30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียวเฟส 2 อีก 8 จังหวัด เริ่มมี.ค.นี้

20 ก.พ. 2567 | 11:15 น.

นายกฯ ย้ำความสำเร็จโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว เร่งเดินหน้าต่อระยะที่ 2 เพิ่มอีก 8 จังหวัด ตั้งเป้าคิกออฟเดือนมีนาคม 2567 พร้อมขยายผลทั่วประเทศภายใน 1 ปี

20 กุมภาพันธ์ 2567 นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เผยถึงผลความสำเร็จกระแสตอบรับที่ดีมากจากโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ระยะที่ 1 ใน 4 จังหวัดนำร่อง ได้แก่ แพร่ ร้อยเอ็ด เพชรบุรี และนราธิวาส พบว่า ประชาชนพึงพอใจในการเข้าถึงบริการได้ง่ายขึ้น

โดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สั่งเร่งเดินหน้าโครงการฯ ระยะที่ 2 ใน 8 จังหวัดเพิ่มเติม ได้แก่ เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ สิงห์บุรี สระแก้ว หนองบัวลำภู นครราชสีมา อำนาจเจริญ และพังงา

ตั้งเป้า Kick off เดือนมีนาคม 2567 พร้อมเตรียมขยายผลทั่วประเทศภายใน 1 ปี เพื่อขยายการอำนวยความสะดวกให้ประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำ ให้คนไทยเข้าถึงการรักษาพยาบาลได้เท่าเทียม

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ขานรับตามนโยบายนายกรัฐมนตรีเพื่อประโยชน์พี่น้องคนไทย ได้ยกระดับนโยบาย "30 บาทรักษาทุกโรค" สู่ "30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว" โดยนำร่อง Kick off ระยะที่ 1 เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2567 ใน 4 จังหวัด ได้แก่ แพร่ ร้อยเอ็ด เพชรบุรี และนราธิวาส

ทั้งนี้ 1 เดือนของการดำเนินโครงการ พบว่า ได้รับกระแสตอบรับที่ดีอย่างมาก ประชาชนพึงพอใจการรับบริการ เนื่องจากสามารถเข้าถึงบริการได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะการส่งยาที่บ้าน ซึ่งมีการรับบริการถึง 2,288 ครั้ง การนัดหมายออนไลน์ 1,693 ครั้ง และการทำ Telemedicine 1,388 ครั้ง 

นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้มารับบริการโดยไม่ใช้ใบส่งตัวที่โรงพยาบาลจังหวัดทั้ง 4 แห่ง เพิ่มขึ้นประมาณ 3 % ซึ่งอยู่ในระดับที่โรงพยาบาลรองรับการให้บริการได้ ทั้งยังช่วยลดภาระงานของบุคลากรทางการแพทย์ โดยเฉพาะงานด้านเอกสาร จากการเชื่อมโยงประวัติสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์ส่วนบุคคล (PHR) นับเป็นความสำเร็จก้าวแรกในการสนับสนุนนโยบายนี้ของรัฐบาล

จากความสำเร็จดังกล่าว รัฐบาลเร่งเดินหน้าโครงการฯ ระยะที่ 2 เพิ่มเติมใน 8 จังหวัด ได้แก่ เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ สิงห์บุรี สระแก้ว หนองบัวลำภู นครราชสีมา อำนาจเจริญ และพังงา ตั้งเป้า Kick off ในเดือนมีนาคม 2567 

"นายกฯ มุ่งมั่นลดความเหลือมล้ำ สนับสนุนประชาชนให้เข้าถึงบริการสาธารณสุข ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลที่ทันสมัย และเป็นการพัฒนาระบบบริการสาธารณสุขของประเทศให้มีคุณภาพ เชื่อมั่นว่า นโยบายประกันสุขภาพ 30 บาท เป็นนโยบายที่เห็นผลจริงได้ประโยชน์ถึงประชาชน

พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณความร่วมแรง ร่วมใจ จากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ด้วยเชื่อว่าหากพี่น้องคนไทยสุขภาพแข็งแรง และมีคุณภาพชีวิตที่ดี จะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศต่อไป" นายชัย โฆษกรัฐบาล กล่าว