11 ธันวาคม 2568 พญ.หทัยทิพย์ ธรรมวิริยะกุล ผู้อำนวยการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เขต 12 สงขลา เปิดเผยว่า พื้นที่หาดใหญ่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคไข้ฉี่หนูหลังน้ำลดเนื่องจากประชาชนจำนวนมากต้องสัมผัสน้ำท่วมและโคลนปนเปื้อน
สปสช.ได้ร่วมสนับสนุนหน่วยบริการในพื้นที่ให้สามารถจัดบริการดูแลประชาชนตามสิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพได้อย่างต่อเนื่อง ภายใต้สิทธิประโยชน์ดังกล่าว หน่วยบริการสามารถให้คำแนะนำด้านการป้องกันโรคจ่ายยา Doxycycline (ด็อกซีไซคลิน) เพื่อป้องกันโรคไข้ฉี่หนูในกลุ่มเสี่ยงและให้การรักษาผู้ที่เริ่มมีอาการได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
ขณะเดียวกันประชาชนที่มีบาดแผลจากการสัมผัสน้ำท่วม สามารถเข้ารับวัคซีนป้องกันบาดทะยักได้ฟรี เนื่องจากเป็นวัคซีนพื้นฐานที่ครอบคลุมอยู่ในชุดสิทธิประโยชน์บัตรทองเช่นกัน
ทั้งนี้ สปสช. เขต 12 สงขลา ได้ร่วมกับหน่วยบริการและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าไปรณรงค์ให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันโรคไข้ฉี่หนูอย่างเข้มข้นโดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงผู้ที่ลุยน้ำท่วมหรือลุยโคลนที่ปนเปื้อนจากน้ำท่วม ผู้ที่มีบาดแผลและสัมผัสน้ำหรือโคลน
ผู้ที่มีน้ำท่วมเข้าตา จมูก ปาก หรือมีการกลืน/สำลักน้ำท่วมเข้าไปแต่ยังไม่มีอาการป่วยให้ไปรับยา Doxycycline (ด็อกซีไซคลิน) ซึ่งอยู่ในชุดสิทธิประโยชน์บัตรทองได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อป้องกันโรคไข้ฉี่หนูโดยให้ทานยานี้ทันที 2 เม็ดจำนวน 1 ครั้ง ผู้ประสบภัยทุกสิทธิการรักษาสามารถเข้ารับบริการได้ทั้งจากหน่วยแพทย์เคลื่อนที่หน่วยบริการ และเครือข่ายหน่วยนวัตกรรม ร้านยา และคลินิกเวชกรรม
ส่วนกลุ่มที่มีอาการ ไข้สูงทันทีทันใด ปวดศีรษะ ปวดตามกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะบริเวณน่อง ให้รีบพบแพทย์ทันทีและแจ้งประวัติการเดินลุยน้ำย่ำโคลน หรือการสัมผัสน้ำท่วมเพื่อเข้าสู่กระบวนการรักษาและรับยา Doxycycline ติดต่อกันเป็นเวลา 7 วัน
"ขอให้ประชาชน ตระหนักในเรื่องความเสี่ยงการสัมผัสโรคฉี่หนูเพราะทุกคนลุยน้ำ ถ้ามีบาดแผลไม่ว่าจะแผลเล็กหรือแผลใหญ่ถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงแล้ว ขอให้ติดต่อเข้ารับบริการเพื่อเข้าถึงยา Doxycycline ซึ่งขอรับได้ฟรีตามสิทธิบัตรทอง" พญ.หทัยทิพย์ กล่าว
ขณะที่โรคบาดทะยักก็เป็นอีกความเสี่ยงที่ผู้ประสบภัยต้องเฝ้าระวังเช่นกันเนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่ครั้งนี้เป็นกระแสน้ำเชี่ยวหลากที่มาพร้อมกับสิ่งก่อสร้างและเศษวัสดุทำให้ประชาชนจำนวนมากได้รับบาดแผลจากเศษวัสดุ ไม้ สิ่งมีคมและสิ่งปนเปื้อนที่มากับน้ำท่วมอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโดยเฉพาะเชื้อบาดทะยักหากไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง
ดังนั้น ประชาชนที่มีบาดแผลควรรีบทำความสะอาดเฝ้าระวังอาการติดเชื้อ เช่น บวม แดง เจ็บ หรือมีหนอง พร้อมประเมินลักษณะแผล หากเป็นแผลลึก สกปรก มีเนื้อเยื่อตายให้รีบไปพบเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเพื่อตรวจประเมินอาการ
พร้อมแจ้งประวัติการได้รับวัคซีนบาดทะยักทุกครั้ง หากไม่มั่นใจว่าเคยได้รับครบ หรือไม่พบหลักฐานการฉีด ควรเข้ารับวัคซีนป้องกันบาดทะยักทันที ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย เนื่องจากเป็นวัคซีนพื้นฐานในชุดสิทธิประโยชน์บัตรทอง
รวมถึงให้ยาป้องกันโรคไข้ฉี่หนู และวัคซีนป้องกันบาดทะยัก ระหว่างวันที่ 9-12 ธันวาคมนี้ โดยวันที่ 9 ธันวาคมไปที่สำนักสงฆ์โตนดแสงทอง ม.6 วันที่ 11 ธันวาคม ไปมัสยิดทุ่งน้ำ ม.9 และวันที่ 12 ธันวาคมไปที่มัสยิดสำราญสุข ม.1