AHC เผยธุรกิจครึ่งหลังปี 2567 เติบโตรับไฮซีซัน ลูกค้า OPD – IPD เพิ่มต่อเนื่อง

30 ก.ค. 2567 | 11:08 น.
อัปเดตล่าสุด :30 ก.ค. 2567 | 12:15 น.

AHC เผยทิศทางธุรกิจครึ่งหลังปี 2567 สัญญาณดีแนวรับไฮซีซัน พร้อมเดินหน้ากลยุทธ์จับมือกับพันธมิตรเพิ่มโอกาสทางธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ ดันยอดผู้ใช้บริการ OPD – IPD เพิ่มรายได้เติบโตตามเป้าหมาย

นายสิริพจน์ มาโนช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายยุทธศาสตร์องค์กร บริษัท โรงพยาบาลเอกชล จำกัด (มหาชน) จังหวัดชลบุรี หรือ AHC กล่าว่า ทิศทางธุรกิจ AHC ช่วงครึ่งหลังของปี 2567 มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก เนื่องจากเข้าสู่ช่วงไฮซีซันของธุรกิจ และจากการเปิดศูนย์บริการเต็มระบบทั้ง IPD (In-Patient Department) หรือ “ผู้ป่วยใน” และ OPD (Out-Patient Department) หรือ“ผู้ป่วยนอก รวมถึงยอดผู้ใช้บริการจากกลุ่มลูกค้าบริษัทประกันสุขภาพก็มีจำนวนเพิ่มขึ้น ตามการเติบโตของธุรกิจประกันภัย

นอกจากนี้ โรงพยาบาลเอกชลยังเตรียมเปิดบริการให้คำปรึกษาเรื่องการควบคุมน้ำหนัก Weight Management และบริการปรึกษาและรักษาเฉพาะด้านสำหรับเพศทางเลือกกลุ่ม LGBTQ อาทิ การปรับฮอร์โมน การปรึกษาจิตแพทย์ ตอบรับนโยบายสมรสเท่าเทียมที่ได้รับความคุ้มครองทางกฎหมาย เพื่อเพิ่มโอกาสธุรกิจขยายฐานลูกค้าหลากหลายซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้ยอดการใช้บริการ OPD – IPD เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ บริษัทได้เดินหน้าสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพิ่มโอกาสทางธุรกิจด้วยการเตรียมจับมือพันธมิตรกับบริษัท แบงคอกจีโนมิกส์อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) BKGI เสริมบริการด้านการตรวจคัดกรองภาวะความผิดปกติทางพันธุกรรม ดาวน์ซินโดรมทารกในครรภ์ และพันธมิตรบริษัท TCI จากประเทศไต้หวัน      

AHC เผยธุรกิจครึ่งหลังปี 2567 เติบโตรับไฮซีซัน ลูกค้า OPD – IPD เพิ่มต่อเนื่อง     เพื่อเปิดให้บริการตรวจคัดกรองโรคความเสี่ยงที่เกิดจากพันธุกรรม โดยสามารถคัดกรองโรคจากพันธุกรรมได้ถึง 58 โรค อาทิ โรคหัวใจ โรคมะเร็ง ฯลฯ เพื่อหาแนวทางป้องกันโรคเหล่านี้ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตได้ โดยการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจและการขยายฐานลูกค้าดังกล่าว คาดว่าจะส่งผลให้รายได้ของบริษัทเติบโตตามเป้าหมายไม่ต่ำกว่า 15 %

“ในสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวจะส่งผลให้คนไทยส่วนใหญ่ระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น การซื้อยาด้วยตนเองทดแทนการเข้าใช้บริการรักษาที่โรงพยาบาลในกรณีเจ็บป่วยเล็กน้อย มีส่วนที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนเช่นกัน แต่การรักษาโรคด้วยนวัตกรรมและผู้เชี่ยวชาญยังคงมีความสำคัญมากต่อการรักษาสุขภาพ ซึ่งถือเป็นปัจจัย 4 ในการดำรงชีวิตที่ขาดไม่ได้ ฉะนั้นธุรกิจโรงพยาบาลจึงยังจำเป็นต่อการดำรงชีวิตอยู่ของผู้ใช้บริการ"

นายสิริพจน์ กล่าวว่า โรงพยาบาลเอกชลยังคงมุ่งเน้นพัฒนาสรรหาและพัฒนาบุคลากร เพื่อรับรองการดำเนินชีวิตของผู้ใช้บริการควบคู่กลยุทธ์การบริหารจัดการต้นทุนค่าใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพอยู่เสมอ พร้อมทั้งรักษาระดับมาตรฐานการให้บริการ โดยมุ่งเน้นผ่านการรับรองมาตรฐาน JCI (Joint Commission International) มาตรฐานการรับรองคุณภาพระดับสากลเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการ