เตือน!มะเร็งช่องปากปัจจัยเสี่ยงจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต

07 เม.ย. 2566 | 05:27 น.

เตือน!มะเร็งช่องปากปัจจัยเสี่ยงจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต ระบุพบได้บ่อยในคนไทยโดยเฉพาะเพศชาย ชี้ตำแหน่งที่พบบ่อยมากที่สุดตคือ ลิ้น รองลงมาคือบริเวณใต้ลิ้น และบริเวณเหงือก

นายแพทย์วีรวุฒิ  อิ่มสำราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า มะเร็งช่องปาก เป็นมะเร็งที่พบได้บ่อยในคนไทย โดยเฉพาะในเพศชาย ซึ่งจากสถิติข้อมูลมะเร็งประเทศไทยระหว่างปี พ.ศ. 2559-2561 (Cancer in Thailand Vol.X 2016-2018) รวบรวมโดยสถาบันมะเร็งแห่งชาติ พบว่า มะเร็งช่องปากเป็นมะเร็งที่พบบ่อยเป็นอันดับที่ 6 ของโรคมะเร็งในผู้ชายไทย 

ทั้งนี้ ในแต่ละปีพบผู้ป่วยมะเร็งช่องปากรายใหม่เฉลี่ย 3,840 คนต่อปี หรือวันละ 11 คน โดยตำแหน่งในช่องปากที่พบเป็นมะเร็งบ่อยที่สุดคือ ลิ้น รองลงมาคือบริเวณใต้ลิ้นและบริเวณเหงือก 

สำหรับอาการของโรคมะเร็งช่องปากมีได้หลายอาการขึ้นกับตำแหน่งที่เป็น ได้แก่ เป็นแผลเรื้อรังในช่องปากซึ่งไม่หายภายใน 2-3 สัปดาห์ ,เป็นก้อนนูนหรือฝ้าขาวหรือแดงในช่องปาก ,ฟันหลุด ฟันโยก ,ปวดในช่องปากหรือปวดหู ,เคี้ยวหรือกลืนลำบาก และก้อนที่คอ

นายแพทย์เอกภพ แสงอริยวนิช แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางสาขาโสต ศอ นาสิก สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวว่า สาเหตุในการเกิดโรคมะเร็งช่องปากที่สำคัญคือ 

  • การสูบบุหรี่ ยาสูบ ยาเส้น 
  • การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 
  • การเคี้ยวหมากพลู 

มะเร็งช่องปากปัจจัยเสี่ยงจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต นอกจากนี้สาเหตุอื่นๆที่พบได้ เช่น 

  • การเป็นแผลเรื้อรังในช่องปาก 
  • การใส่ฟันปลอมที่ไม่พอดี
  • สุขภาพช่องปากไม่ดีหรือมีฟันผุมาก
  • มีฟันที่แหลมคม
  • ได้รับแสงอาทิตย์โดยตรงเป็นประจำ(เสี่ยงต่อมะเร็งริมฝีปาก) 

การตรวจวินิจฉัยโรคมะเร็งช่องปาก ทำโดยการตัดชิ้นเนื้อรอยโรคที่สงสัยเพื่อตรวจชิ้นเนื้อทางพยาธิวิทยา และหลังจากได้รับการวินิจฉัยแล้ว ผู้ป่วยจะได้รับการตรวจเพิ่มเติมอื่นๆ เพื่อประเมินระยะของโรคเพื่อวางแผนการรักษาต่อไป

อย่างไรก็ดี การรักษามะเร็งช่องปาก ขึ้นอยู่กับระยะของโรครวมถึงสภาพร่างกาย โรคประจำตัวของผู้ป่วย โดยพิจารณาการผ่าตัดเป็นหลัก และพิจาณาให้รังสีรักษาในผู้ป่วยบางราย สำหรับผู้ป่วยที่ไม่สามารถผ่าตัดได้จะให้การรักษาด้วยวิธีรังสีรักษาร่วมกับเคมีบำบัด ซึ่งให้ผลการรักษาที่ใกล้เคียงกับการผ่าตัด 

อย่างไรก็ตาม การป้องกันการเกิดโรคย่อมดีกว่าการรักษาเมื่อป่วยแล้ว วิธีการป้องกันโรคมะเร็งช่องปาก ได้แก่ งดสูบบุหรี่หรือสูดดมควันบุหรี่ ,งดการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ,ไม่เคี้ยวหมาก ,ใส่ฟันปลอมที่พอดี และการตรวจเช็คสุขภาพช่องปากและฟันทุก 6 เดือน 

เนื่องจากช่องปากเป็นตำแหน่งที่สามารถมองเห็นไม่ยาก ดังนั้นประชาชนทั่วไปสามารถตรวจหารอยโรคแผล หรือก้อนในช่องปากด้วยตนเองได้ ซึ่งมีวิธีการดังต่อไปนี้ หลังจากแปรงฟันแล้ว ให้ส่องกระจกตรวจบริเวณ 

  • ริมฝีปาก โดยสังเกตริมฝีปากด้านนอก ดึงริมฝีปากบนและล่างเพื่อตรวจดูเยื่อบุริมฝีปากด้านใน 
  • กระพุ้งแก้ม และเหงือก โดยใช้นิ้วดึงกระพุ้งแก้มออกไปด้านข้าง ตรวจดูบริเวณกระพุ้งแก้มและเหงือกบนล่าง 
  • ลิ้น ใต้ลิ้น และพื้นช่องปาก โดยอ้าปากแลบลิ้น ยื่นลิ้นหรือดึงลิ้นด้วยผ้ากอซหรือกระดาษทิชชูไปทางซ้ายและขวาเพื่อตรวจดูด้านข้างของลิ้น กระดกลิ้นขึ้น เพื่อตรวจดูบริเวณใต้ลิ้นและพื้นของช่องปาก รวมถึงเหงือกด้านล่าง 
  • เพดานปาก โดยอ้าปาก เงยหน้า ตรวจดูเพดานปาก รวมถึงบริเวณเหงือก

"จะเห็นได้ว่ามะเร็งช่องปากเป็นมะเร็งที่ป้องกันและตรวจคัดกรองได้ด้วยตนเองได้ไม่ยาก หากท่านมีอาการผิดปกติ หรือตรวจช่องปากด้วยตนเองแล้ว สงสัยว่ามีความผิดปกติ ควรไปปรึกษาแพทย์หรือทันตแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง"