ทำงานจากบ้าน ทำให้ “มิตรภาพที่ทำงาน” ห่างหายจริงหรือ

24 มี.ค. 2566 | 03:48 น.

แม้ว่าการทำงานจากที่บ้าน หรือการ Work from Home จะมีประโยชน์มากมายโดยเฉพาะในช่วงเวลาที่มีความเข้มงวดในการป้องกันการแพร่กระจายของโรคระบาด แต่อีกด้านของเหรียญก็มีสิ่งตรงข้ามเสมอ เช่น ปัญหาเกี่ยวกับ“มิตรภาพ” ในที่ทำงาน

 

จากข้อมูล การสำรวจความคิดเห็นของแกลลัป (Gallup) ที่จัดทำในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา (2022) พบว่า การทำงานจากที่บ้าน หรือการที่ไม่ได้เข้าไปทำงานในออฟฟิศนั้น อาจจะทำให้ การสร้างมิตรภาพกับเพื่อนร่วมงาน กลายเป็นเรื่องยากเย็นมากขึ้น โดยในสหรัฐอเมริกามีพนักงานเพียง 2 คนจากทุก ๆ 10 คนเท่านั้น ที่บอกว่ามี “เพื่อนสนิท” ในที่ทำงาน

นายจิม ฮาร์เทอร์ นักวิจัยด้านสถานที่ทำงานและชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของแกลลัปเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ว่า โดยทั่วไปแล้วคนหนุ่มสาวมีความรู้สึกว่า

  • ขาดการเชื่อมต่อกับที่ทำงานของตนมากกว่าคนกลุ่มอื่น ๆ
  • และหากคนหนุ่มสาวมีความ “เชื่อมต่อกับที่ทำงานน้อยลง” พวกเขาก็รู้สึกว่า ความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมงานก็จะลดน้อยลง
  • ในขณะเดียวกัน ก็อาจจะเป็นเรื่องยากที่จะพัฒนามิตรภาพแบบที่พวกเขาอาจจะเคยมีมาในอดีต
  • นอกจากนี้ ระดับความไว้วางใจในหมู่เพื่อนร่วมงานก็มีความแตกต่างกัน พวกเขาคิดว่า การสร้างความสัมพันธ์แบบใกล้ชิดในขณะที่ตัวอยู่ห่างไกลกันนั้น ก็เป็นเรื่องยากด้วย

มิตรภาพในที่ทำงานช่วยพนักงานหลายคนในเรื่องการให้ความสนับสนุนทางสังคมและทางอารมณ์

คริสตัล พาวเวอร์ส ผู้จัดการฝ่ายเวชระเบียน ในรัฐวิสคอนซิน ซึ่งเริ่มทำงานจากที่บ้านเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว (2022) เป็นผู้จัดการคนเดียวที่ได้รับการว่าจ้างตั้งแต่เกิดโรคโควิดระบาด โดยเธอมีหน้าที่ดูแลบรรดาพนักงานที่ทำงานแบบเต็มเวลาที่ไม่ได้มาทำงานในออฟฟิศ (หรือพวกที่ทำงานแบบทางไกลนั่นเอง) เธอมีความเห็นว่า การสร้างทีมเป็นเรื่องยาก เพราะเธอยังไม่ได้พบกับพนักงาน 2 ใน 5 คนที่อยู่ภายใต้การดูแลของเธอเลย

ท่ามกลางสถานการณ์แบบนี้ พาวเวอร์สคิดว่า การที่จะทำให้พนักงานไว้วางใจในตัวของเธอในฐานะหัวหน้างานนั้น เป็นเรื่องที่ท้าทายกว่าที่เคยเป็นมา เพราะคนเหล่านั้นยังไม่รู้จักเธอจริง ๆ

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่า การติดต่อกับผู้จัดการคนอื่น ๆ ทางออนไลน์จะเป็นเรื่องที่ยาก แต่เธอก็ยังชอบทำงานแบบทางไกลอยู่ดี

ฮาร์เทอร์จากแกลลัปให้ความเห็นว่า การมีเพื่อนสนิทในที่ทำงานกลายเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากยิ่งขึ้นนับตั้งแต่มีการเพิ่มขึ้นของการจ้างงานให้ทำแบบทางไกล และแบบผสมผสาน ซึ่งก็คือ มีการทำงานทั้งจากที่บ้านและในที่ทำงาน

การสำรวจครั้งล่าสุดของแกลลัปพบว่า ในช่วงที่เกิดโรคระบาดใหญ่โควิด-19 นั้น มิตรภาพในที่ทำงานช่วยพนักงานหลายคนในเรื่องการให้ความสนับสนุนทางสังคมและทางอารมณ์ในช่วงเวลาวิกฤต โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับบรรดาผู้ปกครอง นักการศึกษา และผู้ปฏิบัติงานอยู่ในแนวหน้า

พนักงานที่มีเพื่อนสนิทในที่ทำงาน มีแนวโน้มที่จะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าและเพื่อนร่วมงาน

นอกจากมิตรภาพในที่ทำงานจะให้ประโยชน์แก่พนักงานแล้ว ยังส่งผลดีต่อบรรดานายจ้างอีกด้วย โดยการวิจัยของแกลลัป แสดงให้เห็นว่า

  • พนักงานที่มีเพื่อนสนิทในที่ทำงานมีแนวโน้มที่จะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าและเพื่อนร่วมงาน
  • พวกเขาสามารถทำงานได้มากขึ้นโดยใช้เวลาน้อยลง
  • ช่วยให้ที่ทำงานมีความปลอดภัยและเกิดอุบัติเหตุน้อยลง
  • และยังสามารถสร้างสรรค์และแบ่งปันความคิดให้กับคนอื่น ๆ อีกด้วย

จอห์นนี ซี เทย์เลอร์ จูเนียร์ ประธานและผู้บริหารของ Society for Human Resource Management กล่าวว่า มีสิ่งดี ๆ มากมายมาจากมิตรภาพในที่ทำงาน อย่างเช่น การที่บริษัทสามารถการรักษาพนักงานที่ดีเอาไว้ และยังช่วยให้เกิดความสงบสุขในที่ทำงาน และว่า เพื่อนในที่ทำงานจะช่วยให้ใจเย็นลงได้เมื่อเกิดความขัดแย้งกัน

เขากล่าวด้วยว่า บริษัทต่างๆ ได้หันมาสนับสนุนมิตรภาพในที่ทำงานอย่างจริงจัง ขณะที่องค์กรของเขาเองซึ่งมีพนักงานเกือบ 500 คนทั่วโลก มีการดำเนินโครงการหลายโครงการ โดยหนึ่งในนั้นคือ การทำให้ผู้คนมารวมตัวกันให้ได้ อย่างเช่น การที่องค์กรจะซื้ออาหารกลางวันสำหรับพนักงานที่เชิญพนักงานใหม่มาร่วมทานอาหารด้วย

เทย์เลอร์ จูเนียร์ กล่าวสรุปปิดท้ายว่า องค์กรของเขาพยายามนำคนที่มีประสบการณ์ชีวิต ภูมิหลัง และอื่น ๆ ที่แตกต่างกันมาอยู่รวมกัน โดยมีแนวคิดคือ การลองทานอาหารกลางวันกับคนแปลกหน้า แล้วทำให้พวกเขากลายมาเป็นเพื่อนกัน เป็นต้น

 

ข้อมูลอ้างอิง