ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ โรงพยาบาลรามาธิบดี เปิดเผยข้อมูลผ่านเฟซบุ๊กเกี่ยวกับสาเหตุที่ องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ให้ความสนใจและเกาะติดสถานการณ์ของ โอมิครอนสายพันธุ์ใหม่ BA.2.86 นี้อย่างต่อเนื่อง
ทำไมโอมิครอนสายพันธุ์ใหม่ BA.2.86 หรือ "พิโรลา (Pirola)" ที่ขณะนี้พบใน 4 ประเทศและสามารถถอดรหัสพันธุกรรมไวรัสทั้งจีโนมได้เพียง 6 ตัวอย่าง แต่ทั้งองค์การอนามัยโลกและกรมควบคุมโรคสหรัฐอเมริกากลับให้ความสนใจเป็นอย่างมาก
ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ.รามธิบดี เริ่มพัฒนาชุดตรวจโอมิครอน 3 สายพันธุ์ BA.2.86, EG.5 (XBB.1.9.2.5) และ FL.1.5.1 (XBB.1.9.1.1.5.1) ด้วยเทคโนโลยี "MassArray Genotyping" ให้แล้วเสร็จในสองสัปดาห์ สามารถตรวจจับไวรัส "สามสายพันธุ์" จากสวอปส่งตรวจภายในเวลา 48 ชั่วโมง
-เชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ BA.2.86 ถูกตั้งชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่า "พิโรลา (Pirola)" ตามชื่อดาวเคราะห์น้อยขนาดใหญ่ที่โคจรรอบดาวอังคารและดาวพฤหัสบดี BA.2.86
ขณะนี้ยังพบใน 4 ประเทศ คือ เดนมาร์ก อิสราเอล อังกฤษ และ สหรัฐอเมริกา จากการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมและแชร์ไว้บนฐานข้อมูลโควิดโลก "จีเสส (GISAID)" พบเพียง 6 ตัวอย่าง
แต่ที่น่ากังวลเพราะพบการเปลี่ยนแปลงกรดอะมิโนไปมากกว่า 30 ตำแหน่งบนส่วนหนาม เมื่อเทียบกับ "บรรพบุรุษโอมิครอน" เช่น BA.1 และ BA.2 ที่ทำให้มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตมากเป็นอันดับสองรองมาจากสายพันธุ์เดลตา
องค์การอนามัยโลกแบ่งประเภทสายพันธุ์ของโควิด-19 เป็น 3 ระดับ
• โควิด-19 สายพันธุ์ที่ชาติสมาชิกควรติดตาม (ห่างๆ) หรือ Variant Under Monitoring (VUM)
• โควิด-19 สายพันธุ์ที่ชาติสมาชิกควรให้ความสนใจติดตามอย่างใกล้ชิด หรือ Variant of Interest (VOI)
• โควิด-19 สายพันธุ์ที่ชาติสมาชิกควรกังวลและเตรียมพร้อมรับมือการระบาดในวงกว้าง หรือ Variant of Concern (VOC)
โดยโอมิครอน BA.2.86 จัดอยู่ใน Variant Under Monitoring (VUM) หรือสายพันธุ์ที่ควรติดตามแต่ยังไม่ต้องกังวลหรือตระหนก
ขณะนี้องค์การอนามัยโลกกำลังจับตาดูเชื้อโควิด 10 สายพันธุ์ โดย 7 สายพันธุ์เป็นโควิด-19 สายพันธุ์ที่ชาติสมาชิกควรติดตาม (VUM) ได้แก่
อีก 3 สายพันธุ์ที่ชาติสมาชิกควรให้ความสนใจติดตามอย่างใกล้ชิด (VOI)
-ทางองค์การอนามัยโลกจัดให้ โอมิครอน BA.2.86 เป็นสายพันธุ์ที่ควรเฝ้าติดตาม (VUM) เพราะมีการกลายพันธุ์มากที่สุดในกลุ่มโอมิครอนเมื่อเทียบกับต้นตระกูล เช่น BA.1 และ BA.2 โดยเฉพาะในส่วนหนามที่คาดว่า จะเพิ่มศักยภาพในการแพร่เชื้อและหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันได้ดียิ่งขึ้น แต่คาดว่าไม่น่าจะก่อให้เกิดการติดเชื้อรุนแรงมากไปกว่าโอมิครอนสายพันธุ์อื่นอย่างมีนัยสำคัญ
BA.2.86 มีการกลายพันธุ์ส่วนหนามต่างไปจาก BA.2 จำนวนถึง 32 ตำแหน่งในขณะที่ EG.5.1 และ FL.1.5.1 มีการกลายพันธุ์ส่วนหนามต่างไปจาก BA.2 เพียง 14 และ 15 ตำแหน่งตามลำดับ
