั้งของวัดตั้งแต่สมัยพระนางจามเทวีผู้ปกครองล้านนาราว 1,000 ปีก่อน ต่อยอดสู่การเป็นเรือนพักที่พร้อมเติมศิลปะในการใช้ชีวิต แต่งลมหายใจให้มีพลังพร้อมรับเรื่องราวใหม่ๆ ดุจท้องฟ้าที่มีดาราส่องสว่างไม่เสื่อมคลาย “Villa De Dara”

ด้วยนิสัยช่างคิด ช่างทำ และที่สำคัญคือการลงมือทำด้วยตนเอง คุณกฤษและน้องชายร่วมกันรังสรรค์ Villa De Dara ให้ครบเครื่องที่สุด ตั้งแต่การเลือกต้นไม้ การลงมือปูหญ้าด้วยตนเอง การฟูมฟักบรรยากาศให้งดงามสมกับที่ตั้งใจ ไม่ว่าจะเป็นภาพวาดในมุมต่างๆ โคมไฟดวงเล็กๆ ตามทางเดินและบนต้นไม้ที่ให้แสงสีเหลืองนวล รับกับเสียงจิ้งหรีดเรไรที่พร้อมเปิดวงดนตรีขับกล่อมให้อยู่ในห้วงนิทราอย่างเป็นสุขตลอดคํ่าคืน รวมถึงการนำความชอบเรื่องการ ออกแบบและตกแต่งภายในแปลงโฉมบ้านให้เป็นห้องพักมีเปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์เอกลักษณ์เฉพาะตัวถึง
3 ห้องด้วยกันคือ ห้องกุญชรดารา ห้องฟ้างามดารา และห้องบุษบาดารา



นอกจากลมหายใจที่ผู้มาเยือนได้สัมผัสอย่างชัดเจนและละเอียดขึ้นแล้ว รูปแบบกิจกรรมตลอดช่วงเวลาของการพักที่ Villa De Dara ยังผ่านการคิดอย่างพิถีพิถัน เพื่อขับเคลื่อนศิลปะการใช้ชีวิตเปลี่ยนวินาทีที่รีบเร่งให้เนิบช้าและกลมกล่อมยิ่งกว่าเดิม ตั้งแต่การตักบาตรยามเช้าร่วมกับคุณพ่อคุณแม่ของคุณกฤษที่พร้อมดูแลอย่างอบอุ่นไม่ต่างจากบุตรหลาน อาหารเช้าจากวัตถุดิบธรรมชาติในท้องถิ่น  กิจกรรมเวิร์กช็อปหลากรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการทำขนมตำรับไทยโบราณที่จะทำให้ผู้มาเยือนสนุกสนานกับการได้สัมผัสเนื้อแป้ง การทำไส้ จนถึงอิ่มท้องจากขนมไทยอร่อยๆ ที่ทำขึ้นมาด้วยตนเอง กิจกรรม DIY ทำกระทงจากกลีบบัว สามารถนำไปลอยในคลองเล็กๆ ที่ความงามจากแสงเทียนยามปะทะกับกลีบบัวสีชมพูสวย จะเป็นภาพความทรงจำที่ทำให้คุณอยากกลับมาที่นี่อีกนับครั้งไม่ถ้วน รวมถึงกิจกรรมเรียนรู้การรำตำรับเจ้าดารารัศมี ความอ่อนช้อยของชาวล้านนาที่ตราตรึงใจไปทั่วโลก ไม่เพียงเท่านั้นในช่วงของการเก็บเกี่ยวลำไยซึ่งจะเริ่มขึ้นในปลายเดือนนี้ ไปจนถึงเดือนสิงหาคม แขกบ้านแขกเมืองของ Villa De Dara ยังได้ร่วมกับชาวสวนเข้าไปเก็บและชิมลำไยปลอดสารกันถึงต้น ปิดท้ายยามเย็นด้วยอาหารเหนือที่เสิร์ฟแบบขันโตกขับกล่อมด้วยดนตรีแบบล้านนา ก่อนพักสายตาไปพร้อมๆ กับดวงดาราที่ส่งเราเข้านอน

ในฤดูกาลที่ทุกอย่างรอบตัวเต็มไปด้วยพันธุ์ไม้ที่เล่นจังหวะแพนโทนสีเขียวงดงามที่สุด ลองเปิดโอกาสให้ตัวเองได้สัมผัสความงามจากธรรมชาติ ศิลปะการใช้ชีวิตที่เพิ่มพลังได้อย่างไม่น่าเชื่อนี้ดูสักครั้ง รับรองว่าราคาเข้าพักเพียง 2,900/ท่าน กับระยะเวลา 2 วัน 1 คนที่ Villa De Dara จะนำพาความสุขมาใช้กับชีวิตในมิติที่ซึมลึกมาก
กว่าเดิม ติดต่อสำรองห้องพักหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Line ID : @villadedara หรือ Inbox FB page : villadedara

หน้า 28 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับ 3,385 วันที่ 22-25 กรกฎาคม 2561