ถอดรหัสความสำเร็จ “มาสเตอร์ สไตล์” รุกตลาดเฮลท์แคร์

นพ. ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล Group CEO MASTER กล่าวบนเวทีเสวนาหัวข้อ  “THE ICONIC : ROAD TO SUCCESSOR” ภายในงาน "ครบรอบ 44 ปีฐานเศรษฐกิจ" ในวันศุกร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ว่า

เศรษฐกิจในตอนนี้ต้องเรียกว่า “จุดตะเกียงดีกว่าดับความมืด” ทุกคนอยู่ในยุคที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว หลายปีที่ผ่านมาโซเชียลมีเดียถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก และโซเชียลมีเดียก็เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเช่นกัน ในกลุ่มบริษัทมาสเตอร์ฯ ได้มุ่งให้ความสำคัญไปที่ลูกค้าที่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปตามยุคสมัย ซึ่งในรอบ 10 ปีจนถึงวันที่บริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์จนเติบโต มีคีย์สำคัญคือเรื่องของ “คน”

หลายบริษัทอยากได้คนเก่งเข้ามาทำงาน และเมื่อมองในประเทศไทยไม่อาจทำได้เหมือนซิลิคอนวัลเลย์ ฉะนั้น สิ่งที่ทำได้ดีคือ การทำเทรนนิ่ง ทรานส์ฟอร์เมชั่นเปลี่ยนแปลงอะไรหลายอย่าง ที่สามารถทำให้ธุรกิจขนาดเล็กกลายเป็นธุรกิจขนาดกลางได้ และจากธุรกิจขนาดกลางก็กลายเป็นธุรกิจขนาดใหญ่จนเป็นเสาร์หลักของประเทศไทย 

“ผมจะยกตัวอย่างบริษัทของตัวเอง ที่ไม่มีงบประมาณไปจ้างบริษัทคอนเซ้าท์มาปรับระบบในองค์กรของตัวเอง แต่สิ่งที่ผมทำคือการเดินเข้าไปหาผู้รู้ เข้าไปขอคำแนะนำจากที่ปรึกษา และได้คำนำ ได้แนวคิดของระบบ Scrum (สกรัม) มาปรับใช้ โดยมีพื้นฐานมาจากแสนสิริ จนประสบความสำเร็จกลายเป็นบริษัทกลุ่มมาสเตอร์มาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งเราอาจจะไม่รู้ว่าสิ่งที่เราพัฒนาไป มีอิมแพ็คต่อประเทศมากแค่ไหน”

นพ. ระวีวัฒน์ กล่าวว่า โลกในยุคปัจจุบันทุกคนสามารถเข้าถึงการบริการได้หลากหลายรูปแบบ ลูกค้าของกลุ่มมาสเตอร์ฯ ก็เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ บางบริษัทในเครือมีลูกค้าต่างประเทศมากถึง 50% ในภูมิภาคอาเซียนหลายหลายประเทศสามารถเดินทางมาประเทศไทยได้ง่ายมาก ด้วยตั๋วเครื่องบินหลักพันและเดินทางไม่เกิน 2 ชั่วโมง ฉะนั้น กลุ่มบริษัทมาสเตอร์ฯ จึงมุ่งเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ดึงคนจากต่างประเทศเข้ามาเมืองไทย และเชื่อว่าจะช่วยในการดึงให้เศรษฐกิจไทยเติบโตขึ้น โดยเฉพาะเรื่องเฮลท์แคร์ที่เป็นอีกหนึ่งธุรกิจหลัก เพราะประเทศไทยมีโรงพยาบาลเฉพาะทาง จะดึงดูดลูกค้าจากต่างประเทศให้เข้ามาได้

สุดท้ายการขยายขอบเขตของธุรกิจ ยกตัวอย่างกลุ่มบริษัทมาสเตอร์ฯ ที่มีทั้งธุรกิจความสวยความงาม โรงพยาบาลเฉพาะทาง การทำหน้าตัดกระเพาะ การทำทันตกรรม การปลูกผม รวมไปถึงเรื่องของจิตเวช  ที่จะเติบโตเร็วในปี 2567 นี้ และหลายบริษัทในเครือก็ซัพพอร์ตกันเป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจบ้านผู้สูงอายุที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง ประชาชนทั่วไปทราบดีอยู่แล้วว่าอัตราการเกิดของคนไทยลดน้อยลง กลุ่มบริษัทมาสเตอร์ฯ ก็เข้าไปช่วยทางด้านนี้ รวมไปถึงบริษัทเกี่ยวกับเฮลท์แคร์ ทำให้มีศักยภาพแข่งขันในตลาดได้ ทั้งหมดนี้หนีไม่พ้นเรื่องของการพัฒนาคนที่จะทำให้ธุรกิจเติบโต

“เราเชื่อเรื่องของการลงทุนในการพัฒนาคน การมีโครงสร้างที่ตรงไปตรงมา และการพูดตรงแต่ให้เกียรติกันสำคัญมาก ทั้งหมดทั้งมวลเป็นเคล็ดลับที่ทำให้บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ ที่เราลงทุนในครั้งแรกแค่ 6 แสนบาท กลายเป็นบริษัทใหญ่ในปัจจุบัน”