โรงไฟฟ้าขยะแม่สอดขอเดินเครื่องใหม่หลังถูกร้องเรียน

โรงงานไฟฟ้าขยะชุมชนแม่สอด ยื่นหนังสือเทศบาล จะเปิดดำเนินการผลิตกระแสไฟฟ้าต่อ เผยปิด 21 วันเสียหายเกือบ 1 ล้านบาท พันธมิตรร่วมลงทุนระบุ แหยงไม่กล้าลงทุนร่วม กลัวม็อบต้าน ทั้งที่เป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก

เมื่อวานนี้(16 ส.ค.60) นางนฤชา ศิริวัฒน์  บริษัทจีเนียส เอ็นเนอร์จี้ จำกัด กรรมการผู้จัดการบริษัทจีเนียส เอ็นเนอร์จี้ จำกัด ผู้ประกอบการโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าขยะ ชีวมวล หมู่ที่ 8 บ้านแม่กุเหนือ ตำบลแม่กุ .แม่สอด จ.ตาก ได้ส่งหนังสือถึง ผู้บริหารเทศบาลตำบลแม่กุ เพื่อขอเปิดดำเนินการเดินเครื่องในการผลิตกระแสไฟฟ้าต่อ  หลังจากที่ทางเทศบาลตำบลแม่กุ สั่งให้ปรับปรุงระบบการนำขยะไปจำกัดรักษาสิ่งแวดล้อม และประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับชุมชน และจากการตรวจสอบแก้ไข ปรับปรุงดำเนินการตามแผนโรงงานไฟฟ้า ไม่พบว่า ระบบการผลิตกระแสไฟฟ้า แบบระบบปิดของโรงงานฯ ได้ก่อให้เกิดมลพิษกับสิ่งแวดล้อมภายนอกแต่อย่างใด และโรงงานก็มีการใช้ขยะเป็นเชื้อเพลิงผลิตกระแสไฟฟ้า ขณะเดียวกันในช่วงที่โรงงานหยุดเดินเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้านั้น ระหว่างวันที่ 26 กรกฏาคม 2560 จนถึงวันที่ 15 สิงหาคม 60 นั้น รวมระยะเวลา 21 วัน ทางบริษัทได้รับความเสียหาย คิดเป็นเงิน จำนวน  992,394 บาท นอกจากนี้ ยังส่งผลกระทบต่อโอกาสในการขยายธุรกิจ ทำให้บริษัทที่จะร่วมลงทุน ยกเลิกสัญญาการร่วมลงทุน คิดเป็นมูลค่าความเสียหายอีก 30 ล้านบาท



ด้านนายประเสริฐ ว่องชาญเชิงค้า นักธุรกิจจากกรุงเทพฯ ที่สนใจจะลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดนตาก(แม่สอด-พบพระ-แม่ระมาด)  กล่าวว่า หลังจากทราบข่าว การต่อต้านโรงงานไฟฟ้าขยะชุมชน ชีวมวล ที่แม่กุแล้ว รู้สึกไม่สบายใจ ขาดความเชื่อมั่นในการลงทุน เพราะการจัดการของภาครัฐ ไม่ได้ให้ความเป็นธรรมกับนักธุรกิจ และยังใช้คนหมู่มากมาต่อต้าน ทั้งๆที่มีอกฏหมายบังคับใช้ให้ถูกต้องกับการประกอบธุรกิจ ทำให้นักลงทุนหลายกลุ่มขาดความมั่นใจ

อย่างไรก็ดีในวันนี้( วันที่ 16 สิงหาคม 2560) เป็นวันที่ทางเทศบาลตำบลแม่กุ จะต้องให้คำตอบกลุ่มแกนนำ ที่ต่อต้านโรงงานฟ้าขยะชุมชนแม่กุ ชีวมวล หลังจากมีการประชุมไปในวันที่ 10 สิงหาคม 60 ณ ห้องประชุมเทศบาลตำบลแม่กุ โดยมีนายธนยศ ปานขาว นายอำเภอแม่สอด จ.ตาก เป็นประธานในการประชุม แต่ในที่ประชุมเกิดความวุ่นวายไร้การควบคุม ผู้ประกอบการฝ่ายโรงงานขยะไม่มีโอกาสได้ชี้แจงข้อเท็จจริง ทั้งที่พยายามที่ขอชี้แจง แต่ถูกปิดโอกาส จนนำไปสู่การขอความเป็นธรรมจากภาครัฐ