เอ็มพี กรุ๊ป กางแผนปี 66 สร้าง S-curve ใหม่ตอบโจทย์การแพทย์เปลี่ยน

11 ก.พ. 2566 | 15:05 น.
อัปเดตล่าสุด :11 ก.พ. 2566 | 15:05 น.

เอ็มพี กรุ๊ป กางแผนปี 66 สร้าง S-curve ใหม่ตอบโจทย์การแพทย์เปลี่ยน เปิดนวัตกรรมใหม่ ตรวจวินิจฉัย ถึงระดับยีนหาจุดวิกฤตของชีวิต

นางสาวนทพร บุญบุบผา ผู้บริหารสูงสุด บริษัท เอ็มพี กรุ๊ป (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ปี 66 บริษัทฯ จะดำเนินการสร้าง S-curve ใหม่ เพื่อตอบโจทย์ต่อการบริการทางการแพทย์ที่เปลี่ยนอย่างรวดเร็ว โดยล่าสุดได้ดำเนินการเปิดห้องปฎิบัติการ  Health Plus Global Wellness Service and Genetic Laboratory 

ทั้งนี้ ห้องปฏิบัติการดังกล่าวจะรยกระดับการให้บริการตรวจวินิจฉัย เพื่อการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม โดยประกอบไปด้วยการให้บริการตรวจ Wellness Gene Check, Cancer Gene Check และการตรวจสุขภาพทั่วไป

รวมไปถึงบริการตรวจ COVID-19 RT-PCR ด้วย ในการตรวจ Gene โดยห้องปฏิบัติการได้ใช้เทคโนโลยีการตรวจขั้นสูง ด้วยหลักการ Next Generation Sequencing และ Microarray เพื่อให้ได้ผลที่ถูกต้องแม่นยำที่สุด โดยได้รับรองมาตรฐาน CE-IVD ทั้งระบบ 

อีกทั้งห้องปฏิบัติการยังได้รับรองมาตรฐาน ISO15189 และ ISO15190 ซึ่งเป็นเครื่องมือยืนยันคุณภาพที่ได้การยอมรับในมาตรฐานสากล

นางสาวนทพร กล่าวอีกว่า บริษัทฯ ยังต้องการสร้างธุรกิจใหม่เข้าสู่ธุรกิจ Wellness ได้แก่ Genetic Testing Laboratory ที่สามารถตรวจถึงระดับยีนเฉพาะบุคคล โดยใช้เทคโนโลยีการตรวจที่ทันสมัยเพื่อให้เกิดความแม่นยำ ( Precision Medicine ) เนื่องจากยีนในแต่ละบุคคลมีความแตกต่างกัน จึงทำให้คนแต่ละคน มีบุคลิกภาพที่แตกต่างกัน 

เอ็มพี กรุ๊ปสร้าง S-curve ใหม่ตอบโจทย์การแพทย์เปลี่ยน โดยในปัจจุบันปัจจัยภายนอก เช่น ได้แก่ การสูบบุหรี่ อาหาร อาหารเสริม  สารเคมี มลภาวะ เช่น PM2.5 สามารถมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของยีนในแต่ละบุคคลได้ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนชั่วคราว หรือ การเปลี่ยนแบบถาวร ที่อาจจะนำไปสู่การกลายพันธุ์ของยีนในครอบครัวรุ่นต่อไป (Germ Line) ได้ 

หากตรวจพบการเปลี่ยนแปลงนี้ในกลุ่มโรคที่ร้ายแรง เช่น มะเร็งเต้านม ก็อาจจะนำมาสู่ความสูญเสีย อย่างมากมาย ดังนั้น บริษัท เอ็มพี กรุ๊ปฯ ก่อตั้ง Health Plus Laboratory (HP Lab) ขึ้นมา ด้วยความเชื่อที่ว่า หากคนได้มีโอกาสเข้าถึงการตรวจการเปลี่ยนแปลง หรือ ผิดปกติของยีนที่เกิดจากปัจจัยภายนอกนี้ จะสามารถนำไปสู่การวางแผนสุขภาพในระยะสั้นและระยะยาวได้ ซึ่งจะช่วยลดความสูญเสีย รวมถึงช่วยบรรเทาค่ารักษาพยาบาลในระยะยาวได้อีกด้วย

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังสร้างธุรกิจใหม่ คือ MP Heathcare ที่เป็น Beauty Wellness ในแบรนด์ Glass Skin ที่เป็นชุดบำรุงผิว (Skincare) ที่ผลิตจากเมือกหอยทากโมเลกุลเล็ก (Micro Molecule) ที่มาจากงานวิจัยโดยทีมนักวิจัยจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 

อย่างไรก็ดี Glass Skin ยังช่วยส่งเสริมธุรกิจ หมุนเวียน Bio Circular Green ( BCG model) ที่ส่งเสริมคุณค่าให้ ทุก Stake Holder ที่อยู่ใน Value Chain ทำให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียน 

นางสาวนทพร กล่าวต่ออีกว่า ปัจจุบัน ผู้ป่วยต่างชาติที่มีแนวโน้มจะกลับมาใช้บริการในไทยก็เพิ่มขึ้นในปี 2565 ที่ผ่านมา และจากนโยบายภาครัฐ ในการพัฒนาให้ไทยเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) บริษัทฯมีเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย เพื่อร่วมสร้าง Wellness Ecosystem ได้อย่างสมบูรณ์ เพื่อให้คนไทยได้เข้าถึงการวินิจฉัยทางห้องแลปที่ได้มาตรฐาน และมีชีวิตอย่างยั่งยืนอย่างมีความสุขด้วยสุขภาพที่ดีค่ะ