12 ธันวาคม 2568 นพ.เอกชัย เพียรศรีวัชรา รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังการประชุมติดตามสถานการณ์และเตรียมความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งมี นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมว่า
ขณะนี้โรงพยาบาลในพื้นที่เสี่ยง 7 จังหวัด ยังปิดบริการ 12 แห่งเท่าเดิม
จังหวัดอุบลราชธานี
จังหวัดศรีสะเกษ
จังหวัดสุรินทร์
จังหวัดสระแก้ว
จังหวัดบุรีรัมย์
มีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยในไปยังโรงพยาบาลในพื้นที่ปลอดภัยเพิ่มขึ้นเป็น 668 ราย ส่วน รพ.สต. ปิดชั่วคราว เพิ่มขึ้นเป็น 205 แห่ง โดยมีการจัดตั้งรพ.สนามเพิ่มอีก 1 แห่งเพื่อดูแลประชาชนที่อพยพใน จ.บุรีรัมย์
สำหรับศูนย์พักพิงขณะนี้มีการเปิดเพิ่มขึ้นเป็น 961 จุด ผู้เข้าพักรวม 259,121 คน เป็นกลุ่มเปราะบาง 51,658 คน ได้จัดเจ้าหน้าที่สับเปลี่ยนหมุนเวียนดูแลในศูนย์พักพิง 5,504 คน รวมทั้งเขตสุขภาพที่ 9 และกรมการแพทย์ ยังได้สนับสนุนทีมปฏิบัติการด้านสุขภาพลงพื้นที่เพิ่มเติม
ภาพรวมมีทีมปฏิบัติการฉุกเฉินทางการแพทย์ (MERT/Mini-MERT) 50 ทีม ทีมปฏิบัติการแพทย์ฉุกเฉินระดับสูง (ALS) 57 ทีม ทีมปฏิบัติการสอบสวนควบคุมโรค 116 ทีม ทีมปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินและสาธารณภัยด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม 86 ทีม และทีมช่วยเหลือทางด้านจิตใจผู้ประสบภาวะวิกฤต 93 ทีม
จากสถานการณ์ที่ดำเนินมาต่อเนื่องหลายวันส่งผลให้ประชาชนเกิดความเครียดได้มากขึ้น โดยจากการคัดกรองสุขภาพจิต 60,627 ราย พบเครียดสูงและเสี่ยงทำร้ายตนเองรวม 886 ราย ได้ให้การปฐมพยาบาลทางจิตใจและส่งเข้ารับการดูแลตามกระบวนการ
ที่ประชุมจึงมีข้อสั่งการให้มีการติดตามสุขภาพจิตทั้งประชาชนและบุคลากรที่ปฏิบัติงานอย่างใกล้ชิด รวมทั้งให้เฝ้าระวัง 5 กลุ่มโรคสำคัญที่มีความเสี่ยงเกิดการแพร่ระบาดในศูนย์พักพิงจากการที่มีประชาชนอยู่รวมกันจำนวนมาก ได้แก่ โรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ โรคติดเชื้อระบบทางเดินอาหาร โรคติดเชื้อนำโดยแมลง โรคติดเชื้อจากการสัมผัส และกลุ่มอาการบาดเจ็บ