กทม. 10 เขตประกาศใช้ 'ธรรมนูญสุขภาพ' ปลดล็อกชุมชนบริหารตัวเอง

29 ก.ย. 2568 | 08:50 น.
อัปเดตล่าสุด :29 ก.ย. 2568 | 08:54 น.

สช. สานพลังภาคียุทธศาสตร์สุขภาพ-ศูนย์วิชาการสุขภาวะเขตเมือง-ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในพื้นที่เขตประกาศใช้ 'ธรรมนูญสุขภาพระดับเขต 10 เขต กทม.' ภายใต้กระบวนการการมีส่วนร่วมในการพัฒนา แก้ไขปัญหาสอดรับกับพื้นที่ตรงกับความต้องการของ ปชช.

KEY

POINTS

  • กรุงเทพมหานคร ประกาศใช้ "ธรรมนูญสุขภาพระดับเขต" ใน 10 เขตนำร่องเพื่อเป็นเครื่องมือให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการวางแผนและจัดการระบบสุขภาพของตนเอง
  • ธรรมนูญสุขภาพ ทำหน้าที่เป็นกรอบข้อตกลงร่วมกันของคนในพื้นที่เพื่อกำหนดเป้าหมายและแนวทางแก้ไขปัญหาสุขภาพที่สอดคล้องกับความต้องการของแต่ละชุมชนอย่างแท้จริง
  • เป้าหมายหลัก คือ การปลดล็อกให้ชุมชนสามารถบริหารจัดการตนเอง โดยเฉพาะการเข้าถึงและบริหารกองทุนสุขภาพได้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ นำไปสู่ความเข้มแข็งและยั่งยืน

29 กันยายน 2568  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กรุงเทพมหานคร (กทม.) และศูนย์วิชาการสุขภาวะเขตเมืองทั้ง 6 แห่ง จัดเวทีประกาศใช้ธรรมนูญสุขภาพระดับเขต พื้นที่กรุงเทพมหานคร 10 เขต ได้แก่ เขตราชเทวี เขตพญาไท เขตบางซื่อ เขตบางเขน เขตบางกะปิ เขตบางนา เขตบางพลัด เขตบางแค เขตภาษีเจริญ และเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย 

นายแพทย์สุนทร สุนทรชาติ รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การพัฒนาระบบสาธารณสุขในกรุงเทพมหานคร (กทม.) คือการเปลี่ยนแนวคิดจากการรักษาพยาบาลไปสู่การสร้างสุขภาพที่ดีในชุมชนภายใต้แนวคิด "One Health" ซึ่งเชื่อมโยงสุขภาพของคน  โรค และสิ่งแวดล้อมเข้าด้วยกัน หัวใจสำคัญของยุทธศาสตร์คือแนวคิด "One Health" หรือ "สุขภาพหนึ่งเดียว" ที่มองว่าสุขภาพไม่ได้จำกัดอยู่แค่การเจ็บป่วยและการรักษาในโรงพยาบาล แต่เชื่อมโยงกับทุกมิติของการใช้ชีวิตในเมือง

กทม. 10 เขตประกาศใช้ 'ธรรมนูญสุขภาพ' ปลดล็อกชุมชนบริหารตัวเอง

ในส่วนของ กทม. มีกรอบการทำงานหลัก คือ นโยบาย 32+ ของผู้ว่าฯ ชัชชาติ ซึ่งเป็นชุดนโยบายที่ครอบคลุมมิติสุขภาพในวงกว้าง และมีการปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมได้ตลอดเวลา และการผลักดันโครงการต่างๆ เช่น การจัดตั้งสวน 15 นาที และการยกระดับบริการปฐมภูมิ พร้อมทั้งได้ปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์การบริหารจัดการ จากการที่แพทย์หรือนักวิชาการเป็นผู้วางแผน มาเป็นการ "คว่ำลงมาในพื้นที่ชุมชน" เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการวางแผนระบบสุขภาพของตนเอง

"ธรรมนูญสุขภาพระดับเขต" จึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่สุดในการขับเคลื่อน ที่ถือเป็น "แผนสุขภาพของเขต" ที่เกิดจากการมีส่วนร่วมของคนในพื้นที่ ได้ร่วมกำหนดเป้าหมายและแนวทางการทำงานที่สอดคล้องกับปัญหาของแต่ละเขตที่ตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละพื้นที่อย่างแท้จริง นพ.สุนทร กล่าว

