โรงพยาบาลพญาไท 2 ผุด "ปักหมุดหยุดไข้เลือดออกปีมังกร" หลังพบป่วยเกินแสนราย

21 ก.พ. 2567 | 11:47 น.

โรงพยาบาลพญาไท 2 ผุด"ปักหมุดหยุดไข้เลือดออกปีมังกร" หลังพบผู้ป่วยตลอดปี 2566 จากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขมีจำนวนสะสมสูงถึง 147,412 รายและเสียชีวิตสะสม 161 ราย ขณะที่มกราคม 67 ป่วยแล้ว 8,197 ราย

นพ.ธนารักษ์ สถาพรวรศักดิ์ รักษาการผู้อำนวยการแพทย์โรงพยาบาลพญาไท 2 เปิดเผยว่า หนึ่งในโรคระบาดที่มีตัวเลขสูงตั้งแต่ปีที่แล้วและคาดว่าจำนวนจะเพิ่มขึ้นในปีนี้คือไข้เลือดออก ด้วยภาวะโรคร้อนเป็นเหตุให้ยุงลายมีจำนวนมากขึ้น ส่งผลให้อัตราการระบาดของโรคไข้เลือดออกในแต่ละปีเพิ่มขึ้นตามไปด้วย โรคไข้เลือดออกสามารถเป็นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ มีความรุนแรงและอันตรายถึงชีวิตหากเข้ารับการรักษาล่าช้า ไข้เลือดออกไม่มียารักษาโดยเฉพาะ จึงเป็นการรักษาตามอาการ แต่ปัจจุบันมีวัคซีนที่จะมาช่วยลดอัตราการระบาดและลดความรุนแรงของโรคลงได้ 

โดยสามารถฉีดได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ที่มีอายุระหว่าง 4-60 ปี มีประสิทธิภาพในการป้องกันไข้เลือดออกจากทุกสายพันธุ์ ได้ 80.2% และป้องกันการนอนโรงพยาบาลได้  90.4% โดยสามารถฉีดได้ทั้งคนที่เคยและไม่เคยเป็นไข้เลือดออกมาก่อน โดยไม่ต้องตรวจภูมิคุ้มกันก่อนฉีด วัคซีนมีความปลอดภัย 

นอกจากนี้ วัคซีนไข้เลือดออกชนิดใหม่นี้ได้รับการรับรองให้ใช้ในกว่า 30 ประเทศทั่วโลก เช่น สหภาพยุโรป สหราชอาณาจักร บราซิล อาร์เจนติน่า โคลัมเบีย อินโดนีเซีย และไทย เป็นต้น

ทั้งนี้ ข้อมูลจำนวนผู้ป่วยไข้เลือดออกตลอดปี 2566 จากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่ามีจำนวนสะสมสูงถึง 147,412 รายและเสียชีวิตสะสม 161 รายตลอดปี และมีการรายงานข้อมูลล่าสุดว่า ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา พบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกแล้ว 8,197 ราย มากกว่าปี 2566 ถึง 1.9 เท่า (4,286 ราย) และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยพบผู้ป่วยสูงสุดในกลุ่มอายุ 5-14 ปี พบมากทางภาคใต้และภาคกลาง และมีรายงานผู้เสียชีวิตยืนยันแล้ว 13 ราย

โรงพยาบาลพญาไท 2 ผุด"ปักหมุดหยุดไข้เลือดออกปีมังกร"

อย่างไรก็ดี เพื่อเสริมสร้างความรู้และการป้องกันไข้เลือดออกให้แก่ประชาชน โรงพยาบาลพญาไท 2 จึงได้ดำเนินการจัดกิจกรรมปักหมุดหยุดไข้เลือดออกปีมังกร โดยมีการให้ความรู้เกี่ยวกับโรคไข้เลือดออกเพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงความรุนแรงของโรค รวมทั้งสร้างความรู้เกี่ยวกับวิธีป้องกันโรคไข้เลือดออก โดยเฉพาะการรับวัคซีนไข้เลือดออกเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน 

นายทศพร ศรีตุลา หรือหมอช้าง ระบุถึงดวงสุขภาพในปีมังกรนี้ว่า ในช่วงนี้มี 3 ราศีที่ต้องระวังและดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ คือราศีมังกร ราศีสิงห์ และราศีเมถุน เพราะมีโอกาสเจ็บป่วยไม่สบาย หรือมีเรื่องเจ็บตัวฟกช้ำดำเขียวได้ การไปกราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อเสริมดวงสุขภาพตามความเชื่อชาวจีน สามารถทำได้ตามสถานที่อย่างเช่น 1.ศาลเจ้าแม่กวนอิมมูลนิธิเทียนฟ้า อยู่ในมูลนิธิเทียนฟ้า ที่มีความเชื่อว่าผู้ที่มากราบไหว้มักมาขอพรให้หายจากการเจ็บป่วย 

,2.บรมครูหมอชีวกโกมารภัจจ์ โรงพยาบาลสงฆ์ ด้วยความที่ท่านเป็นหมอ เลยมีความเชื่อกันว่าการมาขอพรกับท่านจะช่วยดลบันดาลให้คนหายเจ็บไข้ ,3.หมอเทวดา วัดเล่งเน่ยยี่ เทพเจ้าแห่งการแพทย์ ที่ผู้คนมีความเชื่อกันว่าหากมากราบไหว้จะช่วยปัดเป่า ความเจ็บ ความป่วย 

"การดูแลสุขภาพทางกายก็เป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด หมั่นตรวจสุขภาพกับคุณหมอที่โรงพยาบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดูแลให้ตัวเองห่างไกลจากโรคที่ใกล้ตัวอย่างไข้เลือดออก  รวมไปถึงการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันด้วยการฉีดวัคซีนก็เป็นอีกทางหนึ่งของการดูแลสุขภาพตนเอง”

นายภาณุภัทร์ สุกัลยารักษ์ อินฟลูเอนเซอร์สายท่องเที่ยวจากเพจ Go Went Go กล่าวว่า การเดินทางบ่อยทำให้ต้องเตรียมพร้อมทางร่างกายอย่างเสมอเพราะไม่ต้องการพลาดทริปที่วางแผนไว้แล้ว ส่วนตัวจึงเป็นคนที่ดูแลสุขภาพและให้ความสำคัญกับการสร้างภูมิคุ้มกัน ที่ผ่านมาจะระวังกับโควิด-19 หรือไข้หวัดใหญ่ แต่ไข้เลือดออกก็ใกล้ตัวเช่นกัน ซึ่งโรคดังกล่าวนี้สามารถป้องกันได้ด้วยการเฝ้าระวังและการสร้างภูมิคุ้มกันอย่างการฉีดวัคซีน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับใครหลาย ๆ คนที่ต้องการป้องกันตัวเองจากโรคนี้