เปิดแผน สาธารณสุข รับมือฝุ่น PM 2.5 ลุย 4 มาตรการป้องกันกลุ่มเสี่ยง

03 ธ.ค. 2568 | 09:50 น.
อัปเดตล่าสุด :03 ธ.ค. 2568 | 09:52 น.

สธ. พร้อมรับมือฝุ่น PM 2.5 ช่วงหน้าหนาว เปิด 4 มาตรการดูแลประชาชน ตั้งเป้าปี 69 จัดห้องปลอดฝุ่นในศูนย์เด็กเล็ก โรงเรียนอนุบาล โรงพยาบาล รวม 2 หมื่นแห่ง แจกมุ้งสู้ฝุ่น 5 พันหลัง พร้อมเปิดคลินิกโรคอาชีวเวชกรรมจังหวัดละ 2 แห่ง ตั้งศูนย์ EOC ทุกจังหวัด

จากกรณีปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่มีแนวโน้มขยับเพิ่มสูงขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศไทยนั้น นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวยืนยันว่า ทางกระทรวงสาธารณสุขไม่ได้นิ่งนอนใจเกี่ยวกับสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ซึ่งพอเข้าช่วงฤดูหนาว สภาพอากาศกดตัว

ทำให้อากาศไม่ระบาย ทั้งการเผาทางการเกษตรก็ทำให้เกิดปัญหาฝุ่น PM 2.5 มากจึงมีการสร้างการรับรู้แก่ประชาชนตั้งแต่ช่วงเดือนที่ผ่านมาโดยเฉพาะผลกระทบที่เกิดกับกลุ่มเปราะบาง คนมีโรคประจำตัว คนแก่ เด็ก หญิงตั้งครรภ์

ด้าน นพ.ปองพล วรปาณิ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขมีมาตรการรองรับเรื่องฝุ่น PM 2.5 ทั้งหมด 4 มาตรการ ดังนี้ 

1.การสร้างความรับรู้ให้ประชาชน และกลุ่มเสี่ยง

2.ลดผลกระทบ ทั้งใส่หน้ากากอนามัยชนิดธรรมดา และ N 95 รวมถึงปี 2569 มีเป้าหมายทำห้องปลอดฝุ่นในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก โรงเรียนอนุบาลทั้งรัฐ เอกชน โรงพยาบาล ให้ได้ 2 หมื่นแห่ง และมุ้งสู้ฝุ่นประมาณ 5 พันมุ้ง ให้กลุ่มเปราะบาง

3. มีคลินิกให้บริการโรคอาชีวเวชกรรม เพื่อให้บริการดูแลผู้ได้รับผลกระทบอย่างน้อยจังหวัดละ 2 แห่ง

4. มีการตั้งศูนย์อีโอซี ทุกจังหวัด

อย่างไรก็ดี ในขณะนี้มีรายงานผู้ป่วยจากฝุ่น PM 2.5 มีเล็กน้อย เนื่องจากตอนนี้สถานการณ์ยังเป็นระดับสีเหลือง หรือ ค่อนข้างเป็นปกติแต่บางพื้นที่อาจจะมีสีส้ม เริ่มมีผลกระทบแต่ยังไม่มีรายงานผู้ป่วยอาการหนัก หรือเสียชีวิต ยังมีเพียงผู้ป่วยอาการเล็กน้อย

ส่วนผลกระทบกับสุขภาพระยะยาวหลังมีฝุ่น PM 2.5 มานานแล้ว โดยเฉพาะโรคปอด โรคมะเร็งนั้น มีข้อมูลว่า คนที่มีปัญหาทางเดินหายใจ เช่น หอบหืด ถุงลมโป่งพอง มีโอกาสที่จะเป็นหนักขึ้น เราก็พยายามป้องกันกลุ่มเสี่ยง ให้อยู่ในห้องปลอดฝุ่น มีอุปกรณ์ป้องกัน เช่น เครื่องฟอกอากาศ เลี่ยงไปพื้นที่ฝุ่นเยอะ สวมหน้ากาก N95 ส่วนมะเร็งปอดนั้นมีงานวิจัยว่า ฝุ่น PM 2.5 มีความสัมพันธ์ต่อการเกิดมะเร็งปอดสูงขึ้น