ด้านนายแพทย์เฉวตสรร นามวาท ผู้อํานวยการสํานักสนับสนุนการพัฒนาระบบสุขภาพ (สํานัก 7) สํานักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ กล่าวว่า การขับเคลื่อนสุขภาพในเขตเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรุงเทพมหานคร ซึ่งบทบาทในการส่งเสริมสุขภาวะผ่านนวัตกรรมและพลังเครือข่ายนั้นสำคัญ

กทม. 10 เขตประกาศใช้ 'ธรรมนูญสุขภาพ' ปลดล็อกชุมชนบริหารตัวเอง

รวมถึงการใช้ข้อมูลและหลักฐานเพื่อวัดผลลัพธ์ด้านสุขภาพที่แท้จริง ประกอบด้วยนโยบายสำคัญที่เน้นการลดปัจจัยเสี่ยงและเพิ่มปัจจัยที่ทำให้อายุยืนยาว ปัญหาสำคัญด้านสาธารณสุขอย่างโรคเบาหวานที่เป็นภาระหนักต่อระบบสุขภาพ ธรรมนูญสุขภาพจึงเป็นนวัตกรรมที่เป็นกรอบความร่วมมือและแนวทางปฏิบัติร่วมกันในชุมชน

บทบาทหลักของธรรมนูญสุขภาพคือการเป็น กรอบข้อตกลงร่วมกัน ของคนในพื้นที่ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาสุขภาพ ทั้งหมดนี้จะสำเร็จได้ด้วย "พลังเครือข่าย" จากทุกภาคส่วนที่ร่วมมือกันเพื่อเป้าหมายสุขภาวะที่ดีของคนในเมือง  นพ.เฉวตสรร กล่าว

กทม. 10 เขตประกาศใช้ 'ธรรมนูญสุขภาพ' ปลดล็อกชุมชนบริหารตัวเอง

นายเตชิต ชาวบางพรหม ผู้อํานวยการสํานักนโยบายสาธารณะเขตเมือง สช. กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) โดย สำนักนโยบายสาธารณะเขตเมือง (สชม.) ทำหน้าที่เป็น แกนหลักในการขับเคลื่อนและประสานงานในพื้นที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่ปี 2562 และเข้มข้นขึ้นในปี 2565 บทบาทหลักคือการออกแบบกระบวนการ, พัฒนาศักยภาพกลไกในพื้นที่และเชื่อมประสานภาคีเครือข่ายต่าง ๆ เข้าด้วยกันซึ่งการพัฒนากลไกนโยบายสาธารณะในพื้นที่เมืองนั้นต้องอาศัยการทำงานร่วมกันของภาคีเครือข่ายหลายภาคส่วนโดยมี สช. (สชม.) เป็นผู้ประสานงานหลัก, กทม. และ สสส. เป็นผู้สนับสนุนเชิงนโยบายและทรัพยากร, ภาควิชาการ เป็นพี่เลี้ยงในพื้นที่ และมี ชุมชน เป็นเจ้าของกระบวนการและผู้ลงมือปฏิบัติ เพื่อนำไปสู่การจัดการสุขภาพที่เข้มแข็งและยั่งยืนจากฐานราก

กทม. 10 เขตประกาศใช้ 'ธรรมนูญสุขภาพ' ปลดล็อกชุมชนบริหารตัวเอง

ดังนั้น การประกาศใช้ธรรมนูญสุขภาพ เปรียบเสมือนกุญแจดอกแรกที่ช่วยปลดล็อกให้ชุมชนสามารถเข้าถึงการบริหารจัดการกองทุนสุขภาพได้อย่างเป็นระบบ โดยเปลี่ยนจากเดิมที่อาจจะเข้าถึงได้ยาก ให้กลายเป็นกระบวนการที่มีแนวทางชัดเจน มีเป้าหมายในการใช้จ่ายงบประมาณอย่างเต็มประสิทธิภาพ และท้ายที่สุดคือการสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนสามารถจัดการสุขภาพ และระดมทรัพยากรได้ด้วยตนเองอย่างยั่งยืน