หลายคู่ที่มีบุตรยากกำลังสงสัยว่าทำไมพวกเขาถึงมีปัญหาในการตั้งครรภ์ การศึกษาใหม่เปิดเผยสาเหตุหนึ่งที่เป็นไปได้หลังจากพบว่าผู้หญิงที่มี PFAS หรือที่เรียกว่า "สารเคมีตลอดกาล" ในเลือดอาจประสบปัญหาในการตั้งครรภ์
“ข้อมูลของเราแสดงทำให้เห็นว่าผู้ที่อาจได้รับ PFAS บางชนิด มีโอกาสตั้งครรภ์ลดลงประมาณ 40% เป็นเวลา 1 ปี” ดร. Damaskini Valvi ผู้เขียนการศึกษาใน Science of the Total Environment และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านเวชศาสตร์สิ่งแวดล้อมและสาธารณสุขที่ Icahn School of Medicine กล่าว
สำหรับการศึกษานี้ ได้เก็บตัวอย่างเลือดจากผู้หญิง 382 คน อายุระหว่าง 18 ถึง 40 ปี ที่พยายามจะตั้งครรภ์ นักวิจัยได้ตรวจสอบระดับของ PFAS ในเลือดและโอกาสที่จะตั้งครรภ์ภายในหนึ่งปี พบว่ามีบุตรยากหลังจากพยายามตั้งครรภ์ด้วยวิธีธรรมชาติเป็นเวลาหนึ่งปีและไม่ประสบผลสำเร็จ ผู้เข้าร่วมการศึกษาที่มี PFAS ในเลือดมีช่วงเวลาที่ยากลำบากในการตั้งครรภ์
การศึกษาอื่น ๆ เชื่อมโยงการสัมผัส PFAS สูงกับ พบความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นสำหรับมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งไตและอัณฑะ คอเลสเตอรอลและความดันโลหิตเพิ่มขึ้น และโรคตับเรื้อรัง นอกจากนี้ยังเกี่ยวข้องกับกลุ่มอาการถุงน้ำรังไข่หลายใบ ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่เป็นที่รู้จักสำหรับภาวะมีบุตรยากในสตรี การศึกษาแสดงให้เห็นว่า PFAS สามารถเปลี่ยนฮอร์โมนการเจริญพันธุ์ได้ เเต่ก็จำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อทำความเข้าใจว่า PFAS อาจส่งผลต่อภาวะเจริญพันธุ์ของสตรีในสหรัฐฯ อย่างไร
สารเคมีตลอดกาลคืออะไร?
ข้อมูลจาก sdgmove ระบุว่า PFAS เป็นสารเคมีประเภทหนึ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น ซึ่งไม่สลายตัวง่ายในธรรมชาติหรือในเนื้อเยื่อของสิ่งมีชีวิต ถูกค้นพบในปี 1938 เป็นกลุ่มสารเคมีขนาดใหญ่ที่ใช้แพร่หลายในเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม มีความเสถียร ทำให้ค่อย ๆ สะสม คงอยู่ในสภาพแวดล้อมเป็นเวลานานร้อยปี
กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ และหน่วยงานจัดการด้านเคมีของสหภาพยุโรป (European Chemicals Agency – ECHA) เผยว่าผลพวงของการใช้โฟมดับเพลิงซึ่งมีส่วนประกอบของสารเคมี PFAS ทำให้ปนเปื้อนน้ำดื่มและน้ำบาดาล ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของคนและความหลากหลายทางชีวภาพได้ในระยะยาว
ข้อมูลปี 2559 พบว่าญี่ปุ่น ระบุว่าการปนเปื้อนของสารเคมี PFAS ในแม่น้ำมาจากที่ใกล้กับฐานทัพสหรัฐฯ จึงได้มีการตรวจเลือดของผู้อยู่อาศัยจนพบว่ามีการปนเปื้อนสารเคมีดังกล่าวในเลือดมากกว่าคนญี่ปุ่นในที่อื่นถึง 4 เท่า
นอกจากนี้ยังพบ สาร PFAS ในของใช้ในบ้านหลากหลายประเภท เช่น เครื่องครัว เสื้อผ้า บรรจุภัณฑ์อาหาร เครื่องสำอาง เฟอร์นิเจอร์ สารเหล่านี้มักจะถูกนำไปใช้ทำสารเคลือบผิวและการใช้งานอื่นๆ
นักวิจัยเเนะนำว่าหากกังวลเกี่ยวกับภาวะเจริญพันธุ์และการสัมผัส PFAS ให้ใช้ เครื่องกรองน้ำที่ผ่านการรับรองซึ่งกำจัด PFAS หลีกเลี่ยงซื้อกลับบ้านและอาหารจานด่วน เนื่องจาก PFAS สามารถพบได้ในภาชนะ โดยใช้กระทะสแตนเลส หลีกเลี่ยงคราบสกปรกและน้ำ
"เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงการสัมผัสนั้นได้โดยสิ้นเชิง สิ่งที่เราต้องการจริง ๆ เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาที่ใหญ่กว่าได้อย่างมีประสิทธิภาพคือ การได้รับกฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้นซึ่งห้ามการมี PFAS ในผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคและในน้ำดื่มในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก”