‘Santaon’ อรรถรสอันเอร็ดอร่อย จากอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ เติมเต็มประสบการณ์ใหม่ในทุกการเดินทาง

“อาหารมรดกอันทรงคุณค่าในการแสดงออกถึงวัฒนธรรมของชนชาติ ซึ่งนอกจากความเอร็ดอร่อย อุดมสมบูรณ์และอัตลักษณ์อาหารยังเป็นจุดเชื่อมโยงที่ก่อให้เกิดการเรียนรู้ระหว่างภูมิภาคและสร้างโอกาสในหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็น อาชีพ รายได้ และเศรษฐกิจซึ่งนี่คือจุดเริ่มต้นในการคิดค้น สร้างสรรค์ และตกผลึก นำเอาอาหารที่เป็นเอกลักษณของประเทศต่างๆ ในอาเซียนมาหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวภายใต้แบรนด์ “Santan” เพื่อชูความเป็นเลิศในเรื่องของรสชาติมาตรฐาน ราคา และบริการ ภายใต้แนวคิด flavours of asean”

โทนี่ เฟอร์นานเดส ประธานเจ้าหน้าท่บี ริหารกล่มุ สายการบินแอร์เอเชีย กล่าวด้วยรอยยิ้ม อันอบอุ่น ระหว่างการเปิดงาน Santan Food Festival ที่สำนักงานแอร์เอเชีย Red Q เมืองเซปัง ประเทศมาเลเซีย

จากการเรียบเรียงเคียงถามคำอ่านของ Santan นั้นอ่านเป็นภาษาไทยว่า “ซันตาน” เป็นภาษาบาฮาซา มีความหมายและคำแปลว่า “กะทิ” ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักของอาหารที่มีชื่อเสียงในแต่ละชนชาติของภูมิภาคอาเซียน ไม่เพียงเท่านั้นนัยที่ดีของกะทิยังฉายภาพให้เราเห็นและสัมผัสถึงความเข้มข้นที่ทางแอร์เอเชียตั้งใจทำเพื่อสร้างสรรค์อาหารบนเครื่องบินที่มีคุณภาพให้กับผู้โดยสารได้รับความสุขใจในทุกเที่ยวบิน

ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มสายการบิน แอร์เอเชีย เปิดเผยว่า ก่อนจะมาเป็น Santan เราใช้ข้อมูลทางดิจิตอลที่ได้รับจากผู้โดยสารกว่า 400 ล้านคน ในการนำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์คัดสรรเมนูที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละชนชาติ รวมทั้งสินค้านวัตกรรมต่างๆ ของแอร์เอเชียเพื่อตอบโจทย์ความตอ้ งการของผู้โดยสารให้เกิดความสะดวกสบาย คุ้มค่าและครบครันยกตัวอย่างเช่น ในขณะนี้เรากำลังพัฒนาระบบ electronic point of sale (EPOS) เพื่อทำให้การสั่งอาหารและการชำระเงินมีความคล่องตัวมากขึ้นเสมือนกับอยู่ในร้านอาหาร พร้อมกันนี้ยังปักหมุดแผนที่จะใช้ภาชนะใส่อาหารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตลอดจนรถเข็นเครื่องชงกาแฟเพื่อเติมเต็มวัฒนธรรมดังกล่าวที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสอดรับ ซึ่งแผนดังกล่าวจะสามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรและผู้ประกอบการกาแฟ และเครื่องดื่มอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียนให้เติบโตอย่างต่อเนื่องโดยแผนดังกล่าวคาดว่าจะเริ่มดำเนินการในช่วงไตรมาสที่ 2-3 ในปีนี้

สำหรับบรรยากาศการจัดงาน Santan Food Festival มีการนำเสนอเมนูอาหารอันเลิศรสจากชนชาติต่างๆ อย่างหลากหลาย ยกตัวอย่างเช่นแกงเขียวหวานไก่ ผัดไทยและข้าวเหนียวมะม่วงจากประเทศไทย ทั้งนี้ยังมี Nasi Lemak, Roti Jala และ Nasi Kuning Manado ประเทศมาเลเซีย Chicken Adobo จากประเทศฟิลิปปินส์ South India Delight จากประเทศอินเดีย Miso Chicken with Garlic Rice ประเทศญี่ปุ่น Stir-fry Kimchi Chicken ประเทศเกาหลี รวมทั้งออร์เดิร์ฟขนมหวานและของขบเคี้ยวอื่นๆ อย่างเช่น Coconut Pudding , Satay, Curry Puff, Mac & Cheese, Sweet & Sour Meatballs โดยอาหารดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของ Santan ที่พร้อมให้บริการบนเครื่องบินในช่วงเวลาดังกล่าวนี้ ซึ่งอาหารอีกหลากหลายเมนูอันโดดเด่นของแต่ละชนชาติจะถูกนำมาหมุนเวียนและสลับสับเปลี่ยนในทุกๆ 3 เดือน เพื่อสร้างความสดใหม่ ประทับใจ และอรรถรสอันนุ่มลึกในทุกการเดินทาง สำหรับยอดการจองและสั่งซื้ออาหารบนเครื่องบินจาก Santan ในช่วงไตรมาส 1-2 ที่ผ่านมาอยู่ที่ร้อยละ 30 จากผู้โดยสารทัง้ หมดโดยคุณโทนี่ตั้งเป้าหมายไว้ที่ร้อยละ 60 จากผู้โดยสารทั้งหมดในระยะเวลา 2 ปี

การให้ความสำคัญในทุกมิติของการบริการ คือ ย่างก้าวที่มั่นคงและแข็งแรงที่ทางแอร์เอเชียได้วางรากฐานและตั้งใจทำเสมอมาเพื่อตอบโจทย์ เติมเต็มอย่างตั้งมั่นในการเข้าไปครองใจผู้บริโภค เห็นได้ชัดจากหลากหลายแผนพัฒนาที่ไม่ได้มุ่งหวังเพียงเพื่อสร้างผลกำไร แต่มุ่งเน้นในเรื่องการสร้างโอกาส อาชีพ และยกระดับเศรษฐกิจในภูมิภาคควบคู่ไปด้วย ซึ่งการันตีด้วยรางวัลการบริการบนเครื่องบินที่ดีที่สุดในโลก (World’s Leading Inflight Service) จาก World Travel Awards ไม่เพียงเท่านั้นเมื่อเดือนธันวาคม 2559 ยังไดร้ บัรางวัล Catering Innovation of the Year โดย Onboard Hospitality

ปัจจุบันอาหารจาก Santan ของแอร์เอเชีย พร้อมให้บริการในทุกเส้นทาง ซึ่งผู้โดยสารสามารถเลือกซื้อได้ทั้งบนเที่ยวบินหรือสั่งจองล่วงหน้าโดยไปที่การจัดการบุ๊กกิ้งออนไลน์ เพราะนอกจากความหลากหลายยังสามารถรับส่วนลดพิเศษกับโปรโมชัน Santan Combo Mealได้อีกด้วย สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามข่าวสารของแอร์เอเชีย Santan ได้ที่ hashtag #AirAsiaSantan และ #SantanFoodFest หรือติดตามข่าวสารอื่นๆ กิจกรรมและโปรโมชันได้ทาง Twitter (twitter.com/AirAsia) หรือFacebook (facebook.com/AirAsia) ร่วมเปิดประสบการณ์ใหม่ในทุกการเดินทางด้วยรสชาติอันเอร็ดอร่อยและคุ้มค่าจาก Santan ตัวจริงเรื่องอาหาร

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,269 วันที่ 11 - 14 มิถุนายน พ.ศ. 2560