KEY
POINTS
19 พฤศจิกายน 2568 นายวรโชติ สุคนธ์ขจร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานพิธีเปิดงานรณรงค์วันส้วมโลก ประจำปี 2568 (World Toilet Day 2025) "Sanitation in a changing world : ส้วม HAS ยุคใหม่ ก้าวทันโลกที่เปลี่ยนไป สู่สุขอนามัยยั่งยืน" โดยมีพญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย นพ.โสภณ เมฆธน อดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุข ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข และภาคีเครือข่ายส้วมสาธารณะ ร่วมงาน
นายวรโชติ รมช.สาธารณสุข เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุข ตระหนักดีว่า ส้วมและระบบสุขาภิบาลเป็นสิ่งจำเป็นพื้นฐานการดูแลให้ประชาชนทุกคนเข้าถึงส้วมที่สะอาด ถูกสุขลักษณะจึงไม่ใช่เพียงเรื่องของความสะดวกสบายแต่คือสิทธิขั้นพื้นฐานในการปกป้องสุขภาพ การพัฒนาคุณภาพชีวิต และโอกาสของคนทุกคนอย่างเท่าเทียม
การพัฒนาส้วมสาธารณะจึงเป็นเรื่องสำคัญแม้ว่าที่ผ่านมาจะมีผลการดำเนินงานก้าวหน้าไปมากแต่ยังคงต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่องและครอบคลุม โดยเฉพาะอย่างยิ่งส้วมในศาสนสถาน สถานศึกษา และโรงพยาบาลซึ่งมีกลุ่มคนที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นเด็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วย
ด้านพญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ปัจจุบันครัวเรือนไทยมีส้วมครอบคลุมกว่า ร้อยละ 99.8 แต่ขณะเดียวกันส้วมสาธารณะที่ให้บริการของประชาชนยังต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
กรมอนามัยได้ขับเคลื่อนการพัฒนาส้วมสาธารณะได้มาตรฐาน สะอาด เพียงพอ ปลอดภัย หรือมาตรฐาน HAS (Health Accessibility Safety) อย่างต่อเนื่องโดยมุ่งพัฒนาในสถานที่ 12 ประเภท ได้แก่
ในปี 2567-2568 กรมอนามัยประเมินมาตรฐานส้วมสาธารณะมากกว่า 14,000 แห่ง พบว่า สถานที่ที่มีการพัฒนาส้วมสาธารณะได้มาตรฐาน HAS จำนวนมาก ได้แก่ ห้างสรรพสินค้า สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง ขณะเดียวกันส้วมศาสนสถาน สถานศึกษา ยังมีข้อจำกัดและต้องได้รับการพัฒนาให้ครอบคลุมเพิ่มมากขึ้น
นายแพทย์นเรศฤทธิ์ ขัดธะสีมา รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวเพิ่มเติมว่า วันที่ 19 พฤศจิกายนของทุกปี สหประชาชาติกำหนดให้เป็น "วันส้วมโลก" กรมอนามัย เห็นความสำคัญของการพัฒนาส้วมและระบบสุขาภิบาลเพื่อสุขอนามัยที่ดีของทุกคน จึงกำหนดให้มีการณรงค์วันวันส้วมโลก ประจำปี 2568
ภายใต้หัวข้อ "Sanitation in a changing world : ส้วม HAS ยุคใหม่ ก้าวทันโลกที่เปลี่ยนไป สู่สุขอนามัยยั่งยืน" เพื่อกระตุ้นเตือนให้ทุกภาคส่วนเห็นความสำคัญของการจัดการส้วมและสุขาภิบาล ภายใต้สถานการณ์ของโลก ไม่ว่าจะเป็นความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น
รวมถึงการมีส้วมที่รองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เช่น น้ำท่วม ภัยพิบัติ ที่กระทบต่อส้วมและระบบสุขาภิบาล และที่สำคัญ ต้องมีการจัดการสิ่งปฏิกูลจากส้วมอย่างถูกต้องด้วย พร้อมกล่าวทิ้งท้ายว่า "ไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนไปอย่างไร เรายังต้องมีส้วมที่สะอาด ปลอดภัย เข้าถึงได้ สำหรับทุกคน เพื่อสุขอนามัยที่ดีอย่างยั่งยืน"