รู้จักกับสาร CBD ทางเลือกด้านสุขภาพ สำหรับความเครียด-นอนไม่หลับ

นายศกลภพ กิตติวราวุฒิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท กู๊ด เนเบอร์ส ไบโอเทคโนโลยี จำกัด (Good Neighbors Biotechnology : GNB) กล่าวว่า ในสังคมไทยกำลังเผชิญกับภัยเงียบทางสุขภาพ เรื่องปัญหาความเครียดและอาการนอนไม่หลับที่เพิ่มสูงขึ้น จากข้อมูล ResMed’s 2025 Global Sleep Survey เผยว่า กว่า 61% ของคนไทยมีปัญหาการนอนหลับ โดย 65%ให้เหตุผลว่าเป็นผลมาจากความเครียด 

สอดคล้องกับรายงานของกรมสุขภาพจิต ที่พบว่าคนวัยทำงานถึง 40% กำลังเผชิญภาวะเครียดสูง และ 17% มีความเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้า นอกจากนี้ แรงกดดันด้านการเรียน การทำงาน และการเงิน ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้คนรุ่นใหม่เข้าสู่ภาวะหมดไฟ ปัญหาเหล่านี้ส่งผลกระทบโดยตรง ต่อคุณภาพชีวิตและประสิทธิภาพการทำงานของประชากรในระยะยาว

“จากสถิติที่พบประมาณ 40% ของประชากรทั้งหมดมีปัญหาเรื่องความเครียด 2 ใน 3 ของคนไทย เคยมีปัญหาเรื่องการนอนไม่หลับอย่างน้อย 1 ครั้งในชีวิต"  

โดยกระทรวงสาธารณสุขของไทย ได้ประกาศให้สามารถใช้สาร CBD เพื่อประโยชน์เพื่อการแพทย์ งานวิจัย และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้ ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด ซึ่งงานวิจัยทางการแพทย์ชี้ให้เห็นถึงศักยภาพของ CBD ในการเป็นทางเลือกเพื่อสุขภาพจากธรรมชาติ และได้รับการยอมรับในหลายประเทศ เช่น เยอรมนี อิตาลี โปรตุเกส สหราชอาณาจักร แคนาดา นิวซีแลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ และสหรัฐอเมริกา ภายใต้กฎหมายที่ชัดเจน แต่ในประเทศไทยความเข้าใจเกี่ยวกับ CBD อาจจะยังอยู่ในกลุ่มที่จำกัด

นายศกลภพ กล่าวว่า Diip มุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความเข้าใจที่เพิ่มมากขึ้นในตลาดประเทศไทย พร้อมขับเคลื่อนให้ CBD เป็นทางเลือกเพื่อสุขภาพที่ทุกคนเข้าถึงได้จริง โดยสาร CBD มีอยู่ในพืชหลายชนิดแต่มีอยู่มากที่สุดคือในกัญชา การสกัดมีอยู่หลายขั้นตอนสำหรับการนำมาสร้างเป็นผลิตภัณฑ์ ภายใต้ข้อกำหนดของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ต้องมีปริมาณ THC (สารเสพติดประเภทที่ 1 จากองค์การอนามัยโลก) ไม่เกิน 2 ppm (parts per million) หรือ 0.0002%

โดย Good Neighbors Biotechnology ได้มองเห็นโอกาสทางธุรกิจในการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย เมื่อประเทศไทยเริ่มเปิดเสรีกัญชาทางการแพทย์ และเป็นหนึ่งในบริษัทเดียวในไทยที่ดำเนินธุรกิจแบบครบวงจร ตั้งแต่การเพาะปลูก สกัด ไปจนถึงการผลิตเป็นสินค้าสำเร็จรูป ได้รับมาตรฐาน GACP (Good Agricultural and Collection Practices) และการรับรอง GMP ICS และ ISO 9001

ปัจจุบันภายใต้แบรนด์ Diip มี 5 SKU วางจำหน่ายในร้านค้ามากกว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศ ยอดขายเติบโตขึ้นเนื่องทุกเดือน 20-30% หรือเติบโตขึ้น 10 เท่า เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งอัตราการซื้อซ้ำ (Re-purchase Rate) สูงมากถึง 80-90% ในช่องทางออนไลน์ โดยได้วางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ไว้ในกลุ่มอาหารเสริมเพื่อการนอนหลับ ซึ่งตลาดอาหารเสริมโดยรวมมีมูลค่าประมาณ 8.3 หมื่นล้านบาท ในลูกค้ากลุ่มที่เกี่ยวกับการนอนมีสัดส่วนประมาณ 16% หรือกว่า 1 หมื่นล้านบาท

“เรามีวางจำหน่ายตามร้านขายยาชั้นนำ และรีเทลอย่าง Villa Market และ Gourmet Market ทุกสาขา ทั้งร้านขายกัญชาที่น่าเชื่อถือ พร้อมตั้งเป้าวางจำหน่ายในร้านขายยาทั่วประเทศซึ่งมีอยู่ประมาณ 18,000 กว่าแห่ง ทั้งจับกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่คุ้นเคยกับการหาซื้อ CBD ในร้านประเภทนี้ ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ ส่วนช่องทางออนไลน์กว่า 95% เป็นคนไทย อายุ 30 ปีขึ้นไป จนถึงผู้สูงอายุ 80 กว่าปี”

นายศกลภพ กล่าวว่า ความท้าทายในตลาดนี้ ทัศนคติ (Stigma) และความเข้าใจผิดของคนทั่วไปที่ยังมองว่า CBD คือกัญชาและเป็นสิ่งน่ากลัว แพลตฟอร์มออนไลน์ ยังมีนโยบายปิดกั้นคำว่า "CBD" ทำให้ทำการตลาดได้ยาก แม้ผลิตภัณฑ์จะถูกกฎหมายก็ตาม ยังมีกฎระเบียบอีกหลายอย่างที่ทำให้ต้นทุนการผลิตของผู้ประกอการไทยสูงกว่าต่างประเทศ ทำให้แข่งขันในตลาดโลกได้ยาก

รวมทั้งยังอยากให้ภาครัฐสื่อสารให้ประชาชนเข้าใจความแตกต่างระหว่าง CBD (ไม่เสพติด) และ THC (สารที่ทำให้เมา) ช่วยเจรจากับแพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ที่ถูกกฎหมายสามารถทำการตลาดได้ และไม่ใช่แค่ควบคุมการใช้งาน แต่ต้องส่งเสริมการผลิตเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้วย

อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์ CBD ก็ยังมีข้อจำกัดด้านการนำเข้าในหลายประเทศ พกพาได้แต่แนะนำให้ตรวจสอบกฎหมายของประเทศปลายทางก่อน หากประเทศนั้นอนุญาตก็สามารถนำไปได้ แต่หากไม่แน่ใจหรือไม่ได้รับอนุญาต ไม่ควรนำไปเด็ดขาด