-แม้ว่าล่าสุดจะสามารถถอดรหัสพันุกรรมโอมิครอน BA.2.86 ได้เพียง 6 ตัวอย่างจาก 4 ประเทศและแชร์ไว้บนฐานข้อมูลโควิดโลก "จีเสส (GISAID)"
แต่นักระบาดวิทยามีความกังวลว่า BA.2.86 อาจแพร่ระบาดไปทั่วโลกแล้วมากกว่าทีมีรายงานในจีเสส เพราะการตรวจโควิด-19 ด้วยเทคนิค PCR และการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมจากหน่วยงานสาธารณสุขทั่วโลกลดลงอย่างมากที่เราเห็นอาจเป็นเพียงยอดภูเขาน้ำแข็งในมหาสมุทรที่โผล่เพียงส่วนยอดแหลมขึ้นมาเหนือผิวน้ำเท่านั้น (The Tip Of The Iceberg)
-ยังเร็วเกินไปที่จะระบุความรุนแรงของการเจ็บป่วยที่เกิดจากโอมิครอน BA.2.86 แต่คาดว่า จะหลบเลี่ยงแอนติบอดีที่คนส่วนใหญ่ได้รับจากการติดเชื้อและการฉีดวัคซีนครั้งก่อนๆได้ดี
โควิด-19 สายพันธุ์อื่น:
-EG.5 (XBB.1.9.2.5) และ FL.1.5.1 (XBB.1.9.1.1.5.1)เป็นสายพันธุ์ที่มีการกลายพันธุ์ต่างไปจากโอมิครอนสายพันธุ์ดั้งเดิมไม่มากแต่พบความชุกเพิ่มมากขึ้น
ต่างจาก BA.2.86 ที่มีการกลายพันธุ์ต่างไปจากโอมิครอนบรรพบุรุษอย่างมาก จึงต้องมีการติดตามอย่างใกล้ชิดเนื่องจากมีความเสี่ยงที่อาจเกิดการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วและหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันได้ดีขึ้น
วัคซีนป้องกันโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่:
-องค์การอาหารและยาประเทศสหรัฐอเมริการะบุว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 เวอร์ชันใหม่ที่มีส่วนประกอบของโอมิครอน XBB.1.5 เป็นวัคซีนโมโนวาเลนต์ซึ่งคาดว่า สามารถฉีดให้กับประชาชนสหรัฐได้ในปลายเดือนกันยายน พ.ศ. 2566
ผลการทดสอบและประสิทธิภาพของวัคซีนรุ่นใหม่สามารถป้องกันโอครอน EG.5.1 และ FL.1.5.1 ได้ดี แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าวัคซีนรุ่นใหม่จะมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อรุนแรงจากโอมิครอน BA.2.86 ได้ในระดับใด
-ปัจจุบัน อย. สหรัฐยังไม่เห็นความจำเป็นต้องเปลี่ยนสูตรวัคซีนป้องกันโควิดจากโอมิครอน XBB.1.15 ไปเป็นสายพันธุ์ที่ระบาดล่าสุดแต่อย่างใด
-องค์การอนามัยโลกตัดสินใจกำหนดการเรียกชื่อโควิด-19 เฉพาะสายพันธุ์ที่ชาติสมาชิกควรกังวลและเตรียมพร้อมรับมือการระบาดในวงกว้าง หรือ Variant of Concern (VOC) ด้วยอักษรกรีก โดยหากพบว่า BA.2.86 มีการแพร่ระบาดและติดเชื้อรุนแรง ทางองค์การอนามัยโลกอาจปรับไปเรียกชื่อสายพันธุ์นี้ว่า พาย (Pi) หรือ โร (Rho) แทน
-แต่ขณะนี้การติดเชื้อโอมิครอน BA.2.86 ยังไม่แสดงให้เห็นถึงการแพร่ระบาดและการติดเชื้อรุนแรง มีผู้เจ็บป่วยหรือเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับโอมิครอนสายพันธุ์อื่น นักวิทยาศาสตร์จึงเรียกชื่อเพื่อให้คนทั่วไปเข้าใจได้ง่ายโดยใช้ชื่อกลุ่มดาว ดวงดาว ดวงจันทร์ ดาวเคราะห์น้อย และดาวเคราะห์นอกระบบ ไปก่อน
โอมิครอน BA.2.86 จึงมีชื่อเรียกอย่างไม่เป็นทางการว่า "พิโรลา (Pirola)" ตามชื่อดาวเคราะห์น้อยขนาดใหญ่ที่โคจรรอบดาวอังคารและดาวพฤหัสบดี