ครม.ไฟเขียวกฎกระทรวงถือครอง ยาบ้า 1 เม็ดเพื่อเสพผิดกฎหมาย
ครม. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงสาธารณสุขกำหนดเพิ่มปริมาณการถือครอง "ยาบ้า-ยาไอซ์-แอมเฟตามีน" ไม่เกิน 1 เม็ดหรือไม่เกิน 100 มิลลิกรัม ให้สันนิษฐานว่า มีในครอบครองเพื่อเสพผิดกฎหมาย
11 มิถุนายน 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงสาธารณสุขในการเพิ่มปริมาณกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษ และวัตถุออกฤทธิ์ ที่ให้สันนิษฐานว่า มีในครอบครองเพื่อเสพเพื่อกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ยาบ้า ยาไอซ์ และแอมเฟตามีน ไม่เกิน 1 หน่วยการใช้ หรือไม่เกิน 100 มิลลิกรัม
จากเดิมที่กำหนดไว้ 5 หน่วยการใช้ หรือ 500 มิลลิกรัม โดยหลังจากนี้ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา จะไปตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง ก่อนมีผลใช้บังคับ
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยกรณีเสนอร่างกฎกระทรวงลดจำนวนผู้ถือครองยาบ้าจาก 5 เม็ด เป็น 1 เม็ด ให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาว่า เป็นการปรับจาก 5 เม็ด มาเป็น 1 เม็ด โดยผู้ถือ 1 เม็ดมีสิทธิขอบำบัดได้สำหรับคนที่ติดยาเสพติดแต่คนที่ไม่สามารถพิสูจน์ตัวเองได้ว่า ติดยาเสพติดต้องถูกดำเนินคดี
ผู้ที่พิสูจน์ตัวเองได้ว่า ติดยานั้นอาจมีการตรวจปัสสาวะด้วยแม้จะถือ 1 เม็ดก็จะถูกตรวจสอบตามประมวลกฎหมายยาเสพติดว่า ซื้อยามาจากบุคคลใด รวมถึงผู้ที่นำยามาขายให้ต้องถูกดำเนินคดีในฐานะเป็นผู้จำหน่าย มีโทษทั้งจำทั้งปรับหรือเรียกได้ว่า 1 ผู้เสพก็ต้องมี 1 ผู้ค้า
นายสมศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หากที่ประชุม ครม.เห็นชอบในวันนี้ต้องให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจสอบก่อน เมื่อตรวจสอบเสร็จก็ต้องส่งให้ครม.เห็นชอบอีกครั้งก่อนที่กระทรวงสาธารณสุขจะประกาศได้ซึ่งคาดว่า กระบวนการทั้งหมดจะจบภายในเดือนมิถุนายนโดยจะมีประกาศกฎกระทรวงที่ชัดเจนต่อไป
นอกจากนี้นายสมศักดิ์ ยังกล่าวด้วยว่า เราเน้นไปที่ผู้ขายเมื่อก่อนคนถือครอง 5 เม็ด หรือ 3 เม็ด หากประสงค์บำบัดก็จะได้รับการบำบัดแต่ตอนนี้เราจะต้องได้ตัวผู้ค้าเข้ามา 1 คนและจะมีการยึดทรัพย์ย้อนหลัง รวมถึงมรดกเก่าที่มีความเชื่อมโยงในการได้มาจากการค้ายาเสพติดซึ่งขณะนี้เครื่องมือมีครบหมดแล้ว
ดังนั้น จึงต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายโดยเฉพาะกระบวนการยึดทรัพย์ กฎหมายเปิดช่องทางไว้และให้รางวัลคนทำคดี 25% คนแจ้งเบาะแสได้รางวัลด้วย 5% เชื่อว่า หากทำได้ตามนี้จะไม่มียาเสพติดเหลือในประเทศไทยแต่หากทำไม่ครบตามกระบวนการ "ยาเสพติด" ก็จะไม่หมดไปเพราะทุกคนปล่อยปะละเลย นายสมศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย